วิเคราะห์บอล เอฟเอ คัพ : ลิเวอร์พูล -vs- สโต๊ค ซิตี้
ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก, 7) -vs- สโต๊ค ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก, 14) ... (23.00 น.)
สนาม : แอนฟิลด์
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ ลูกควบลูกครึ่ง ลบห้า
การพบกันล่าสุด
14/01/02 ลิเวอร์พูล เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 0-0 พรีเมียร์ลีก
27/10/11 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ลีก คัพ
10/09/11 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 พรีเมียร์ลีก
03/02/11 ลิเวอร์พูล ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-0 พรีเมียร์ลีก
14/11/10 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 พรีเมียร์ลีก
16/01/10 สโต๊ค ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 พรีเมียร์ลีก
20/08/09 ลิเวอร์พูล ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 4-0 พรีเมียร์ลีก
23/02/85 ลิเวอร์พูล ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-0 พรีเมียร์ลีก
03/11/84 สโต๊ค ซิตี้ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 พรีเมียร์ลีก
14/04/84 สโต๊ค ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 พรีเมียร์ลีก
ฟอร์ม 5 นัดหลังในรายการนี้
ลิเวอร์พูล
19/02/12 ชนะ ไบรจ์ตัน 6-1 (เหย้า)
28/01/12 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 (เหย้า)
07/01/12 ชนะ โอลด์แฮม 5-1 (เหย้า)
09/01/11 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 (เยือน)
14/01/10 แพ้ เร้ดดิ้ง 1-2 ต่อเวลา (เหย้า)
สโต๊ค
19/02/12 ชนะ ควอร์ลี่ย์ 2-0 (เยือน)
28/01/12 ชนะ ดาร์บี้ 2-0 (เยือน)
07/01/12 ชนะ จิลลิ่งแอม 3-1 (เยือน)
14/05/11 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (เยือน)
17/04/11 ชนะ โบลตัน 5-0 (เยือน)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล
14/03/12 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 (เหย้า) ต่อ 0.75 ... บวก
10/03/12 แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 (เยือน) ต่อ 0.5 ... เสีย
03/03/12 แพ้ อาร์เซน่อล 1-2 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... เสีย
26/02/12 เสมอ คาร์ดิฟฟ์ 2-2 (ชนะจุดโทษ) (กลาง) ลีก คัพ / ต่อ 1.25 ... เสีย
19/02/12 ชนะ ไบรจ์ตัน 6-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.75 ... บวก
สโต๊ค
10/03/12 แพ้ เชลซี 0-1 (เยือน) รอง 1.25 ... บวกครึ่ง
03/03/12 ชนะ นอริช 1-0 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... บวก
26/02/12 ชนะ สวอนซี 2-0 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... บวก
24/02/12 แพ้ บาเลนเซีย 0-1 (เยือน) ยูโรป้า ลีก / รอง 1.25 ... บวกครึ่ง
19/02/12 ชนะ ครอว์ลี่ย์ 2-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ / ต่อ 0.5 ... บวก
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
ก่อนเข้ามาเล่น เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย "หงส์แดง" โชว์แข้งร้อน ภายหลังบรรเลงเพลงแข้งใส่ เอฟเวอร์ตัน ในศึก "เมอร์ซีไซด์ดาร์บี้" ไป 3-0 ในจุดนี้ถือว่าสร้างความมั่นใจให้กับ เด็กๆของ เคนนี่ ดัลกลิช พอสมควร โดยความพร้อมนัดเฝ้าแอนฟิลด์ "คิงเคนนี่" จะปรับหมากจาก 4-4-2 มาเป็น 4-3-3 เน้นเกมรุกเต็มตัว โดยการถอดสนับก้น แอนดี้ แคร์โรลล์ ลงเป็นหน้าเป้า ส่วน "บักเจิด" สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่กดแฮตทริค ในดาร์บี้แมตช์ น่าจะผ่านความฟิตลงสนามได้ไม่มีปัญหา
ตัวเจ็บ
กองหลัง : ดาเนียล แอ็กเกอร์ (21 นัด, 2 ประตู) เกล็น จอห์นสัน (18 นัด, 1 ประตุ)
กองกลาง : ลูคัส เลว่า (12 นัด)
ตัวแบน : -
"ช่างปั้นหม้อ" ของ โทนี่ พูลิส ยังมอบความไว้วางใจให้กับขุมกำลังชุดที่บุกไปแพ้ เชลซี ในลีกแบบฉิวเฉียด 0-1 ลงสนามตามเดิม ทว่าเกมนี้จะไม่มี ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ กองหน้าชาวจาไมก้า ที่ติดโทษแบน หลังจากโดนตะเพิดออกในแมตช์ชน "สิงห์บลูส์" โอกาสจึงตกมาอยู่ในมือของ ปีเตอร์ เคราซ์ กองหน้าร่างโย่ง อดีตเด็กเก่า ลิเวอร์พูล มาจับคู่กับ โจนาธาน วอลเตอร์ส ในแดนหน้า ส่วนในรายของ เอยัน เบโกวิช ผู้รักษาประตู จะได้พัก และให้มือเก๋าอย่าง โธมัส โซเรนเซ่น ลงมาเฝ้าเสาแทน
ตัวเจ็บ
กองหน้า : มามาดี ซิดิบี้ (-)
ตัวแบน
กองหน้า : ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ (8 นัด)
ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : โฆเซ่ เรน่า ; มาร์ติน เคลลี่, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ ; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เคล็ก เบลลามี่, ; สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, แอนดี้ แคร์โรลล์, หลุยส์ ซัวเรซ
สโต๊ค ซิตี้ (4-4-2) : โธมัส โซเรนเซ่น ; แอนดี้ วิลกิลสัน, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, มาร์ค วิลสัน ; ไรอัน ช็อตตัน, เกล็น วีแลน, ดีน ไวท์เฮด, แม็ทธิว เอเธอริงตัน ; ปีเตอร์ เคราซ์, โจนาธาน วอลเตอร์ส
ทรรศนะ
ช่วงต้นปีที่เสมอ 0-0 สโต๊ค งัดลูกหนักมาเล่นจน ลิเวอร์พูล ไปไม่เป็น ทำให้เกมนี้ "คิงเคนนี่" เตรียมปรับหมากหันมาเล่นเกมรุกเต็มตัว เพราะหวังจะอาศัยช่วงที่ลูกทีมกำลังคึกคักน็อคคู่ต่อสู้ให้จบในเกมเดียว จะได้ไม่ต้องมาว่ากันต่อในนัดรีเพลย์ ทว่าจากฟอร์มการเล่น ยังมองว่า "ช่างปั้นหม้อ" เกมเยือน จะหวังให้พวกเขาบุกไปซิวชัยคงยาก แต่สำหรับการยันเสมอ หรือแพ้ไปด้วยสกอร์ที่ฉิวเฉียด ถือว่ามีความเป็นไปได้สูง เพราะ "เดอะ ค็อป" เองก็ยังมีปัญหาเรื่องความคงเส้นคงวา ประเภทเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พอมาเจอบอลเตะติดดาบและบอลสวนกลับคมๆของ สโต๊ค ก็มีโอกาสพังเหมือนกัน
ฟันธง : รอง สโต๊ค เสมอ 0-0 , แพ้ 0-1
อัตราความมั่นใจ : 8/10