ฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
แมนฯ ซิตี้ (1,พรีเมียร์ลีก) -vs- ลิเวอร์พูล (6,พรีเมียร์ลีก) ... 02.45
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
ราคาบอล : แมนฯ ซิตี้ ต่อ ครึ่งลูกลบห้า
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
04-01-12 แมนฯ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0
27-11-11 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1
12-04-11 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ซิติ้ 3-0
24-08-10 แมนฯ ซิติ้ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0
21-02-10 แมนฯ ซิติ้ เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
21-11-09 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ซิติ้ 2-2
22-02-09 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ซิติ้ 1-1
05-10-08 แมนฯ ซิติ้ แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3
04-05-08 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ซิติ้ 1-0
30-12-07 แมนฯ ซิติ้ เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
แมนฯ ซิตี้
08/01/12 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-3 เหย้า เอฟเอ คัพ / ต่อ 0.25 ... เสีย
04/01/12 ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0 เหย้า / ต่อ 0.5 ... บวก
01/01/12 แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 เยือน / ต่อ 1.0 ... เสีย
26/12/11 เสมอ เวสต์บรอมวิช 0-0 เยือน / ต่อ 1.25 ... เสีย
22/12/11 ชนะ สโต๊ค 3-0 เหย้า / ต่อ 1.75 ... บวก
ลิเวอร์พูล
07/01/12 ชนะ โอลด์แฮม 5-1 เหย้า เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.75 ... บวก
04/01/12 แพ้ แมนฯซิตี้ 0-3 เยือน พรีเมียร์ ลีก / รอง 0.5 ... เสีย
31/12/11 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1 เหย้า พรีเมียร์ ลีก / ต่อ 1.0 ... บวก
26/12/11 เสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 เหย้า / ต่อ 1.75 ... เสีย
22/12/11 เสมอ วีแกน 0-0 เยือน พรีเมียร์ ลีก / ต่อ 1.0 ... เสีย
ผลงานในลีก คัพ
แมนฯ ซิตี้
30/11/11 ชนะ อาร์เซน่อล 1-0 เยือน
27/10/11 ชนะ วูล์ฟส์ 5-2 เยือน
22/09/11 ชนะ เบอร์มิงแฮม 2-0 เหย้า
23/09/10 แพ้ เวสต์บรอมวิช 1-2 เยือน
28/01/10 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-3 เยือน
ลิเวอร์พูล
30/11/11 ชนะ เชลซี 2-0 เยือน
27/10/11 ชนะ สโต๊ค 2-1 เยือน
22/09/11 ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 เยือน
25/08/11 ชนะ เอ็กเซเตอร์ 3-1 เยือน
23/09/10 เสมอ นอร์ทแฮมป์ตัน 2-2 เหย้า ลิเวอร์พูลแพ้จุดโทษ
สถิติที่น่าสนใจ
* ซิตี้ ถล่ม ลิเวอร์พูล 3-0 ในเกมลีกที่ผ่านมา ในสนามแห่งนี้ และนั่นเป็นชัยชนะเพียงครั้งที่สองในรอบ 14 เกมหลังที่ "เรือใบ" เจอกับ "หงส์แดง"
* ส่วนภาพรวม ลิเวอร์พูล ก็เหนือกว่าเยอะ ชนะ 80 แพ้ 42 และเสมอ 41 จากทั้งหมด 164 นัด
* "เรือใบ" เก็บชัยในบ้านได้กราวรูด 11 นัดติดต่อกัน ก่อนสถิติจะหยุดลงที่เกมเอฟเอ คัพ ซึ่งแพ้ ยูไนเต็ด 2-3
* ส่วนลูกทีมของ เคนนี่ ดัลกลิช เหนียวแน่นไม่แพ้กัน เพราะแพ้สองครั้งตลอด 14 เกมหลัง
* ส่วนการพบกันในลีก คัพ ก่อนหน้า 3 หน ครั้งแรกปี 1970 ซิตี้ เฉือน 3-2 รอบ 3 จากนั้นปี 1980-81 รอบรองชนะเลิศ "หงส์แดง" แก้แค้นชนะไป 2-1 (รวม 2 นัด) และฤดูกาล 1995-96 ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ต้อนตือ 4-0 ในรอบ 3
สภาพความพร้อมล่าสุด
โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือเจ้าถิ่น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แว็งซ็องต์ กอมปานี ปราการหลังกัปตันทีม ซึ่งจะโดนโทษแบนยาว 4 นัด หลังจากเจอไล่ออกนัดพ่าย ยูไนเต็ด 2-3 ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 ถึงแม้ทางสโมสรยื่นอุทรณ์ ทว่าสมาคมฟุตบอล ปัดคำร้องเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนั้น สองพี่น้อง โคโล่ กับ ยาย่า (ตูเร่) เดินทางไปร่วมทีมชาติไอวอรี่โคสต์ เพื่อสู้ศึกแอฟริกัน เนชั่น คัพ
ทั้งนี้ปัญหาอาการบาดเจ็บของแข้งหลักเริ่มหลอกหลอน โรแบร์โต้ มันชินี่ เพราะทั้ง จอมทัพ ดาบิด ซิลบา (ข้อเท้า) และสองกองหน้า เอดิน เชโก้ (เข่า) กับ มาริโอ บาโลเตลลี่ (ข้อเท้า) ต้องเช็กฟิต ทว่าจะกลับมาใช้งาน แกเร็ธ แบร์รี่ ห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษ ซึ่งพ้นโทษแบนกลับมา
การจัดทัพ โจ ฮาร์ท จะน่าจะกลับมายืนเฝ้าเสาตามเดิม หลังจาก พันติลิมอน ทำหน้าที่ได้อย่างน่าผิดหวังนัดพ่ายอริร่วมเมือง แนวรับ โจลีออน เลสค็อตต์ จะปักหลักคู่กับ สเตฟาน ซาวิช ซึ่งจะรับอาสาขันแนวรับแทน ก็อมปานี แดนกลาง แบร์รี่ กลับมาแล้ว น่าจะรับบทบาทคุมจังหวะเกมตามถนัด ส่วนตัวตัดเกม อาจพัก เด ยองก์ และให้โอกาส โอเว่น ฮากรีฟส์ ดูบ้าง ขณะที่แนวรุก ต้องลุ้นว่า เชโก้ หรือ บาโลเตลลี่ คนใดคนหนึ่งจะฟิตพร้อมช่วยทีมมายืนคู่กัย อเกวโร่ หรือไม่
ฝั่ง เคนนี่ ดัลกลิช เฮดโค้ช "หงส์แดง" เตรียมจัดชุดเต็มสูบลงวนาม เพราะไม่มีใครเจ็บหรือแบนเพิ่มเติมเข้ามา ยกเว้นกรณี หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งโดนแบนยาวหลายเกม เช่นเดียวกับ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ปีกค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ซึ่งไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับแฟนเก่าในผับ อสจเจอแบนจากสโสรข้อหาด้านวินัยก็เป็นได้ ส่วนภาพรวมของทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด น่าจะลงคุมกมแดนกลางตั้งแต่เริ่ม ล
ส่วนแนวรุก แอนดี้ แคร์โรล์ ที่ถูกเปลลี่ยนตัวลงมายิงโอลด์แฮม ช่วงท้ายเกม มีลุ้นยืนหอกตั้งแต่นาทีแรกเช่นกัน นอกนั้นคงไม่มีอะไรแปลกใหม่ เรน่า ยืนเฝ้าเสา ตามปกติ เกล็น จอห์นสัน จะกลับมาประจำการแบ็กขวาแทน เคลลี่ แดนกลาง สเพียริ่ง จะกลับไปนั่งข้างสนามหลีกทางให้ ชาร์ลี อดัมส์ เช่นเดียวกับ จอนโจ เชลวี่ ถึงแม้โชว์ฟอร์ม แต่คงได้พักและให้ เฮนเดอร์สัน ลงโชว์ฟอร์มบ้าง
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯซิตี้ (4-1-3-2) : โจ ฮาร์ท ; ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โจลีออน เลสค็อตต์, สเตฟาน ซาวิช, กาเอล กลิชี่ ; โอเว่น ฮากรีฟส์ ; เจมส์ มิลเนอร์, แกเร็ธ แบร์รี่, ซามีร์ นาสรี ; เอดิน เชโก้, เซร์กิโอ อเกวโร่
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ เรน่า ; เกล็นน์ จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ ; ชาร์ลี อดัม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ; เดิร์ก เคาท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เคร็ก เบลลามี่ ; แอนดี้ แคร์โรล์
police วิเคราะห์ / ฟันธง
ซิตี้ เริ่มเจอปัญหาการจัดทัพบ้างแล้ว หลังจากแข้งหลักทยอยเจ็บ กอปรกับการเสียสองพี่น้องตูเร่ไปเล่นที่แอฟริกา โดยเฉพาะรายน้องทิ้งช่องโหว่ในแดนกลางไว้ไม่น้อย อีกทั้ง "เรือใบ" เพิ่งบดหนักมาในเกมเอฟเอ คัพ สภาพร่างกายมีปัญหาแน่ แถมตัวเลือกไม่เยอะเหมือนก่อนอีกด้วย สวนทางกับ "หงส์แดง" ซึ่งต้อนตือ โอลด์แฮม มาอย่างสบายๆ บวกกับใช้สำรองลงสนามกว่าครึ่ง ได้พักนานกว่าอีกต่างหาก
ส่วนเกมลีก ลิเวอร์พูล อาจพ่าย ซิตี้ มาอย่างย่อยยับ 0-3 แต่รูปเกมทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ทำได้ดีกว่า เพียงแต่จบกันเปลืองเอง เชื่อว่า ดัลกลิช คงนำบทเรียนตรงนั้นมาแก้ไข ประกอบกับวันนี้สภาพทีมเจ้าถิ่นไม่ฟูลเหมือนเกมดังกล่าว ก็อมปานี หัวใจแนวรับก็ถูกแบน ดังนั้นอาคันตุกะ ซึ่งมักจะถูกโฉลกกับลีก คัพ มีลุ้นถอนแค้นในช่วงเวลาที่ "เรือใบ" กำลังสั่นคลอน "เรท" ครึ่งลูก สวนรองดีกว่า ถ้า "หงส์" ไม่พลาดเอง น่าจะยันเจ๊าได้ก่อนเป็นอย่างน้อย .... รอง ลิเวอร์พูล
ผลบอลที่คาด : เสมอ 1-1
ระดับความมั่นใจ : 8/10