ฤดูกาลที่ยาวนานกำลังจะจบลงและผ่านไป สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก 2010/2011 บทสรุปแห่งแชมเปี้ยนออกมาเป็นที่เรียบร้อย และก็เป็นทีมขาประจำอย่าง "ปิศาจแดง" กลับมาทวงบัลลังก์คืนจากเชลซีได้อย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งไม่ต้องมาตัดสินกันจนถึงนัดสุดท้ายให้เสียเวลา ทำให้เด็กอสูรมีเวลาเตรียมตัวอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะลงเผชิญหน้ากับโคตรทีมแห่งสเปน บาร์เซโลน่า ช่วงปลายเดือนนี้ ณ.สนามเวมบลีย์ ถ้าหากเซอร์ อเล็กซ์ พาลูกทีมปราบทีมดังจากแคว้นกาตาลันจะเป็นการเถลิงแชมป์อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากจะเป็นดับเบิ้ลแชมป์แล้ว ยังเป็นการคว้าชัยยุโรปในประเทศบ้านเกิดอีกด้วย
ขณะที่อริร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ อย่าง "เรือใบสีฟ้า" สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกของสโมสรสิ้นสุดการรอคอยหลายทศวรรษของตัวเองลงได้สำเร็จ เท่ากับว่า 2 ยักษ์ใหญ่แห่งแมนเชสเตอร์เป็นเต้ยประจำพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ นอกจากนั้นแล้ว ซิตี้ ยังการันตีพื้นที่ 1 ใน 4 ได้สิทธิ์ไปเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าแน่นอน ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าเจ้าของทีมจะต้องหว่านเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้ทีมได้จับจ่ายดึงสตาร์พันล้านมาร่วมทีมอีกเป็นแถวแน่... ฤดูกาลหน้าน่ากลัวจริงๆเรือใบลำนี้!!
เชลซี กับ อาร์เซน่อล ดูโอจากลอนดอน ถือเป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังของพวกเขา ถ้าดูจากการเสริมทัพ โดยเฉพาะ "สิงห์บลูส์" ที่ลงทุนไปกับจำนวนเงินมหาศาล 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2500 ล้านบาท) แลกกับหัวหอกสแปนิช เฟร์นานโด ตอร์เรส เพื่อหวังให้เกมรุกบุกยิงคู่ต่อสู้กระจุย แต่ที่ไหนได้ นอกจากเจ้าตัวจะพกสากกะเบือมาจากแอนฟิลด์แล้ว ยังพาให้แนวรุกแชมป์เก่าทื่อกันไปทั้งแผง
เสี่ยหมีคงนอนตาไม่หลับ ด้วยความหงุดหงิดปนเสียดาย เพราะเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะเล่นได้แค่นี้มันค่าตัว 5 ล้านปอนด์ชัดๆ!! แต่ฝ่ายที่ยิ้มแก้มปริ ก็คือสาวก "หงส์แดง" คงสะใจกันเป็นแถว ที่เห็นความล่มจมของ ตอร์เรส มีอย่างที่ไหนทิ้งทีมไปกลางคัน สุดท้ายไปดับกับทีมใหม่ ก็อย่างว่ากองแช่งมีเยอะ โดยเฉพาะแฟนบอลคนไทยที่ส่วนใหญ่โรคจิตเสียด้วยสิ!!
ฝั่งเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันอย่าง "เดอะ กันเนอร์ส" ก็ท่าดีทีเหลวเหมือนทุกปี เล่นดูสนุกเปิดเกมรุกหวือหวา วันไหนผีเข้าแทบจะครองบอลอยู่ฝ่ายเดียว ก่อนที่จะเอาชนะคู่แข่งไปอย่างไม่ระบมหัวแม่เท้า แต่ถ้าวันใดหลุดฟอร์มก็เหมือน วีแกน ดีๆนี่เอง สิ่งแรกที่ เวนเกอร์ กุนซือคนเก่งต้องหาทางกำจัดออกไปก็คือสภาพจิตอันอ่อนแอของลูกทีม ดังที่เห็นมาตลอดทั้งฤดูก็คือผู้เล่นปืนโตไม่อาจรับมือกับเกมที่มีความเครียดสูงได้เลย เกมที่บีบมากๆ อาร์เซน่อล แทบจะไม่เอา ฉะนั้นการันตีได้เลยว่า ซีซั่นหน้า น่อลก็คงไม่ต่างจากนี้
ที่เหมือนจะน่าผิดหวังอีกทีมก็เห็นจะเป็น "เดอะ เร้ดส์" ลิเวอร์พูล เริ่มตั้งแต่ตัดสินใจพลาดด้วยการตั้งหัวเรือใหญ่ รอย ฮ็อดจ์สัน มากุมบังเหียน ยังดีที่บอร์ดบริหารไหวตัวทัน จัดการปลดแต่เนิ่นๆก่อนจะดึง ดัลกลิช ตำนาน "เครื่องจักรสีแดง" เข้ามากู้สถานการณ์และทีมก็ดีขึ้นทันตาเห็น ไม่อย่างนั้นทีมอาจตกชั้นไปแล้วก็ได้!!
ทั้งนี้ทั้งนั้น สถานการณ์ปัจจุบันของทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ยังคงลูกผีลูกคน จากที่เหมือนจะกลับมาสู่เส้นทางที่ดีของตัวเอง ได้ไปลุยยูโรป้าแบบแบเบอร์ แต่ล่าสุดกลับพังคารังให้กับ สเปอร์ส คู่แข่งแย่งโควต้ายุโรปโดยตรงเสียนี่ จึงต้องกลับมาลุ้นระทึกในเกมสุดท้าย แถมต้องยืมมือคนอื่นมาช่วยอีกต่างหาก เรียกว่าลุ้นเหนื่อยเลย ..... แต่เอ ... หรือว่า "หงส์แดง" จงใจแพ้เพราะเบื่อยูโรป้า อีกทั้งจะได้มาลุยพรีเมียร์แบบเต็มตัวอีกด้วย (คิดในแง่บวก อิอิ)
ขณะที่สถานการณ์ท้ายตารางกลับลุ้นสนุกกว่า เวสต์แฮม ไปแล้วหนึ่งทีม ต้องหาเพิ่มอีกสองจะครบโควต้าลุยแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลหน้า ซึ่งต้องบอกว่าชั่วโมงนี้ดูยากจริงๆ เพราะมีถึง 5 ทีมที่อยู่ในข่ายตกชั้น (วีแกน, แบล็คพูล, เบอร์มิงแฮม, วูล์ฟส์ และ แบล็คเบิร์น) จะว่าไปทีมที่ตกชั้นทีมแรกอย่าง "ขุนค้อน" ถือว่าน่าเสียดายถ้าวัดจากศักยภาพตัวผู้เล่น เรียกว่าเป็นระดับชาติเกือบยกทีม แสดงให้ห็นแล้วว่าที่ แกรนท์ พาเคยเชลซีได้รองแชมป์ยุโรปนั้นฟลุ๊คเห็นๆ!!
ส่งท้ายพรีเมียร์ลีกปีนี้ไม่มีอะไรน่าเซอร์ไพรส์ แชมป์ยังคงเวียนกันรับถ้วยอยู่ 2-3 ทีม ซิตี้ ก็แรงขึ้นมาจนน่ากลัว แต่ก็ไม่แปลกใจถ้าดูจากการเสริมทัพ ซั่นหน้าจะเป็นทีมที่มองข้ามไม่ได้ ทั้งในประเทศและในยุโรป เพราะเชื่อเหลือเกินว่าพวกเขาต้องเสริมทัพอีกเป็นกระบุง ฤดูกาลนี้จะปิดฉากลง ว่ากันวันหน้าฟ้าใหม่ ติดตามควาเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายนักเตะให้ดีๆ ต้องมีบิ๊กเนมพาเหรดเข้าสู่เวทีพรีเมียร์ลีกอีกหลายรายแน่นอน!!!
