เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ลา ลีกา เก็บชัยกราวรูด 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา ส่งผลให้จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มดี ก่อนจะจับติ้วในรอบ 16 ทีม เจอกับซีเอสเคเอ มอสโก จากรัสเซีย โดยเลกแรกจะเล่นกันในดินแดน "หมีขาว" ก่อนจะไปตัดสินกันที่สเปนในเลกที่สอง
ปูมหลังที่น่าสนใจ
* ถึงแม้ว่า เจ้าของแชมป์ยุโรป 9 สมัย จะพกสถิติกวาด 18 แต้มเต็มเข้ากระเป๋ามาขู่ แต่ซีเอสเคเอ ก็มีดีพอตัว หากอิงจากสถิติซึ่งพวกเขาไม่เคยเสียท่าให้กับทีมจากแดนกระทิงดุตลอด 5 เกมหลังทั้งเหย้าและเยือน
* ซีเอสเคเอ เคยโม่แข้งกับตัวแทนจากสเปนในรอบนี้มาแล้ว เมื่อ 2 ปีก่อน คู่แข่งเป็น เซบีย่า โทมัส เนซิด กับ ไคซูเกะ ฮอนดะ ช่วยกันยิงคนละเม็ดให้ทีมบุกไปชนะถึงสเปน 2-1 ก่อนที่จะมาเจ๊าในรัสเซีย 1-1
* อย่าไรก็ตาม ทั้ง ซีเอสเคเอ และ มาดริด ไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ ซีเอสเคเอ เคยพ่ายให้กับ อินเตอร์ มิลาน รอบ 8 ทีมสุดท้ายรายการนี้ เมื่อฤดูกาล 2009/10 ซึ่งครั้งนั้น โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นแม่ทัพ "งูใหญ่" (แพ้ 0-1 ทั้งไปและกลับ)
* ก่อนหน้าที่จะเจอกับ เซบีย่า กองทัพหมีขาว เคยปะทะแข้งกับทีมจากแดนซกเล็กแค่ 2 ครั้ง และเก็บชัยไว้ได้ทั้งหมดเหนือ ลากอรุนญ่า 3-0 ในศึกยูฟ่า คัพ 2008/09 รอบแบ่งกลุ่ม ส่วนย้อนกลับนานกว่านั้น พวกเขาเช็กบิล บาร์เซโลน่า ด้วยสกอร์รวม 4-3 (ชนะที่คัมป์ นู 3-2) ในปี 1992/93 รอบแบ่งกลุ่มยูโรเปี้ยน คัพ
* ส่วน มาดริด บุกมาเก็บชัยได้ 2 ครั้งหลังสุด ที่ยกพลมาเยือนรัสเซีย ในปี 2008/09 ชนะ เซนิตฯ 2-1 ในรอบแบ่งกลุมชปล. และปี 2002/03 เชือด โลโคโมทีฟ มอสโก 1-0
* กว่าที่ ซีเอสเคเอ จะหลุดมาถึงรอบ 16 ทีมนี้ได้ ต้องลุ้นกันตัวโก่ง ซึ่งมาติดสินเอาในเกมสุดท้ายของกลุ่ม บี พวกเขาเค้นฟอร์มเก่ง ด้สยการยกพลไปปราบ อินเตอร์ มิลาน 2-1 ส่งผลให้กระโดดจากอันดับสุดท้าย มาจบที่รองจ่าฝูงอย่างเหลือเชื่อ
* ขณะที่จ่าฝูงลา ลีกา กดไปถึง 19 ตุง ในรอบแบ่งกลุ่ม เสียแค่ 2 เท่านั้น ที่สำคัญลูกทีมของ มูรินโญ่ ไม่เสียแม้แต่ลูกเดียวตลอดเกมเยือนสามนัด
* เท่ากับว่า เรอัล มาดริด เป็นทีมที่ 5 ซึ่งเก็บชัยกราวรูดในรอบดังกล่าว ต่อจาก เอซี มิลาน (1992-93), ปารีสฯ (1994-95), สปาร์ตัก มอสโก (1995/96) และ บาร์เซโลน่า (2002/03)