พรีวิว ลา ลีกา นัดที่ 14 : สงครามต่างดาว
ฟุตบอลลีกประจำประเทศสเปนกำลังเข้าสู่ครึ่งทางของฤดูกาล ทว่าสำหรับแฟนบอลหรือสื่อแดนกระทิงดุ ต่างให้ความเห็นเกี่ยวกับแมตช์หยุดโลกเกมนี้ว่า ไม่ต่างอะไรกับแมตช์ชิงแชมป์ลีก สำหรับ เรอัล มาดริด -vs- บาร์เซโลน่า สงครามแข้งที่เราเรียกกันว่า "เอล กลาซิโก้"
ก่อนจะเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบัน ขอท้าวความถึงฤดูกาลที่ผ่านมาก่อน เพราะคู่ผัวตัวเมียสองรายนี้เจอกันบ่อยเหลือเกิน (5 ครั้ง) จากทุกรายการ ย้ำ ทุกรายการเจอกันหมด ไม่ว่าจะเป็น ลา ลีกา (2) , แชมเปี้ยนส์ ลีก (2) และ โกปา เดลเรย์ (1) เป็นฝ่าย บาร์เซโลน่า ที่ทำผลงานได้ดีกว่า เอาชนะไปได้ 2 ครั้ง เสมอ 3 (ในเวลา) ทว่าการเสมอ 1 ในสามครั้งนี้เป็นความสำเร็จของ "ราชันชุดขาว" ที่คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ด้วยประตูชัยของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน เรอัล มีแต้มนำ บาร์ซ่า อยู่สามคะแนน และแข่งน้อยกว่าอยู่หนึ่งนัด ในจุดนี้มันกลายเป็นโจทย์ที่ยากสุดๆของ โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า ที่ต้องพาทีมมาเอาชนะให้ได้เท่านั้นถึงจะกระชับพื้นที่เข้าหา มาดริด ได้ (ถ้าชนะแต้มเท่า แข่งมากกว่าหนึ่งนัด) ทว่าในเรื่องของจิตวิทยา ถือว่าสร้างความกังวลใจให้ "ทัพราชันย์" ได้ไม่น้อย ... แต่ !! ถ้าแพ้ แต้มจะถูกฉีกไปถึง 6 แต้ม แถม มาดริด มีเกมในมืออยู่อีกหนึ่งนัด หากเก็บชัยได้อีกจะหนีห่างเป็น 9 แต้ม กลายเป็นน้ำท่วมทั่วกรุงเลยทีนี้
จริงอยู่ที่ยุคนี้เป็นยุคที่ บาร์เซโลน่า ถูกหยิบยกให้มีภาษีที่เหนือกว่าแชมป์ลีก 31 สมัย อย่าง เรอัล ด้วยความที่เป็นทีมที่มีสไตล์การเล่นเป็นเอกลักษณ์เน้นเล่นบอลบนพื้นด้วยความสวยงาม ถ้าถามถึงหัวจิตหัวใจนักเตะ บาร์ซ่า ว่ากลัว เรอัล ยกระดับมาทาบรัศมี "อาซูลกราน่า" หรือไม่? ... เชื่อเหลือเกินว่าแข้ง บาร์ซ่า ไม่ได้เกรงกลัว มาดริด แต่อย่างใด แต่ถ้าถามว่าหวั่นใจในการเจอ มาดริด ไหม? ... ปฎิเสธไม่ได้ ว่าหวั่นแน่นอน เพราะตัวเลขมันขู่กันฟ่อๆ เมื่อ มาดริด ชนะทุกแมตช์ในเวลา สองเดือนครึ่งที่ผ่านมา ทั้งหมด 15 นัด ยิงได้ 57 ประตู !! (วางเดิมพัน มาดริด 15 นัด เสียเกมเดียว ที่เหลือกินเรียบวุธ)

"โฉมหน้าผู้ที่ได้ลงสนามในเกมนี้"
อย่างไรก็ตามหากวิเคราะห์กันตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ เรอัล ประกาศว่า "เอล กลาซิโก้" ก็แค่แมตช์ธรรมดาๆเกมหนึ่ง << คำพูดคำนี้อาจจะดูขี้โม้เกินไปหน่อย แต่เมื่อมองถึงเหตุและผล มันก็จริงของ เฮียมู เพราะจะชนะ 100 - 0 หรือแพ้ 0 - 100 มันก็มีค่าแค่สามคะแนนเท่านั้นเอง เชื่อเหลือเกินว่าจากสถานการณ์ที่เป็นต่ออยู่เยอะ มูรินโญ่ น่าจะหวังให้สถานการณ์มันคงรูปแบบนี้ต่อไป (ไม่แพ้เอาไว้ก่อน) แต่ก็ต้องอยู่ที่เจ้าตัวอีกนั้นแหละ ว่าจะทวงศักดิ์ศรี ที่อยู่ในร่มเงา กวาร์ดิโอล่า มาตลอด หรือ เอาเป้าหมาย คือการคว้าแชมป์ลีก มาเป็นบรรทัดฐานในการวางแทคติก