วิเคราะห์บอล ลา ลีกา : เรอัล มาดริด -vs- บาร์เซโลน่า
เรอัล มาดริด (1) -vs- บาร์เซโลน่า (2) ... (04.00 น.)
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
ราคาบอล : เรอัล มาดริด ต่อ ปป ลบห้า
การพบกันล่าสุด
18/08/11 บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล มาดริด 3-2 สแปนิช ซูเปอร์คัพ
15/08/11 เรอัล มาดริด เสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 สแปนิช ซูเปอร์คัพ
04/05/11 บาร์เซโลน่า เสมอ เรอัล มาดริด 1-1 แชมเปี้ยนส์ ลีก
28/04/11 เรอัล มาดริด แพ้ บาร์เซโลน่า 0-2 แชมเปี้ยนส์ ลีก
21/04/11 บาร์เซโลน่า เสมอ เรอัล มาดริด 0-0 โกปา เดล เรย์ / เรอัล ชนะต่อเวลา 1-0
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เรอัล มาดริด
08/12/11 ชนะ อาแจ็กซ์ 3-0 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ ปป ... ได้
04/12/11 ชนะ สปอร์ติ้ง กิฆอน 3-0 (เยือน) ต่อ 1.75 ... ได้
27/11/11 ชนะ แอต.มาดริด 4-1 (เหย้า) ต่อ 2.25 ... ได้
23/11/11 ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ 6-2 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 2.75 ... ได้
20/11/11 ชนะ บาเลนเซีย 3-2 (เยือน) ต่อ 0.75 ... ได้ครึ่ง
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 6 ชนะ 6 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 28 เสีย 7 ประตู
บาร์เซโลน่า
07/12/11 ชนะ บาเต้ โบริซอฟ 4-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 1.75 ... ได้
04/12/11 ชนะ เลบานเต้ 5-0 (เหย้า) ต่อ 2.75 ... ได้
30/11/11 ชนะ ราโย บาเยกาโน่ 4-0 (เหย้า) ต่อ 3 ... ได้
27/11/11 แพ้ เกตาเฟ่ 0-1 (เยือน) ต่อ 1.75 ... เสีย
24/11/11 ชนะ เอซี มิลาน 3-2 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 0.5 ... ได้
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 6 ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 1 ได้ 8 เสีย 7 ประตู
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
(1) เรอัล มาดริด
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 14 เสีย 2 มี 9 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 7 เสีย 2 มี 9 แต้ม
(3) บาร์เซโลน่า
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 13 เสีย 0 มี 9 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 3 เสีย 3 มี 4 แต้ม
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
โชเซ่ มูรินโญ่ จะคุม เรอัล มาดริด เล่นศึก "เอล กลาซิโก้" รอบที่ 8 นับตั้งแต่เจ้าตัวเข้ามาจับงานที่เมืองหลวงสเปน โดยการเจอกันก่อนหน้านี้มีสถิติที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เสมอ 4 แพ้ 3 (นับเฉพาะ 90 นาที , ในบ้าน 3 นัด เสมอ 2 แพ้ 1) อย่างไรก็ตามการกลับมาเล่นแมตช์หยุดโลกหนนี้ "ราชันชุดขาว" ถือว่าเตรียมความพร้อมไว้ดีกว่าซีซั่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นทีมเวิร์ค ตัวผู้เล่น และที่สำคัญที่สุด ฟอร์มที่ไม่แพ้ใคร 15 จากทุกรายการ (ชนะ 14 เสมอ 1)
รวมถึงความได้เปรียบเรื่องคะแนนที่มีแต้มเหนือแชมป์เก่าอยู่สามแต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด หาก มูรินโญ่ พาลูกน้องชนะเกมนี้ได้ มีสิทธิ์กระชากห่างไปถึง 6 แต้ม และถ้าเก็บเกมที่ยังแข่งน้อยกว่าได้อีก ก็จะห่างถึง 9 ในตอนนั้นบรรยากาศในการลุ้นแชมป์คงจืดชืดไปพอสมควร อย่างไรก็ดี ก่อนเกมมีคำถามที่น่าสนใจอยู่ข้อหนึ่ง ว่าด้วยสถานการณ์ที่ได้เปรียบค่อนข้างเยอะแบบนี้ "เฮียมู" จะเล่นเกมรุก หรือเกมรับ ถึงขั้นมีโหวตในเว็บไซด์กีฬาเลยทีเดียว (แฟนบอลโหวต รับ 63% , รุก 37% ) แต่แท้จริงแล้วบทสรุปที่สิงจอมโวเลือกคือ ... เกมรุก
ในระบบ 4-3-3 ถือว่าแปลกตาพอสมควร เพราะส่วนใหญ่จะเล่น 4-2-3-1 โดยจะขนชุดใหญ่ที่ได้พักในแมตช์กับ อาแจ็กซ์ ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย มูรินโญ่ ดรอปผู้เล่นทั้ง 11 ราย ยกเว้น คาริม เบนเซม่า กองหน้าชาวฝรั่งเศสที่ได้ลงสนามแบบเต็มเกมในวันนั้น โดยเกมนี้จะได้ ชาบี อลอนโช่ ตัวห้องเครื่องทีมชาติสเปน กลับมาจากโทษแบน แต่ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เซนเตอร์แบ็ก ยังอยู่ในระหว่างการเรียกความฟิตเหมือนเดิม
ฟากทีมเยือน บาร์เซโลน่า บุกมาเยือน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว หนนี้มีป้าย "ห้ามแพ้" แปะไว้ที่หน้าผาก เพราะจบศึกนี้ บาร์ซ่า จะไปทำศึกสโมสรโลก ระหว่างนั้นมีโอกาสโดน เรอัล ทิ้งห่างไปถึง 9 คะแนน ในขณะที่แข่ง 16 เกมเท่ากัน ด้าน โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า รู้ดีว่าเกมนี้ไม่ง่ายแน่ แต่ก็มั่นใจว่า "เจ้าบุญทุ่ม" จะสามารถเก็บชัยไปได้ ล่าสุดโชว์ฟอร์มโหดในสามนัดหลังที่ไล่ถล่มคู่แข่งอย่างไร้ความปราณี รวมสกอร์ได้ถึง 13-0 กอปรกับ 5 ยกหลังที่บุกมาเล่นที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว "อาซูลกราน่า" ในยุค กวาร์ดิโอล่า ยังไม่เคยแพ้ (ชนะ 3 เสมอ 2 ยิงได้ 13 เสียแค่ 5 ประตู)
ในส่วนของความฟิตหลังจากเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้าย กับ บาเต้ โบริซอฟ ถือว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเกมดังกล่าว เป๊ป ส่งนักเตะเยาวชน (บาร์ซ่า เบ) ลงสนามเกือบยกเซท ทำให้ความพร้อมค่อนข้างสมบูรณ์ โดยจะได้ เกราร์ด ปีเก้ เซนเตอร์แบ็ก กลับมาจากโทษแบน , อาเดรียโน่ กอร์เรอา แบ็กชาวบราซิล กลับมาจากอาการบาดเจ็บ ส่วนรายที่พลาดลงเกมนี้แน่นอนคือ อิบราฮิม อเฟลลาย ตัวรุกชาวฮอลแลนด์ ยังอยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บต่อไป
ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง
เรอัล มาดริด (4-3-3) : อีเกร์ กาซิยาส - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์กิโอ รามอส, เปเป้, มาร์เซโล่ - ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ชาบี อลอนโซ่, ซามี เคดิร่า - คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า, อังเกล ดิมาเรีย
ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
บาร์เซโลน่า (4-3-3) : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, การ์เลส ปูโยล, เกราร์ด ปีเก้, เอริค อบิดาล - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์กิโอ บุสเกวตส์, อันเดรส อีเนียสต้า - อเล็กซิส ซานเชซ, ลิโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า
ผู้จัดการทีม : โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า
ทรรศนะ
ฝันร้ายของ เรอัล มาดริด น่าจะจบลงเสียที เพราะในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาต้องยอมรับฝีมือในการจูนเกือกของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พยายามโมดิฟายด์ "ราชันชุดขาว" ให้ยกกระดับการเล่นขึ้นมาเทียบชั้นกับ บาร์ซ่า ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะในเรื่องทีมเวิร์ค ที่เล่นเป็นทีมมากกว่าอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของรายบุคคล กอปรกับช่วงหลัง วิวัฒนาการของ มูรินโญ่ ที่มีต่อ บาร์เซโลน่า เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าใครได้ติดตามดูเกม "เอล กลาซิโก้" นับตั้งแต่ (15/08/11 สแปนิช ซูเปอร์คัพ จบ 2-2) จะเห็นได้ว่า เฮียมู เริ่มจับไต๋การเล่นของ บาร์ซ่า ได้หมด สามารถกักขังเกมรุกของ บาร์ซ่า ให้มีจังหวะจบสกอร์แค่ 4 หน แถมฝ่ายตัวเองได้จบสกอร์มากกว่าในสองนัดหลังอีกด้วย
แม้ว่าเรื่องครองบอลอาจจะสู้ไม่ได้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ บาร์ซ่า ขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในเรื่องนี้อยู่แล้ว ทว่าหากจะวัดกันที่จังหวะจบแบบได้น้ำได้เนื้อ ยังเชื่อมือแนวรุก มาดริด ที่ผ่านมาทำได้ดีกว่า รวมถึงนักเตะหลายรายกำลังอยู่ในจุดพีค สามารถเปิดเกมรุกพร้อมๆกันได้ทุกตำแหน่ง ตรงกันข้ามกับ ดาบิด บีย่า และ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ยังดูเป็นส่วนเกินของ บาร์ซ่า ทำให้ความหลากหลายในแดนหน้ายังสู้ปีที่ผ่านมาไม่ได้ (ส่วนใหญ่ทีเด็ดจะสอดมาจากแถวสอง) เรต ปป กลั้นใจวาง เรอัล เต็มที่ก็น่าจะแค่หูหลุดเท่านั้น
ฟังธง : ต่อ เรอัล มาดริด ชนะ 3-2
อัตราความมั่นใจ : 8/10
10 / 12 / 2011 18:07