ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 3
ไบรจ์ตัน (3, แชมเปี้ยนชิพ) -vs- ลิเวอร์พูล (8, พรีเมียร์ลีก) ... (01.45 น.)
สนาม : อเมริกัน เอ็กซ์เพรส คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม
ราคา : ลิเวอร์พูล ต่อ ครึ่งควบลูกบวกสิบ

ผลการพบกันของทั้งสองทีม
22/03/83  ไบรจ์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
30/10/82  ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรจ์ตัน   3-1
06/03/82  ลิเวอร์พูล แพ้ ไบรจ์ตัน    0-1
17/10/81  ไบรจ์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 3-3
21/02/81  ไบรจ์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
27/09/80  ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรจ์ตัน   4-1
22/03/80  ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรจ์ตัน   1-0
10/11/79  ไบรจ์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล  1-4

ฟอร์ม 5 นัดล่าสุดใน ลีก คัพ
ไบรจ์ตัน
05/11/08 แพ้ ดาร์บี้ 1-4 (เหย้า)
12/08/09 แพ้ สวอนซี 0-3 (เยือน)
11/08/10 แพ้ นอร์ทแฮมป์ตัน 0-2 (เยือน)
10/08/11 ชนะ จิลลิ่งแฮม 1-0 (เหย้า)
24/08/11 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0 (เหย้า) ไบรท์ตันชนะต่อเวลา

ลิเวอร์พูล
13/11/08 แพ้ สเปอร์ส  2-4 (เยือน)
23/09/09 ชนะ ลีดส์  1-0 (เยือน)
29/10/09 แพ้ อาร์เซน่อล 1-2 (เยือน)
23/09/10 เสมอ นอร์ทแฮมป์ตัน 2-2 (เหย้า) ลิเวอร์พูลแพ้จุดโทษ
25/08/11 ชนะ เอ็กเซเตอร์ 3-1 (เยือน)
 
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
ไบรจ์ตัน
17/09/11 แพ้ เลสเตอร์  0-1 (เยือน) รอง ปป ... เสีย
10/09/11 ชนะ บริสตอล ซิตี้ 1-0 (เยือน) เสมอ ... บวก
27/08/11 ชนะ ปีเตอร์โบโร่ 2-0 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... บวก
24/08/11 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0 (เหย้า) ลีก คัพ / รอง ปป ... บวกครึ่ง
20/08/11 เสมอ แบล็คพูล 2-2 (เหย้า) ต่อ ปป ... เสียครึ่ง
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก : แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 6 เสีย 3 มี 7 แต้ม 

ลิเวอร์พูล
18/09/11 แพ้ สเปอร์ส  0-4 (เยือน) เสมอ ... เสีย
10/09/11 แพ้ สโต๊ค  0-1 (เยือน) ต่อ ปป ... เสีย
28/08/11 ชนะ โบลตัน  3-1 (เหย้า) ต่อ 1.25 ... บวก
25/08/11 ชนะ เอ็กเซเตอร์ 3-1 (เยือน) ลีก คัพ / ต่อ 1.5 ... บวก
20/08/11 ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 (เยือน) รอง ปป ... บวก 
ฟอร์มเกมเยือนในลีก : แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 2 เสีย 5 มี 3 แต้ม 
 
สถิติน่าสนใจ
 * เป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของสองทีมในรอบกว่า 2 ทศวรรษ เพราะหนล่าสุดที่ประจัญหน้ากันต้องย้อนไปเมื่อเดือน มกราคม 1991 ซึ่ง ลิเวอร์พูล เบียดเข้าป้ายแบบหืดจับ 3-2 ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3
 * สำหรับเส้นทางสาย ลีก คัพ ก็เพิ่งดวลกันแค่หนเดียวในปี 1985 โดย "หงส์แดง" ยุคทองเป็นฝ่ายต้อนสบาย 4-0 ซึ่ง เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือคนปัจจุบันของทีมเป็นผู้ยิงประตูปิดท้ายให้ ลิเวอร์พูล
 * คู่นี้พบกันมาทั้งหมด 23 ครั้ง ลิเวอร์พูลฟาดชัยไปครอง 11 หนและถูก ไบรจ์ตัน ทวงคืนเพียง 4 ครั้งเท่านั้น

ไบรจ์ตัน
 * ไบรจ์ตัน ไม่เคยไปไกลกว่ารอบ 3 นับตั้งแต่ฤดูกาล 1979-80
 * ซีซั่นนี้พลพรรค "เดอะ ซีกัลส์" เพิ่งเสียท่าแค่หนเดียวและยังไม่เคยแพ้ในรังเหย้านับสักครั้ง ขณะเดียวกัน ไบรจ์ตัน ยังมีสถิติเกมรับที่แข็งแกร่ง เพราะรักษาเกมศูนย์ได้ทุกนัดในการเล่น ลีก คัพ
  
ลิเวอร์พูล
 * เป็นเจ้าพ่อประจำรายการนี้ เพราะซิวแชมป์ไปครองสูงสุดที่ 7 สมัย
 * ลูกทีมของ ดัลกลิช ยังไม่เคยเข้าลึกกว่ารอบ 5 นับตั้งแต่ฤดูกาล 2004-5 ที่พลาดท่า เชลซี ในรอบชิงดำ 
 
ภาพรวมความพร้อมก่อนการแข่งขัน

               กุสตาโว่ โปเยต์ กุนซือชาวอุรุกวัยเตรียมส่ง เมาริซิโอ ทาริคโก้ อดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยค้าแข้งกับ สเปอร์ส ในวัย 38 ปี ซึ่งถูกดึงตัวมาร่วมงานในฐานะผู้ช่วยฯลงรับบทแบ็กซ้ายแทนเจ้าของตำแหน่ง มาร์กอส เพนเตอร์ ที่ติดโทษแบน พร้อมกันนั้น โปเยต์ ตัดสินใจส่งชื่อ วิล ฮอสกิ้นส์กับ บิเซนเต้ รวมมากับขุมกำลังชุดนี้ด้วย หลังจากรายแรกหายเจ็บสะโพก ส่วนอดีตปีกทีมชาติสเปนเพิ่งฟื้นฟูสภาพความฟิตได้นับตั้งแต่ย้ายทีมมาแบบไม่มีค่าตัวเมื่อปลายเดือนก่อน ขณะที่กองหลังวัยรุ่น ลูอิส ดังค์ มีแนวโน้มว่าจะถูกดร็อบ เนื่องจากเสี่ยงต่อการโดนแบนในช่วงสุดสัปดาห์ เพราะติดคาดโทษใบเหลืองอยู่
   
               เคนนี่ ดัลกลิช นายใหญ่ "หงส์แดง" เตรียมส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงยืดเส้นยืดสายเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ภายหลังกองกลางกัปตันทีมขวัญใจสาวก "เดอะ ค็อปส์" ฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัดขาหนีบจนกลับมาฟิตเปรี๊ยะอีกครั้ง พร้อมกันนั้นทีมเยือนจะส่ง เซบาสเตียน กัวเตส ลงประเดิมยืนเซนเตอร์แบ็กตัวจริง หลังจากที่นัด "ซูเปอร์ซันเดย์" ชิมลางด้วยการลงเป็นสำรองแทน ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ยังไม่พ้นครึ่งชั่วโมงแรก

               ขณะเดียวกันมีแนวโน้มว่าดาวยิงขิงแก่ เคร็ก เบลลามี จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกเช่นกันนับตั้งแต่หวนกลับมาปักหลักค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์คำรบสองในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนมิดฟิลด์แดนวิสกี้ ชาร์ลี อดัมกับปราการหลังทีมชาติสโลวาเกีย มาร์ติน สเคอร์เทล ต้องติดโทษแบนไปตามระเบียบหลังโดนตะเพิดออกจากสนามในเกมพ่ายยับ 0-4 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน
 
               จากบรรยากาศที่เริ่มร้อนภายหลังความพ่ายแพ้ในลีกสองนัดรวด ทำให้คิวเยือนทีมรองบ่อนคราวนี้มีความเป็นไปได้สูงว่า "คิง เคนนี่" จะส่งทีมชุดแกร่งรับมือ ไบรท์ตัน เหมือนในรอบก่อนกับ เอ็กเซเตอร์ โดย "สตีวี่จี" จะเสียบแทนตำแหน่งของ อดัม และจะเดินเกมร่วมกับ ลูคัส เลว่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สันและ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ทางด้านแดนหน้าต้องลุ้นว่า แอนดี้ คาร์โรลล์หรือ หลุยส์ ซัวเรซ จะลงจับคู่กับ เบลลามี 
 
ซอคเกอรูส์ ชี้ช่องรวย

                หากว่ากันเรื่องชื่อชั้น ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเจ้าบ้านแบบไร้คำครหา เพียงแต่ช่วงนี้เด็ก ๆ ของ "คิง เคนนี่" เครื่องกำลังช็อต เพราะแนวรุกเท้าบอดมาแล้วสองเกม ขณะที่หลังบ้านก็ยังมีช่องโหว่หลังจากเสียประตูมาแล้วสี่นัดติด ซ้ำร้ายแมตช์นี้ทีมเยือนต้องมาเสียตัวเล่นหลักไปหลายราย ทำเอาน่าหนักใจไม่น้อยสำหรับการรับมือทีมรองบ่อน ไบรจ์ตัน ที่ฟอร์มแรงยืนระยะมาตั้งแต่เปิดฤดูกาล อย่างไรก็ตามสาวก "หงส์แดง" พอจะอุ่นใจได้อยู่ เนื่องจากทีมรักมักฟอร์มเฉียบในรายการนี้และหากพิจารณากันจริง ๆ ขุมกำลังที่เหลือของ ลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะส่งชุดไหนลงก็ยังดูน่าลุ้นกว่าเจ้าบ้านอยู่ดี กอปรกับสถานการณ์ที่บีบคั้นให้ทีมของ ดัลกลิช ต้องชนะเพื่อฟื้นฟูความมั่นใจหลังจากฟอร์มเริ่มสะดุดถี่ ทำให้ศึกนี้ยังน่าถือหางเชียร์พวกเขาที่ "ครึ่งควบ" เชื่อว่าจะมีกำไรเข้ากระเป๋าหนึ่งมุมเป็นอย่างน้อย
 
เดิมพันน่าสนใจ : "ต่อ ลิเวอร์พูล ครึ่งควบ"
ระดับความมั่นใจ : "8/10"
ผลบอลที่คาด : "หงส์แดง" คืนฟอร์มบุกสอย 2-1, 3-1