โรควูบ ภัยใหม่ที่คร่าชีวิตนักเตะ

    นักฟุตบอลอาชีพ แม้จะได้ค่าจ้าง ค่าเหนื่อยที่แพงมหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงไม่น้อยเช่นเดียวกัน ล่าสุดภัยที่เกิดกับนักฟุตบอลในระยะหลังๆปรากฏเป็นข่าวนั้นคือ โรคหัวใจวายเฉียบพลันหมดสติกลางสนามระหว่างการแข่งขัน นักเตะบางรายทีมแพทย์ช่วยเหลือไว้ทันก็รอดชีวิต แต่บางรายโชคร้ายต้องเสียชีวิตก็มีให้เห็นบ่อยๆ ท่ามกลางความเสียใจจากเพื่อนนักเตะแฟนบอล และ ญาติพี่น้อง ก่อนหน้านี้ นักเตะคนดังอย่าง มาร์ก วิเวียน โฟเอ้ ของแมนซิตี้,มิคลอส เฟเฮอร์ ของเบนฟิก้า และ อันโตนิโอ ปูเอร์ต้า ของเซบีญ่า ก็เสียชีวิตแบบนี้เช่นกันช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเกิดเหตุเศร้าสลดในสนามฟุตบอลถึง 3 ราย จำนวนี้ 2 ใน 3 รายเสียชีวิตส่วนอีกหนึ่งรอดอย่างปาฎิหาริย์
     ฟาบริซ มูอัมบา กองกลางวัย 25 ปีของ สโมสร โบลตั้น จู่ๆก็หมดสติลมลงกลางสนาม ในเกมเอฟเอ คัพ ที่แข่งกับ สเปอร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้เขาอาการดีขึ้นเรื่อยๆ จนแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
     21 มีนาคาม ที่ผ่านมา แฟนบอลต้องสูญเสีย เวนคาเตช กลองหน้าวัย 27 ปี ของสโมสรบังกาลอร์ มาร์ส ของ อินเดีย เกิดจากอาการเดียวกัน สาเหตุที่ เวนคาเชต้องมาตายเพราะรถพยาบาลเข้ามาช่วยเหลือล่าช้าเกินไป
     หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา ปิแอร์มาริโอ โมโรซินี่ ของทีม ลิวอร์โน่ ในซีรีส์ บี ของอิตาลี ต้องโชคร้ายหลังหมดสติในเกมพบกับทีมเปสคาร่า และเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล
     ขณะที่ ปิเอโร่ จีนูดี ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจร่างกายของนักกีฬาบ่อยๆ อย่างน้อ้ย 4-5 เดือนต่อครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการซ้ำรอยขึ้นอีก

อาการของโรควูบ
โรควูบ คือ อาการลมเกือบหมดสติ หรือบางรายหมดสติไหป เป็นภาวะที่พบได้บ่อย สาเหตุของการเป็นลมเกือบจะหมดสติหรือหมดสติ มีได้หลายสาเหตุ มากมาย หนึ่งในสาเหตุนั้นคือ อาจเกิดจากความผิดปกติทางหัวใจ ผู้ป่วยที่มี ประสบการณ์กับตัวเอง รวมถึงคนใกล้ชิดผู้ป่วยจะเกิดความวิตกังวล สูญเสียความมั่นใจ เนื่องจากไม่แน่ใจว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดจะเป็นลมหมดสติอีกเมื่อไหร่ ถ้าเกิดขณะ ขับรถ หรือ เล่นกีฬา จะทำอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับโรควูบ กันดีกว่า การเป็นลมหมดสติเกิดขึ้นเมื่อสมองขาดเลือดไปเลี้ยงในระดับรุนแรง ทำให้ศูนย์ควบคุมรู้สึกตัวเสียการทำงานไป
สาเหตุคือ
1 ภาวะตกในหรือเสียใจอย่างรุนแรง
2 ไอหรือจามแรงมากเกินไป
3 ขณะยืนถ่ายปัสสาวะ หรือหลังถ่ายปัสสาวะ หลังจากที่กลั้นมานาน
4 ออกกำลังกายมากเกินไป
5 หลังอาหารมื้อหนัก
6 เส้นประสาทสมองที่อักเสบ
7 เป็นโรคสมองเสื่อมหรือสมองฝ่อ
8 โรคพาร์คินสันบางราย ที่มีระบบประสาทอัตโนมัติผิดปกติร่วมอยู่ด้วย
9 โรคเบาหวาน ในรายที่เส้นประสาทโดนทำลายจากเบาหวาน
10 จากยาบางชนิดเช่น รับประทานยาลดความดันมากเกินไป
11 ดื่มสุรามากเกินไป
12 จุดกำเนิดไฟฟ้าของหัวใจเสื่อมสภาพ
13 เสียเลือดมาก หรือเสียน้ำออกจากร่ายกายมากเกินไป เช่น ท้องร่วงรุนแรง อาเจียนรุนแรง
14 มีการกระตุ้นในระบบทางเดินอาหาร เช่น ล้วงคอ อาเจียน เบ่งถ่ายอุจจาระ ปวดท้องรุนแรง
15 ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง
16 ระบบทางเดินไฟฟ้าในหัวใจเสื่อมสภาพหรือผิดปกติ
17 สาเหตุจากการเสียสมดุลของระบบประสาทอัตโมมัติที่ควบคุมหัวใจและหลอดเลือด
18 ภาวะเสียเลือดจากหัวใจอุดตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง
19 โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ
20 เนื้องอกในห้องหัวใจ
21 ลิ้นหัวใจตีบรุนแรง
22 ภาวะที่มีน้ำในเยื่อหุ้มหัวใจมากและมีการกดการทำงานของหัวใจ
23 ภาวะเสียเลือดใหญ่ที่ออกจากหัวใจแตก หรือมีการฉีกขาดรุนแรง
24 ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงมากเกินไป
ควรปฎิบัติตัวอย่างไร เมื่อกำลังจะเป็นลมหมดสติ
     บางคนก่อนจะเป็นลมหมดสติ จะมีอาการเตือนนำมาก่อน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มวนท้อง อยากถ่าย เหงื่อแตก ตัวเย็น ถ้าเป็นจากโรคหัวใจ อาจมีใจสั่นนำมาก่อน หรืออาจไม่มีอาการเตือนเลยก็ได้ ขณะหมดสติอาจมีอาการเกร็ง กระตุกได้ ให้รีบล้มตัวลงนอนทันที เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น และลดการเกิดการบาดเจ็บ ถ้าขับรถอยู่ ควรจอดทันที และปรับที่นั่งให้อยู่ในท่านอนราบ ไม่ควรรีบลงจากรถ เพราะอาจหมดสติได้