ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
ลิเวอร์พูล (7,พรีเมียร์ลีก) -vs- แมนฯ ยูไนเต็ด (2,พรีเมียร์ลีก) ... 19.45
สนาม : แอนฟิลด์
ราคาบอล : เสมอ ลิเวอร์พูล
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
15/10/11 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1
06/03/11 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1
09/01/11 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
19/09/10 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2
21/03/10 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
25/10/09 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0
14/03/09 แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
13/09/08 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1
23/03/08 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0
16/12/07 ลิเวอร์พูล แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
ลิเวอร์พูล
26/01/12 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 2-2 เหย้า / เสมอ ... เจ๊า
22/01/12 แพ้ โบลตัน 1-3 เยือน / ต่อ 0.75 ... เสีย
14/01/12 เสมอ สโต๊ค 0-0 เหย้า / ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
12/01/12 ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 เยือน ลีก คัพ / รอง 0.5 ... บวก
07/01/12 ชนะ โอลด์แฮม 5-1 เหย้า เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.75 ... บวก
แมนฯ ยูไนเต็ด
220/1/12 ชนะ อาร์เซน่อล 2-1 เยือน / เสมอ ... บวก
14/01/12 ชนะ โบลตัน 3-0 เหย้า / ต่อ 1.75 ... บวก
08/01/12 ชนะ แมนฯซิตี้ 3-2 เยือน เอฟเอ คัพ / รอง ปป ... บวก
05/01/12 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-3 เยือน / ต่อ 0.75 ... เสีย
31/12/11 แพ้ แบล็คเบิร์น 2-3 เหย้า / ต่อ 2.5 ... เสีย
ผลงานในเอฟเอ คัพ 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล
07/01/12 ชนะ โฮลด์แฮม 5-1 เหย้า
09/01/11 แพ้ แมนฯยูฯ 0-1 เยือน
14/01/10 แพ้ เร้ดดิ้ง 1-2 ต่อเวลา เหย้า
03/01/10 เสมอ เร้ดดิ้ง 1-1 เยือน
05/02/09 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 ต่อเวลา เยือน
แมนฯ ยูไนเต็ด
08/01/12 ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-2 เยือน
16/04/11 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 เยือน
13/03/11 ชนะ อาร์เซน่อล 2-0 เหย้า
20/02/11 ชนะ ครอว์ลี่ย์ ทาวน์ 1-0 เหย้า
30/01/11 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 เยือน
สถิติที่น่าสนใจ
* 9 เกมหลังที่เจอกันมาทุกรายการ ปรากฏว่ามีใบแดงปลิวว่อนถึง 6 ใบ
* ยูไนเต็ด เล่นเกมเยือนในเอฟเอ คัพ ได้ดี ครั้งสุดท้ายที่แพ้ก็เป้นการพ่ายให้กับอริลิเวอร์พูลที่จะดวลเกือกกันวันนี้ (แพ้ 0-1 ปี 2006)
สภาพความพร้อมล่าสุด
เคนนี่ ดัลกลิช เฮดโค้ช "หงส์แดง" พร้อมใช้งาน เจย์ สเพียริ่ง มิดฟิลด์พันธุ์ดุอีกครั้ง หลังจากหายหน้าไป 3 เกม เพราะมีอาการเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ส่วนที่เป็นกังวลก็มี เคร็ก เบลลามี่ ซึ่งเจ็บมาจากเกมเจ๊า แมนฯ ซิตี้ 2-2 เมื่อกลางสัปดาห์ ซึ่งน่าจะได้พัก เนื่องจากลงช่วยทีมมาติดกัน 3 นัดในรอบสัปดาห์ อีกหนึ่งแนวรุกแน่นอนว่า หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงอุรุกวัยยังคงติดโทษแบนเป็นเกมที่ 6 ทำให้ "คิง เคนนี่" ต้องเข็น แอนดี้ แคร์โรลล์ กองหน้าปืนฝืด ลงล่าตาข่ายต่อไป
เช็กฟิต : เคร็ก เบลลามี่ , เจย์ สเพียริ่ง
เจ็บ : ลูคัส (เข่า, สิงหาคม)
ติดโทษแบน : หลุยส์ ซัวเรซ (6 จาก 8 เกม)
ฝั่ง "ปิศาจแดง" ก็เจอปัญหาตัวเจ็บหมุนเวียนเข้ามาไม่หยุด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือจอมเก๋า ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบนัดต่อนัด ล่าสุด 3 แข้งหลัก นานี่ (เท้า), เวย์น รูนี่ย์ กับ ฟิล โจนส์ (ข้อเท้า) นัดกันเดี้ยงมาจากเกมบุกเฉือนอาร์เซน่อล 2-1 ต้องเช็กฟิตทั้งหมด เช่นเดียวกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ (แผ่นหลัง) ส่งผลให้ "เฟอร์กี้" มีทางเลือกในการจัดทัพน้อยมา แนวรับอาจต้องใช้ สมอลลิ่ง คู่กับ อีแวนส์ แนวรุกหาก รูนี่ย์ ไม่ไหว เบอร์บาตอฟ หรือ ชิชาริโต้ จะได้ลงไปจับคู่กับ เวลเบ็คนอกนั้นไม่มีอะไรเพิ่มเติม ตัวเจ็บที่ยังต้องพักยาวยังเป็น เนมานย่า วิดิช, แอชลี่ย์ ยัง, ทอม เคลฟเวอรี่ย์ และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์
เช็กฟิต : ริโอ เฟอร์ดินานด์, เวย์น รูนี่ย์, ฟิล โจนส์, นานี่
บาดเจ็บ : ทอม เคลเวอร์ลี่ย์ (ข้อเท้า, 5 ก.พ.), ไมเคิ่ล โอเว่น (กล้ามเนื้อต้นขา, 11 ก.พ.), แอชลี่ย์ ยัง (ข้อเท้า, 11 ก.พ.), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ (ป่วย, ไม่มีกำหนด), เนมานย่า วิดิช (เข่า, สิงหาคม), อันแดร์สัน (น่อง, ไม่มีกำหนด)
แบน : ไม่มี
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ เรน่า ; เกล็นน์ จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ ; ชาร์ลี อดัม, เจย์ สเพียริ่ง ; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ; แอนดี้ แคร์โรล์
แมนฯยูไนเต็ด (4-4-2) : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ; ราฟาเอล, จอห์นนี่ อีแวนส์, คริส สมอลลิ่ง, ปาทริซ เอวร่า ; อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, ปาร์ค จี ซุง ; ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, แดนนี่ เวลเบ็ค
police วิเคราะห์ / ฟันธง
ดูจากไลน์-อัพ น่าห่วงแทนสาวก "เร้ด อาร์มี่" เพราะแทบไม่มีตัวพลิกเกม กอปรกับคู่แข่งเป็นถึงอริตลอดกาลลิเวอร์พูล ด้วยแล้ว หาก ยูไนเต็ด มาไม่เต็มร้อยแบบนี้ มีหวังเสร็จ ถ้า นานี่, รูนี่ย์, โจนส์ และ เฟอร์ดินานด์ ไม่พร้อมตามข่าว เห็นที "ปิศาจแดง" คงได้แค่ประคองเอาตัวรอดไปแข่งใหม่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รอให้ตัวหลักๆกลับมาก่อนค่อยว่ากัน ดังนั้นแนวโน้มและความมั่นใจน่าจะเอนไปทาง "หงส์แดง" ประกอบกับได้เล่นในถิ่น หากยังพังคารังให้กับ เด็กผีชุดนี้ ดัลกลิช คงต้องพิจารณาตัวเอง ยกเว้น 3-4 ตัวหลักดังกล่าวของฝั่งแชมป์พรีเมียร์ลีกลงสนามได้ก็เป็นอีกเรื่อง ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าบ้านยังกุมความได้เปรียบเยอะอยู่ดี แถมพักหลังลงเล่นในแอนฟิลด์ ไม่ค่อยเสียท่าให้กับ ยูไนเต็ด ดังนั้นราคา "เสมอ" กับภาพรวมซึ่ง "หงส์แดง" ดูดีกว่าเยอะ ก็คงต้องวางเจ้าบ้าน เพราะดูยังไง ลิเวอร์พูล ไม่น่าแพ้ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มาในสภาพไม่ถึง 70 เปอร์เซนต์ .... อยู่ "หงส์" ไม่เจ็บตัว
ผลบอลที่คาด : ลิเวอร์พูล เข้าวิน 2-1
ระดับความมั่นใจ : 8/10