พรีวิว ยูโรป้า ลีก : เบซิคตัส -vs- แอตฯ มาดริด

เบซิคตัส เตรียมทำทุกวิถีทางเพื่อยุติเส้นทางการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของ แอตเลติโก้ มาดริด หลังจากที่เกมแรกทีมออกไปพ่ายมาที่สเปน 1-3 ขณะที่ "ทีมตราหมี" ก็ต้องการเข้าถึงรอบชิงฯในรายการนี้อีกครั้ง หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในฤดูกาล 2009/10
• แชมป์เก่ารายการนี้เมื่อปี 2009/10 เอาชนะ เบซิคตัส มาได้ในเลกแรกด้วยสกอร์ 3-1 โดยทีมได้สกอร์ 2 เม็ดแรกจาก เอดูอาร์โด้ ซัลบิโอ้ ในนาทีที่ 24 และ 27 ก่อนที่จะนำห่างเป็น 3-0 จากการโซโล่เดี่ยวลุยสามของ อาเดรียน โลเปซ อย่างไรก็ตาม ซิเมา ซาโบรซ่า อดีตแข้ง "โรฆิบลังกอส" มากดอเวย์โกล์สำคัญให้กับ "แบล็ค อีเกิ้ลส์" ตามมาห่างๆเป็น 1-3 ในนาทีที่ 53
Previous meetings
• การโคจรมาเจอกันของ เบซิคตัส และ แอตฯ มาดริด ในรอบนี้เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสโมสรมีโอกาสลับแข้งกันในรายการยุโรป
• สถิติของ "ทีมตราหมี" ในการพบกับคู่แข่งจากตุรกี 11 ครั้งที่ผ่านมาคือ ชนะ 7 เสมอ 3 และแพ้ 1 นัด (ชนะ 3 เสมอ 3 ที่สเปน และ ชนะ 4 แพ้ 1 ที่ตุรกี) เมื่อฤดูกาล 2009/10 ยอดทีมจากสเปนเคยเอาชนะ กาลาตาซาราย คู่แข่งร่วมเมือง อิสตัลบูล ของ เบซิคตัส มาแล้วในรอบ 32 ทีม ก่อนที่จะทะลุเข้าถึงรอบชิงฯคว้าถ้วยแชมป์รายการนี้มาครอง
• ความปราชัยเดียวของ แอตฯ มาดริด ในการเจอกับทีมจาก ซูเปอร์ ลีก คือการเสียท่าให้กับ อังคารากูคู ในเกมยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 1999/00 รอบแรกเลกที่สองด้วยสกอร์ 0-1 ซึ่งก่อนหน้านี้ในเลกแรกทีมเอาชนะไปแล้วด้วยกอร์ 3-0
• การลงเล่น 14 เกมที่ผ่านมาของ เบซิคตัส กับตัวแทนจากสเปน จบลงด้วยการชนะ 3 เสมอ 3 และแพ้ถึง 9 นัด (ชนะ 3 เสมอ 2 และแพ้ 2 ที่ตุรกี และทำได้เพียงเสมอ 1 และแพ้ 7 ในการออกไปเล่นที่สเปน).
Match background
• ซีซันนี้ เบซิคตัส เล่นเกมเหย้าในรายการยุโรปเก็บชัยได้ทั้ง 4 นัด ยิงเฉลี่ย 3 ลูกต่อเกม แต่ต้องมาเสียท่าให้กับ บราก้า ในนัดตัดสินชะตาการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมด้วยสกอร์ 0-1 อย่างไรก็ตามสุดท้ายทีมประสบความสำเร็จผ่านมาถึงรอบนี้ได้ด้วยชัยชนะที่ตุนไว้ก่อนในเลกแรก 2-0
• การลงสนามในรายการยุโรป 8 นัดที่ผ่านมา แอตฯ มาดริด พ่ายเกมนอกบ้านเพียงครั้งเดียวในนัดที่ออกไปเยือน อูดิเนเซ่ ที่อิตาลี ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเกมนั้นแพ้ไป 0-2 แต่นับจากนั้นเป็นต้นมาทีมก็สานสถิติไร้พ่ายชนะไป 5 เสมอ 2
• "โรฆิบลังกอส" ลงเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้ายครั้งล่าสุดในปี 2010 โดยทีมผ่านทั้ง สปอร์ติ้ง ลิสบอน - บาเลนเซีย และ ลิเวอร์พูล ก่อนทะลุเข้าถึงรอบชิงฯและคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะ ฟูแล่ม ในช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยสกอร์ 2-1 ที่เมือง ฮัมบูร์ก
• ล่าสุดที่ เบซิคตัส เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องย้อนไปถึงปี 2002/03 ทีมลงเล่นในรอบนี้และสามารถเอาชนะ สลาเวีย ปราก ก่อนผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้แต่ก็ต้องหยุดเส้นทางอยู่แค่นั้นจากความพ่ายแพ้ต่อ ลาซิโอ ยอดทีมจากโรม
Team facts
• สำหรับรายการ ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้ รามาเดล ฟัลเกา ศูนย์หน้าตัวเก่งของ แอตฯ มาดริด ทะลวงตาข่ายไป 5 ลูกแล้ว เป็นรอง มาธิอัส ซัวเรซ ผู้นำในทำเนียบดาวซัลโว 2 ลูกและตามหลัง คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ ของ ชาลเก้ เพียงประตูเดียว ภายใต้สีเสื้อของ ปอร์โต้ ในฤดูกาลที่แล้ว ศูนย์หน้าทีมชาติโคลอมเบียระเบิดฟอร์มสร้างสถิติใหม่ในรายการนี้ที่ยิงปีเดียวมากถึง 17 ลูก
• "ทีมตราหมี" กดอีก 4 ประตูก็จะส่องครบ 400 ลูกที่ยิงได้ในรายการยุโรป ขณะที่เกมนี้จะเป็นนัดที่ 233 ที่ทีมจะลงเล่นในเกมของทวีปยุโรป
• ตอนนี้ทีม แอตฯ มาดริด กำลังจะลงเล่นรายการ ยูโรป้า ลีก หรือ ยูฟ่า เดิม เป็นเกมที่ 95 ถ้าทีมสามารถทะลุเข้าถึงนัดชิง นั่นจะเป็นการลงสนามเกมที่ 100 พอดี
• มานูเอล แฟร์น็องเดส ผู้เล่นของ เบซิคตัส และ โฆเซ่ เอร์เนสโต้ ของ เมตาลิสต์ เป็นสองนักเตะที่จ่ายให้เพื่อนยิงประตูมากกว่าผู้เล่นรายใด โดยทั้งคู่ถวายพานให้เพื่อนร่วมทีมทะลวงตาข่ายในรายการ ยูโรป้า ลีก ไปคนละ 5 ครั้ง
• การพังประตู 8 จาก 16 เม็ดที่ เบซิคตัส ยิงได้ในถ้วย ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้เกิดขึ้นในช่วง 15 นาทีแรกของครึ่งหลัง
• ซิเมา ซาโบรซ่า ปีกตัวเก่งของเจ้าถิ่น รู้จักคู่แข่งทีมนี้ดีเพราะเคยสวมเสื้อแดงขาวในช่วงปี 2007-2011 ลงเล่นใน ลา ลีกา มา 113 เกมยิงได้ 20 ประตู ตอนที่เจ้าตัวย้ายมาร่วมทีม เบซิคตัส เมื่อวันที่ 12 เมษายน ปี 2009 อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสทะลวงประตูที่ 4 พันในเกมลีกให้กับต้นสังกัดใหม่ สมัยเป็นดาวรุ่ง ซิเมา เคยลงเล่นในสเปนมาแล้ว โดยสมัยนั้นค้าแข้งในช่วงสั้นๆกับสโมสร บาร์เซโลน่า ระหว่างปี 1999-2001
• รุสตู เร็กเบอร์ (บาร์เซโลน่า 2003-04), เมห์เม็ต ออเลริโอ้ (เรอัล เบติส 2008-10), มานูเอล แฟร์น็องเดส (บาเลนเซีย2007-11) ริคาร์โด้ ควาเรสม่า (บาร์เซโลน่า 2003-04) ทุกรายเคยมีประสบการณ์ในการค้าแข้งที่แดนกระทิงดุมาแล้ว
• ฮูลิโอ อัลเวส มิดฟิลด์เจ้าถิ่น เป็นนักเตะที่ เบซิคตัส ยืมตัวมาจากคู่แข่งในเกมนี้ หลังจากที่ดาวรุ่งแดนฝอยทองเซ็นสัญญาย้ายจาก ริโอ อาฟ มาร่วมทีมตราหมีในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
• ผลงานที่กำลังไปได้สวยของ แอตฯ มาดริด ในตอนนี้ ส่วนหนึ่งมาจากฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ อาร์ด้า ตูราน ปีกพรสรรค์สูงชาวตุรกี ผู้ที่เคยโลดแล่นค้าแข้งยาวนานกับ กาลาตาซาราย ในช่วงปี 2004-11 เจ้าตัวเคยยิงได้ 1 ลูกใน 9 ครั้งที่ลงเล่นให้กับต้นสังกัดเก่าเจอกับ เบซิคตัส โดยสถิติที่มี ตูราน ลงเล่นให้กับ กาลาตาซาราย เจอกับเพื่อนร่วมเมืองอยู่ที่ ชนะ 4 เสมอ 1 และแพ้ 4
• ดิเอโก้ ริบาส มิดฟิลด์ แอตฯ มาดริด และ ฮูโก้ อัลเมย์ด้า กองหน้าตัวเก่งของเจ้าบ้าน เคยลงเล่นในแนวรุกร่วมกันมาแล้วสมัยที่ทั้งคู่ยังค้าแข้งกับ เบรเมน ช่วงระหว่างปี 2006-09
• เปาโล อัสซุนเซา ห้องเครื่องผู้มาเยือน เคยลงเล่นเคียงข้างกับ ริคาร์โด้ ความเรสม่า ปีกตัวคล่องของ เบซิคตัส สมัยที่ทั้งคู่สวมเสื้อรับใช้ เอฟซี ปอร์โต้ ระหว่างปี 2004-08 และ ฮูโก้ อัลเมย์ด้า ช่วงปี 2004-06
• ซิดนี่ กองหลังเจ้าถิ่น และ เอดูอาร์โด้ ซัลบิโอ้ กองหน้าแอตเลติโก้ ก็เป็นอีกคู่หนึ่งที่เคยเล่นร่วมกันสมัยค้าแข้งที่ เบนฟิก้า เมื่อฤดูกาล 2010-11
• สองนักเตะอย่าง ติอาโก้ เม็นเดส กองกลางทีมตราหมี และ มานูเอล แฟร์น็องเดส ห้องเครื่องเจ้าถิ่น เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันสมัยที่เล่นให้ "เหยี่ยวลิสบอน" เมื่อปี 2003-04
• คาร์ลอส คาร์วัลญัล เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ครั้งหนึ่งสมัยยังเป็นนักเตะก็เคยค้าแข้งในตำแหน่งกองหลังกับสโมสร บราก้า - ปอร์โต้ และอีกหลายทีม เข้าสู่ซีซั่น 2009-10 เจ้าตัวคุมทีมช่วงสั้นๆให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แทนที่ เปาโล เบ็นโต้ ที่โดนปลด ก่อนที่ปีต่อมาจะย้ายมารับงานที่ตุรกีกับ เบซิคตัส
• เทรนเนอร์วัย 46 ปี เคยพา ลิสบอน ฟาดแข้งกับ แอตฯ มาดริด ในรอบ 16 ทีมรายการนี้มาแล้วเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน แต่สุดท้ายทีมของเขาต้องพลาดท่าปราชัยตกรอบนี้ไปด้วยกฏอเวย์โกล์ ขณะที่ แอตฯ มาดริด ก็สามารถก้าวถึงจุดสูงสุดด้วยการคว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง
• ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์คนปัจจุบัน เข้ามารับงานคุมทีมแทนที่ เกรกอริโอ้ มานซาโน่ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมปีที่ผ่านมา อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนติน่า มีประสบการณ์ที่ดีในการร่วมคว้าดับเบิ้ลแชมป์กับทีมตราหมีในปี 95/96 และข้ามไปคว้าถ้วย ยูฟ่า คัพ ในอีก 2 ปีต่อมากับ อินเตอร์ มิลาน และก่อนที่จะมารับงานที่ บิเซนเต้ กัลเดร่อน เจ้าตัวเคยพาทีม คาตาเนีย รอดพ้นการตกชั้นในศึก กัลโช่ เซเรีย อา มาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา การก้าวเข้ามารับงานที่ แอตฯ มาดริด จึงเป็นสโมสรที่สองของยุโรปที่เจ้าตัวคุมทัพ