Manchester United กลายเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจำนวนสถิติการครองแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษเรียบร้อยแล้ว จากที่สามารถบุกไปยันเสมอกับแบล็คเบิร์น โรเวอร์สได้ 1-1 เสาร์ที่ผ่านมา
19 ภาพนี้ เป็นภาพที่มีนักเตะคนสำคัญที่ร่วมกับแชมป์ลีกนับตั้งแต่สมัยที่ 1 - 19
1907-1908 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกได้สำเร็จ โดยบิลลี่ เมเรดิธ (ซ้าย) เป็นกำลังสำคัญ
1910-1911 : ชาร์ลี โรเบิร์ตส์ กัปตันทีมนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีก ด้วยคะแนนเฉือนแอสตัน วิลล่าเพียง 1 คะแนนเท่านั้น
1951-1952 : 41 ปีกับตำแหน่งแชมป์ลีกที่หายไปนาน กับการนำของแม็ธ บัสบี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง โดยจอห์นนี่ แคร์รี่ย์และสองขุนพล กัปตันทีมชาวไอริช และชาร์ลี มิทเท่น
1955-1956 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้ดาวรุ่งของแม็ธ บัสบี้ผู้จัดการทีมระดับตำนานบรรลุผลสำเร็จกับตำแหน่งแชมป์ ต่อมาทีมชุดนี้ถูกตั้งฉายาว่า :บัสบี้ เบบส์ โดยนักเตะคนสำคัญของทีมคือดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (ซ้าย) และเอ็ดดี้ โคลแมน (ขวา)
1956-1957 : เหล่านักเตะฉายา "บัสบี้ เบบส์" คว้าแชมป์ลีกไปครองอีกสมัย ซึ่งหลังจากนี้ไม่นานเกิดเหตุการณ์ที่เป็นหนึ่งในการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั่นคือเหตุการณ์เครื่องบินตกที่กรุงมิวนิค ประเทศเยอรมนี และดาวดังหลายๆคนก็เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้
1992-1993 : ชายที่ชื่ออเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือหนุ่มชาวสก็อตแลนด์ที่ยังไม่มีใครรู้จัก สามารถยุติการรอคอยแชมป์ 26 ปี โดยเขาได้ซื้อตัวนักเตะรายหนึ่งซึ่งแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยกให้เป็นราชาของพวกเขามีชื่อว่า "เอริค คันโตน่า"
1993-1994 : การคว้าแชมป์ลีกในปีนี้ เป็นปีเดียวกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั่นคือการจากไปของเซอร์แม็ธ บัสบี้ โดยทีมชุดนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของสโมสร (ชไมเคิ่ล, ปาร์คเกอร์ , บรูซ , พัลลิสเตอร์ , เออร์วิน , แคนเชสกี้ , อินซ์ , คีน , กิ๊กส์ , ฮิวจส์ , คันโตน่า) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ด้วย
1995-1996 : การกลับมาของเอริค คันโตน่าหลังจากถูกแบนข้อหาการไปกระโดดกังฟูคิกใส่แฟนบอล สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้ง ซึ่งทีมชุดนี้ได้พิสูจน์ว่าคำกล่าวของอลัน แฮนเซ่นตำนานของสโมสรลิเวอร์พูล ที่เคยพูดไว้ว่า "คุณไม่สามารถคว้าแชมป์อะไรด้วยเด็กๆได้" นั้นเป็นคำพูดที่ผิด
1996-1997 : ฤดูกาลแจ้งเกิดของเดวิด เบ็คแฮมกับลูกยิง 60 หลาของเขา และการเซ็นสัญญาด้วยราคา 1.2 ล้านปอนด์กับเพชรฆาตหน้าทารกชื่อว่าโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ โดยเรื่องที่น่าตกใจที่สุดหลังจบฤดูกาลนี้คือการประกาศแขวนสตั๊ดของเอริค คันโตน่า
1998-1999 : ปีที่ประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจารึกไว้ว่าทีมชุดนี้เป็นทีมชุดที่ดีที่สุดโดยการคว้าแชมป์ลีก , เอฟเอ คัพและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกซึ่งพวกเขาเป็นสโมสรแรกและสโมสรเดียวในอังกฤษที่สามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่ 3 แชมป์ภายในฤดูกาลเดียว
1999-2000 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังคงแข็งแกร่งไร้เทียมทาน โดยจบฤดูกาลด้วยการมีคะแนนเหนืออาร์เซนอลทีมอันดับ 2 มากถึง 18 คะแนน
2000-2001 : อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของประวัติศาสตร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดโดยเท็ดดี้ เชอร์ริ่งแฮมเป็นดาวซัลโว และฟาร์เบียง บาร์กเตซก็โชว์ฟอร์มการเซฟยอดเยี่ยมหลายครั้ง
2002-2003 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเซ็นสัญญากับฮวน เซบาสเตียน เวรอนและรุด ฟาน นิสเตอรอยในฤดูกาลก่อนหน้านี้แต่พวกเขาก็ต้องชวดแชมป์ไป ในฤดูกาลถัดมาพวกเขาก็คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ จากฟอร์มการถล่มประตูอันยอดเยี่ยมที่ต่อเนื่องของรุด ฟาน นิสเตอรอย อย่างไรก็ตามหลังจบฤดูกาลนี้ แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ต้องเสียน้ำตาให้กับการจากไปของเดวิด เบ็คแฮมที่ย้ายไปอยู่กับเรอัล มาดริด
2006-2007 : กับการมาของชายที่ชื่อว่าโจเซ่ มูรินโญ่ซึ่งเข้ามาเข้าบัลลังก์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2004-2005 และ 2005-2006 เด็กๆของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันก็กลับมาผงาดได้อีกครั้ง โดยสองกำลังสำคัญคือเวย์น รูนี่ย์และคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซึ่งทั้งสองคนมีปัญหากันหลังจบฟุตบอลโลก 2006 และนักวิจารณ์เชื่อว่าพวกเขาจะไม่สามารถกลับมาเล่นร่วมทีมเดียวกันได้ แต่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคำวิจารณ์ดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง
2007-2008 : เป็นฤดูกาลที่ไมเคิ่ล คาร์ริค ผู้สืบต่อหมายเลข 16 ของรอย คีนโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และอีก 3 ประสานในแนวรุกทั้งคริสติอาโน่ โรนัลโด้,เวย์น รูนี่ย์และคาร์ลอส เตเบซช่วยกันทำประตูถล่มทลายจนทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกมาครอง โดยพวกเขายังสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีกเหนือเชลซี
2008-2009 : อีกหนึ่งฤดูกาลที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครองความยิ่งใหญ่ ได้เซ็นสัญญากับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟหัวหอกอารมณ์ศิลปินเข้ามาร่วมทีม และเมื่อจบฤดูกาลพวกเขาก็ได้สูญเสีย 2 กำลังหลักทั้งคริสติอาโน่ โรนัลโด้และคาร์ลอส เตเบซไป อย่างไรก็ตามการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ทำให้พวกเขาทำสถิติแชมป์ลีกสูงสุด 18 สมัยเทียบเท่ากับลิเวอร์พูลคู่อริตลอดกาล
2010-2011 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานการเล่นนอกบ้านได้ย่ำแย่ที่สุด แต่ด้วยฟอร์มการเล่นในบ้านของตัวเอง ซึ่งเอาชนะไป 17 นัด จาก 18 เกมส์และยังคงเหลือการเล่นอีกหนึ่งเกมส์ กับการมาของฮาเวียร์ เอร์นานเดซหัวหอกจอมจบสกอร์ที่แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว ทำให้ตอนนี้พวกเขาคว้าแชมป์ไปครอง และทำสถิติกลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้มากที่สุดในเกาะอังกฤษเรียบร้อยแล้ว
credit : Man Utd's record 19 league titles in pictures
18 / 05 / 2011 13:13