


ฟุตบอล เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ นัดชิงชนะเลิศ
เร้ดดิ้ง (5) -vs- สวอนซี (3) ... (21.00 น.)
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
ราคาบอล : เสมอ สวอนซี
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
01/01/11 สวอนซี ชนะ เร้ดดิ้ง 1-0
16/10/10 เร้ดดิ้ง แพ้ สวอนซี 0-1
26/12/09 เร้ดดิ้ง เสมอ สวอนซี 1-1
19/08/09 สวอนซี เสมอ เร้ดดิ้ง 0-0
17/01/09 สวอนซี ชนะ เร้ดดิ้ง 2-0
27/09/08 เร้ดดิ้ง ชนะ สวอนซี 4-0
29/08/07 สวอนซี แพ้ เร้ดดิ้ง 0-1
23/08/05 เร้ดดิ้ง ชนะ สวอนซี 3-1
17/01/05 สวอนซี แพ้ เร้ดดิ้ง 0-1
08/01/05 เร้ดดิ้ง เสมอ สวอนซี 1-1
ฟอร์ม 6 นัดล่าสุดในลีก
(5) เร้ดดิ้ง
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 7 เสีย 5 มี 6 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 0 ได้ 2 เสีย 0 มี 5 แต้ม
(4) สวอนซี
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 9 เสีย 2 มี 7 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 3 เสีย 2 มี 4 แต้ม
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
เร้ดดิ้ง
25/04/11 แพ้ เชฟฯยูไนเต็ด 2-3 (เหย้า) / ต่อ 1.5 ... เสีย
30/04/11 เสมอ โคเวนทรี 0-0 (เยือน) / ต่อ ปป ... เสียครึ่ง
07/05/11 ชนะ ดาร์บี้ 2-1 (เหย้า) / ต่อ 0.75 ... บวกครึ่ง
14/05/11 เสมอ คาร์ดิฟฟ์ 0-0 (เหย้า) / ต่อ 0.5 ... เสีย
18/05/11 ชนะ คาร์ดิฟฟ์ 3-0 (เยือน) / รอง ปป ... บวก
สวอนซี
25/04/11 ชนะ อิปสวิช 4-1 (เหย้า) / ต่อ 0.75 ... บวก
30/04/11 ชนะ มิลวอลล์ 2-0 (เยือน) / รอง 0.5 ... บวก
07/05/11 ชนะ เชฟฯยูไนเต็ด 4-0 (เหย้า) / ต่อ 1 ... บวก
13/05/11 เสมอ ฟอเรสต์ 0-0 (เยือน) / รอง ปป ... บวกครึ่ง
17/05/11 ชนะ ฟอเรสต์ 3-1 (เหย้า) / ต่อ 0.5 ... บวก
สถิติน่าสนใจ
เฮด ทู เฮด
- เร้ดดิ้ง ดวลกับ สวอนซี มา 73 ครั้ง เป็นทาง "เดอะ รอยัลส์" กำชัยไป 33 หนและเพลี่ยงพล้ำ 28 ครั้ง
- สวอนซี ยังไม่แพ้ เร้ดดิ้ง ในการพบกัน 5 ครั้งหลังสุดและเป็นฝ่ายฟาดชัยมาติดต่อกันในสองครั้งที่ผ่านมา
เร้ดดิ้ง
- เร้ดดิ้ง มีสถิติในรอบเพลย์อ๊อฟที่ไม่ดีนัก เพราะเก็บชัยชนะได้เพียง 3 ครั้งจาก 12 เกมหลังสุด เสมอ 3 และแพ้ถึง 6 ครั้ง
- พลพรรค "เดอะ รอยัลส์" กำลังหมายมั่นปั้นมือที่จะกลายเป็นสโมสรที่ 7 ซึ่งคว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกสำเร็จจากการเพลย์อ๊อฟ ภายหลังที่จบฤดูกาลปกติในฐานะทีมอันดับ 5 โดยหนล่าสุดที่ทีมอันดับ 5 ได้ตั๋วทะยานสู่ลีกสูงสุดคือ เบิร์นลี่ย์ ในปี 2009
- ระยะหลังระเบียบเกมรับของ เร้ดดิ้ง แข็งแกร่งมาก เพราะเสียเพียงประตูเดียวจาก 4 เกมหลังสุดและถูกเจาะตาข่าย 5 ลูกเท่านั้นในช่วง 8 นัดที่ผ่านมา
สวอนซี
- สวอนซี ชนะ 7 เสมอ 6 และแพ้ 3 จากการหวดเกมรอบเพลย์อ๊อฟ 16 แมตช์ที่ผ่านมา
- แนวรับ ซิตี้ ไม่เสียประตูใน 4 จาก 6 เกมหลังสุด
ทำเนียบดาวซัลโว
เร้ดดิ้ง
เชน ลอง : 25 ประตู (แชมเปี้ยนชิพ/21, เพลย์อ๊อฟ/2, เอฟเอ คัพ/2)
เอียน ฮาร์ท : 13 ประตู (แชมเปี้ยนชิพ/13 : รวม 2 ประตูที่ยิงให้ คาร์ไลส์)
สวอนซี
สก็อตต์ ซินแคลร์ : 24 ประตู (แชมเปี้ยนชิพ/19, ลีก คัพ/4, เอฟเอ คัพ/1)
ดาร์เรน แพร็ตลี่ย์ : 12 ประตู (แชมเปี้ยนชิพ/9, เพลย์อ๊อฟ/1, เอฟเอ คัพ/1, ลีก คัพ/1)
สวอนซี เล่นนอกบ้าน 7 ครั้งหลังสุดเพิ่งเก็บชัยชนะได้หนเดียว
พรีวิว & สภาพความพร้อมล่าสุด
คู่ชิงเพลย์อ๊อฟในปีนี้เปรียบเสมือนหนังชีวิตก็ว่าได้สำหรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพราะกุนซือคนหนุ่มไฟแรงวัย 38 ปีรายนี้ เคยกุมบังเหียน เร้ดดิ้ง เมื่อปี 2009 ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ แต่ใครจะรู้ว่าอีก 17 เดือนให้หลัง ร็อดเจอร์ส จะพาต้นสังกัดใหม่ตีตั๋วรอบชิงดำของการเพลย์อ๊อฟสำเร็จ แถมต้องมาหักด่านกับทีมเก่าอย่าง เร้ดดิ้ง เพื่อยื้อแย่งวีซ่าผ่านขึ้นไปโชว์ฝีเท้าบนลีกสูงสุดในซีซั่นหน้า พร้อมเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะในค่ำคืนนี้กว่า 90 ล้านปอนด์
ร็อดเจอร์ส ถือเป็นลูกหม้อของ เร้ดดิ้ง อย่างแท้จริง เพราะเคยคลุกคลีกับ "เดอะ รอยัลส์" มากว่า 14 ปี ทั้งในฐานะผู้เล่น, สต๊าฟโค้ช ไปจนถึงบทบาทสำคัญอย่างผู้จัดการทีมและนัดนี้เขาต้องลงดวลกึ๋นกับ ไบรอัน แม็คเดอม็อตต์ อดีตหัวหน้ากลุ่มแมวมอง ซึ่ง ร็อดเจอร์ส เคยเป็นลูกทีมตอนที่หากินในถิ่น มาเตจสกี้ สเตเดี้ยม โดยฝีไม้ลายมือของ แม็คเดอม็อตต์ ก็ไม่ธรรมดา หลังจากพา เร้ดดิ้ง ไต่อันดับจากที่ 12 มาติดท๊อปซิกส์ แถมมีลุ้นเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติด้วยซ้ำ
เร้ดดิ้ง มุ่งหน้าสู่ เวมบลีย์ ด้วยสถิติแพ้นัดเดียวจาก 12 เกมหลังสุด โดยจุดแข็งของทีมอยู่ที่แผงเกมรับซึ่งเสียแค่ 5 ประตูเท่านั้นจาก 8 นัดหลังสุด ส่วนแนวรุกมีทีเด็ดจาก เชน ลอง ที่ระเบิดฟอร์มเก่งแบบถูกที่ ถูกเวลา หลังจากซัดให้ทีมไปแล้ว 25 ตุงในซีซั่นนี้ เป็นรองเพียง แดนนี่ เกรแฮม ของ วัตฟอร์ด เพียงรายเดียว
สวอนซี กรุยทางเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997 ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับ ร็อดเจอร์ส ไปเต็ม ๆ เพราะยกระดับความเหนียวแน่นของเกมรับจนเป็นรองแค่ทีมแชมป์ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส เท่านั้น โดยในฤดูกาลปกติเกมรับของ "หงส์ขาว" เสียแค่ 42 ประตู แถมถูกโฉลกเหลือเกินกับการรับมือแนวบุกของ เร้ดดิ้ง หลังจากปล่อยให้แนวรุก "เดอะ รอยัลส์" หลุดเข้าไปยิงประตูได้ลูกเดียวในการพบกัน 5 ครั้งหลังสุด
ด้านความพร้อม ไบรอัน แม็คเดอม็อตต์ นายใหญ่ เร้ดดิ้ง ต้องรอทดสอบความฟิตของ จิมมี่ เคเบ้ ปีกจรวดชาวมาลี ที่เจ็บต้นขาจนพลาดการลงสนามให้ทีมมาต่อเนื่อง 6 เกม ซึ่งในกรณีที่ เคเบ้ ไม่ฟิตเต็มร้อย ทาง ฮัล ร็อบสัน คานู กับ ฌอน คัมมิ่งส์ ต้องเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกันในบทบาทตัวริมเส้นฝั่งขวาของทีม นอกเหนือจากนั้น เร้ดดิ้ง ไม่มีปัญหาใด ๆ เพิ่มเติม โดยแกนหลักที่ช่วยให้ทีมไม่แพ้ใครมา 4 เกม จะถูกส่งลงบู๊ต่อ คู่หน้าวาง เชน ลอง ล่าตาข่ายกับ โนเอล ฮันท์
ฝั่ง สวอนซี ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เตรียมส่ง อลัน เทต ลงยืนแบ็กซ้ายแทน นีล เทย์เลอร์ ที่่ติดโทษแบนเป็นเกมสองจากทั้งหมด 3 นัด ขณะที่ข่าวดีคือกัปตันทีม การ์รี่ มองค์ ผ่านการเช็กฟิตและพร้อมลงคุมแนวรับร่วมกับ แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ อีกครั้ง ทำให้มีแนวโน้มว่าแผงไลน์อัพจากนัดถล่ม ฟอเรสต์ 3-1 ในเลกสองของรอบตัดเชือกจะถูกส่งลงรับมือ เร้ดดิ้ง มี สก็อตต์ ซินแคลร์ คุมเกมแดนกลาง ส่วนแนวรุกระบบ 4-3-3 ส่ง สตีเฟ่น ด๊อบบี้ ประสานงานกับ ฟาบิโอ บอรินี่และ ดาร์เรน แพร็ตลี่ย์
ซอคเกอรูส์ ชี้ช่องรวย
ถือเป็นคู่ชิงตั๋วพรีเมียร์ฯ ที่สมน้ำสมเนื้อ เพราะโคจรมาพบกันในช่วงที่ท๊อปฟอร์มพอดี โดย เร้ดดิ้ง เพลี่ยงพล้ำในลีกหนเดียวจาก 18 เกมหลังสุดภายใต้การคุมทีมของ แม็ตเดอม็อตต์ ซึ่งไม่ว่าจะเกมเหย้าหรือเยือนดูเหมือน "เดอะ รอยัลส์" จะทำได้ดีทั้งหมด ทำให้ศึกนี้ทีมจาก เบิร์คเชียร์ ดูจะมีภาษีเหนือ สวอนซี อยู่เล็กน้อย เพราะแม้พลพรรค "หงส์ขาว" จะมีเกมรับเหนียวกว่า แต่ที่ผ่านมาเด็ก ๆ ของ ร็อดเจอร์ส ยังโชว์ฟอร์มนอกบ้านไม่เด็ดขาดนัก พิจารณาจากเรตเสมอแล้ว ถือหางเชียร์ เร้ดดิ้ง ที่คงเส้นคงวาและปรับสภาพกับการเล่นนอกถิ่นได้มากกว่าน่าจะได้เฮในบั้นปลาย
เดิมพันน่าสนใจ : "วาง เร้ดดิ้ง เสมอ"
ระดับความมั่นใจ : "8/10"
ผลบอลที่คาด : เร้ดดิ้ง เฉือนหวิว 1-0