ทีมยอดเยี่ยมศึกพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2010/11 ของ BBC
จบสิ้นกันไปแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตอบลพรีเมียร์ ลีก ประจำฤดูกาล 2010/11 แชมป์ปีนี้คือ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่ในโซนตกชั้น เวสต์แฮม ก็เร่งไม่ขึ้นตกไปเล่นในศึกแชมเปี้ยนชิพเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ในปีที่ผ่านมามีผู้เล่นที่ทำผลงานได้ีดีจนติดเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมอย่างพลิกความคาดหมายหลายราย
ขณะที่ผู้เล่นในทีมดังอย่าง อาร์เซน่อล - เชลซี หรือแม้กระทั่ง ลิเวอร์พูล กลับไม่มีชื่่่อแม้แต่คนเดียว โดยผู้เล่น 11 ตัวจริงที่ได้รับการคัดเลือกโดย Garth Cooks จากสำนักข่าวชื่อดังอย่าง บีบีซี ประกอบไปด้วยผู้เล่นจากเมืองแมนเชสเตอร์เป็นหลัก เราลองไปดูกันว่านักเตะ 11 คนที่ว่ามีใครบ้าง
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (แมนฯ ยูไนเต็ด) (อายุ 40 ปี)
ฟอร์มการเล่นของ ฟาน เดอ ซาร์ โดดเด่นตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา การเล่นของเขามีอิทธิพลต่อทีมมาก ผู้รักษาประตูวัย 40 ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งถึงทักษะความยอดเยี่ยมในการเล่นและมีส่วนต่อการคว้าแชมป์จึงเหมาสมอย่างยิ่งที่เจ้าตัวจะได้รับรางวัลนี้ แต่คำถามที่เกิดขึ้นคือใครจะมาแทนที่โกล์ร่างโย่งที่ประกาศแขวนถุงมือไปแล้ว?
เกร็ดน่ารู้ : ฟาน เดอ ซาร์ เป็นผู้รักษาประตูที่มีอายุมากที่สุดที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ด้วยวัย 40 ปีกับอีก 206 วัน
แบ็กซ้าย : เลห์ตัน เบนส์ (เอฟเวอร์ตัน) (อายุ 26 ปี)
นี่เป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของ เบนส์ เด็กท้องถิ่นที่เติบโตจนกลายมาเป็นผู้เล่นในทีมที่ตัวเองรัก นานแล้วที่ เอฟเวอร์ตัน ไม่มีผู้เล่นเท้าซ้ายที่มีคุณภาพขนาดนี้ เบนส์ เป็นนักเตะที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวท็อฟฟี่ และประตูที่เจ้าตัวยิงได้ช่วยพลิกเกมให้ทีมบ่อยครั้ง
เกร็ดน่ารู้ : ใน พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา เบนส์ จ่ายให้เพื่อยิงไป 11 ประตูและสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับเพื่อนร่วมทีม 74 ครั้งซึ่งนับว่าสูงมากสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : เนมานย่า วิดิช (แมนฯ ยูไนเต็ด) (อายุ 29 ปี)
วิดิช มีสไตล์การเล่นแบบกองหลังโบราณมีทุกอย่างที่ผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังควรจะมี ทั้งความห้าวหาญ เล่นเป็นระบบและมีการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมที่จะเสี่ยงตัวเองเพื่อทีมเสมอ ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ คริส สมอลลิ่ง น่าจะแบ่งค่าเหนื่อยของพวกเขาให้ วิดิช สักครึ่งหนึ่ง
เกร็ดน่ารู้ : ตั้งแต่ วิดิช ลงเล่นใน พรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคม ปี 2006 ถ้าทีมมีกองหลังเซิร์บรายนี้ลงสนามทีมชนะเกมลีกถึง 73 เปอร์เซนต์และ 59 เปอร์เซนต์เมื่อไม่มีกองหลังวัย 29 ปีรายนี้
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : แว็งซ็อง ก็องปานี (แมนฯซิตี้) (อายุ 25 ปี)
" มือสังหารเงียบ " คือฉายาของกองหลังเบลเยี่ยมรายนี้ ก็องปานี เป็นนักเตะที่เล่นได้ไม่สวยงามนักแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ในยามที่ทีมไม่มี โคโล่ ตูเร่ ถือว่าเขาเป็นผู้เล่นทีน่าจับตามองมาก
เกร็ดน่ารู้ : ไม่มีกองหลังคนไหนใน พรีเมียร์ ลีก ที่ลงสนามและรักษาคลีนชีตได้มากเท่ากับ ก็องปานี ที่ทำไป 18 ครั้ง
แบ็กขวา: ปาโบล ซาบาเลต้า (แมนฯซิตี้) (อายุ 26 ปี)
ซาบาเลต้า เล่นได้แข็งแกร่ง - คงเส้นคงวา และมีความเป็นผู้ใหญ่ นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ แมนฯซิตี้ มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม ระยะเวลาที่เจ้าตัวอยู่กับสโมสร ผลงานของเขาก็บอกได้ชัดเจนถึงความยอดเยี่ยม ซาบาเลต้า เป็นผู้เล่นที่มาเติมเต็มทีมยามที่ แมนฯซิตี้ โดนปัญหานักเตะบาดเจ็บรุมเร้า ขณะที่เขาต้องกลับมาจากการเฝ้าอาการป่วยของบิดาที่ อาร์เจนติน่า ตามความต้องการของ มันชินี่ เพื่อมารับใช้ทีมในเกมที่เจอกับ แมนฯยูฯ ในรอบรองฯ เอฟเอ คัพ
เกร็ดน่ารู้ : แมนฯซิตี้ ชนะเกมลีกถึง 65 เปอร์เซนต์เมื่อมี ซาบาเลต้า ลงสนามและลดลงเหลือ 33 เปอร์เซนต์เมื่อไม่มีกองหลังรายนี้
มิดฟิลด์ตัวรับ : สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) (อายุ 30 ปี)
การได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอลอังกฤษ (พีเอฟเอ) เฉือนเอาชนะ แกเร็ธ เบล น่าจะเป็นการอธิบายที่เพียงพอแล้วสำหรับนักเตะวัย 30 ปี
เกร็ดน่ารู้ : ถ้า เวสต์แฮม ลงสนามในลีกโดยมี ปาร์คเกอร์ เป็น 11 ตัวจริงทีมเก็บชัยมาคิดเป็นร้อยละ 23 แต่ถ้าเจ้าตัวไม่ได้ลงเป็น 11 ตัวจริงทีมก็เก็บชัยไม่ได้เลยแม้แต่เกมเดียว
ปีกซ้าย : แกเร็ธ เบล (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) (อายุ 21 ปี)
เบล สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกองเชียร์สเปอร์มาตลอดทั้งซีซั่นด้วยความมุ่งมั่นที่มีและรวดเร็วของเขา คำถามที่มีคือ สเปอร์ จะเก็บปีกรายนี้ไว้หรือว่าจะแลกกับค่าตัวอันแสนงามที่ถูกหยิบยื่นมา
เกร็ดน่ารู้ : เบล เป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์คนเดียว และเป็น1 ใน 5 นักเตะที่ฤดูกาลนี้ทำแฮตทริก ได้ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก
ปีกขวา : ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย (วีแกน แอธเลติก) (อายุ 24 ปี)
ผมไม่รู้ว่าว่าการเล่นของเขาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังจะทำให้ วีแกน เล่นได้ดีขึ้นหรือไม่ หรือว่าจะทำได้ดีแค่เจ้าตัวเพียงรายเดียว เหตุผลจะเป็นอะไรก็ตามแต่ผลงาน 12 เกมล่าสุดเป็นอะไรที่มหัศจรรย์ ดีขนาดที่ว่า เอ็นซ็อกเบีย ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้เล่ยยอดเยี่ยมของ วีแกน โดยไร้คู่แข่ง
เกร็ดน่ารู้ : เอ็นซ็อกเบีย มีเปอร์เซนต์การเลี้ยงลูก 8.8 ครั้งต่อเกมในฤดูกาลนี้มากที่สุดในลีก นำห่างคนอื่นๆอยู่เกือบสามครั้ง
กองกลางตัวรุก : ยาย่า ตูเร่ (แมนฯซิตี้) (อายุ 28 ปี)
ใครที่ได้ค่าเหนื่อยต่อสัปดาห์เทียบเท่ากับผู้เล่นรายนี้ ควรจะเล่นได้อย่างเขา มิดฟิลด์วัย 28 ปีเล่นได้ดีสมกับฉายาที่ว่า " เจ้าชายอาหรับ "
เกร็ดน่ารู้ : ยาย่า ผ่านบอลให้เพื่อนได้ทั้งหมด 1566 ครั้งใน พรีเมียร์ ลีก ฤดูกานี้มากกว่าเพื่อนร่วมทีมทุกรายมากกว่า 44 ครั้ง
กองหน้า : คาร์ลอส เตเบซ (แมนฯซิตี้) (อายุ 27 ปี)
เตเเบซ ถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญมากของทีม แต่กองหน้าอาร์เจนไตน์ก็โดนปัญหารุมเร้ามาตลอดทั้งฤดูกาล ผมเห็นหลายเกมใน พรีเมียร์ ลีกฤดูกาลนี้ที่ แมนฯซิตี้ สามารถเก็บชัยได้จากการเล่นที่ทุ่มเทของกองหน้ารายนี้ ไม่มีผู้เล่นคนไหนในลีกแล้วที่จะขยันเท่ากับ เตเบซ
เกร็ดน่ารู้ : เตเบซ ทำประตูได้ 35 เปอร์เซนต์ของจำนวนที่ แมนฯซิตี้ ทำได้ในลีกซีซันนี้รวมถึงการทำเข้าประตูตัวเองด้วย อัตราส่วนสูงกว่าผู้เล่นทุกคนใน พรีเมียร์ ลีก
กองหน้า : ฆาเบียร์ เอร์นานเดซ (แมนฯ ยูไนเต็ด) (อายุ 22 ปี)
ชิชาริโต้ เป็นผู้เล่นที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับทีมในฤดูกาลนี้ กองหน้าจอมขยันชาวเม็กซิกันกำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับแฟนบอลของทีมดังเช่นตำนานแมนฯยูฯอย่าง มาร์ค ฮิวจ์ส และ สจ๊วต เพียร์สัน ผมไม่แปลกใจเลยว่ากองหน้ารายนี้จะมีจิตวิญญาณเช่นเดียวกับบุคคลสำคัญของสโมสรเมื่อดูจากผลงาน
เกร็ดน่ารู้ : ไม่นับรวมจุดโทษ เอร์นานเดซ เป็นผู้เล่นที่มีค่าเฉลี่ยการยิงประตูที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ ร้อยละ 29.6 เป็นเปอร์เซนต์ที่น้อยที่สุดในจำนวน 10 ประตูที่เจ้าตัวทำได้
ผู้จัดการทีม : โทนี่ พูลิส (สโต๊ค ซิตี้) (อายุ 53 ปี)
พูลิช พา สโต๊ค ทีมที่ธรรมดาไม่มีความพิเศษอะไรเข้าชิง เอฟเอ คัพ และได้สิทธิไปเล่นรายการยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี เขาสมควรได้รับการชื่นชมอย่างสูง ที่เป็นฤดูกาลที่น่าจดจำของทีม ทำได้ดีมาก พูลิส!