วิเคราะห์บอล เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
ลิเวอร์พูล (8,พรีเมียร์ลีก) -vs- เชลซี (6,พรีเมียร์ลีก) ... (23.15)
สนาม : เวมบลีย์
ราคาบอล : เสมอ เชลซี
การพบกันล่าสุด
30/11/11 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
20/11/11 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
06/02/11 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
07/11/10 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 2-0
02/05/10 ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 0-2
04/10/09 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0
15/04/09 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 4-4
09/04/09 ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 1-3
01/02/09 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 2-0
26/10/08 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล
02/05/12 แพ้ ฟูแล่ม 0-1 เหย้า / ต่อ 1.0 ... เสีย
28/04/12 ชนะ นอริช 3-0 เยือน / ต่อ 0.5 ... บวก
22/04/12 แพ้ เวสต์บรอมวิช 0-1 เหย้า / ต่อ 1.5 ... เสีย
14/04/12 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 เหย้า เอฟเอ คัพ / ต่อ 0.25 ... บวก
11/04/12 ชนะ แบล็คเบิร์น 3-2 เยือน / ต่อ 0.5 ... บวก
เชลซี
03/05/12 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-2 เหย้า / ต่อ 1.25 ... เสีย
29/04/12 ชนะ ควีนส์ปาร์คฯ 6-1 เหย้า / ตอ 1.25 ... บวก
25/04/12 เสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 เยือน แชมเปี้ยนส์ ลีก / รอง 1.75 ... บวก
21/04/12 เสมอ อาร์เซน่อล 0-0 เยือน / รอง 0.5 ... บวก
19/04/12 ชนะ บาร์เซโลน่า 1-0 เหย้า แชมเปี้ยนส์ ลีก / รอง 0.75 ... บวก
ฟอร์ม 5 นัดหลังในรายการนี้
ลิเวอร์พูล
14/04/12 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 กลาง
18/03/12 ชนะ สโต๊ค 2-1 เหย้า
19/02/12 ชนะ ไบรจ์ตัน 6-1 เหย้า
28/01/12 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เหย้า
07/01/12 ชนะ โอลด์แฮม 5-1 เหย้า
เชลซี
16/04/12 ชนะ สเปอร์ส 5-1 กลาง
18/03/12 ชนะ เลสเตอร์ 5-2 เหย้า
07/03/12 ชนะ เบอร์มิงแฮม 2-0 เยือน
18/02/12 เสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 เหย้า
28/01/12 ชนะ ควีนส์ปาร์ค 1-0 เยือน
สถิติที่น่าสนใจ
* ทั้งสองทีมพบกันมาทั้งหมด 162 ครั้ง ลิเวอร์พูล ชนะ 73 เสมอ 33 และแพ้ 56
* หาก "หงส์แดง" เป็นฝ่ายเก็บชัยเอาไว้ได้ เท่ากับว่า พวกเขาจะเอาชนะเชลซี ได้เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน
* นี่จะเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่เจอกันในนัดชิงเอฟเอ คัพ แต่ถ้านับในทุกรอบ ทั้งคู่ดวลเกือกกันมาแล้ว 9 ครั้ง เชลซี ชนะ 5 ลิเวอร์พูล ชนะ 4
* หาก "สิงห์บลูส์" เป็นฝ่ายได้แชมป์ หมายความว่า เชลซี จะหยิโทรฟี่ใบนี้ได้ถึง 4 จาก 6 ปีหลัง
* เคนนี่ ดัลกลิช เคยพาลิเวอร์พูล เป็นแชมป์รายการนี้มาแล้ว 2 ครั้งคือปี 1986 และ 1989
สภาพความพร้อม
เปเป้ เรน่า, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ หลุยส์ ซัวเรซ 3 กำลังหลังของลิเวอร์พูล จะกอดคอกันคืนทัพอีกครั้ง หลังจากได้พักในเกมพ่ายฟูแล่ม 0-1 คาแอนฟิลด์ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ แอนดี้ แคร์โรลล์ หัวหอกผมยาว สลัดอาการบาดเจ็บลงสนามเต็ม 90 นาทีในเกมดังกล่าว และน่าจะได้รับโอกาสต่อเนื่อง โดยจะประสานงานร่วมกับ ซัวเรซ ในแดนหน้าเหมือนเดิม นอกนั้น "หงส์แดง" ไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมเข้ามาจากนัดที่แล้วแต่อย่างใด ยกเว้นแข้งเดี้ยงที่ปิดเทอมยาวอยู่ก่อนหน้าอย่างมิดฟิลด์สกอตติช ชาร์ลี อดัม กับห้องเครื่องบราซิเลี่ยน ลูคัส
เช็กฟิต : ไม่มี
เจ็บ : ลูคัส (12 นัด), ชาร์ลี อดัม (28 นัด 2 ประตู),
แบน : ไม่มี
จอห์น เทอร์รี่, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, รามิเรส และ ราอูล เมยเรเลส คือ 4 แข้งหลักที่จะหมดสิทธิ์ช่วยทีมในนัดชิงดำกับ บาเยิร์น ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก จึงเชื่อว่า ดิ มัตเตโอ กุนซืออิตาเลี่ยน จะใช้งานทั้ง 4 รายดังกล่าวลงสนามเกมนี้อย่างแน่นอน เพราะคงไม่ส่งผลกระทบใดๆก่อนถึงวันที่ 19 ซึ่งจะดวลเกือกกับ "เสือใต้" ถึงแม้คนใดคนหนึ่งจะเจ็บก็ตาม ส่วนสองปราการหลัง ดาวิด ลุยซ์ กับ แกรี่ เคฮิลล์ ที่เดี้ยงอยู่ก่อนหน้า ล่าสุดยังลงซ้อมไม่ได้ จึงน่าจะต้องรอทีเดียวในวันเสาร์ที่ 19 โน่นเลย ถึงจะมีโอกาสลงช่วยทีม ขณะที่แนวรุก ดร็อกบา น่าจะได้ลงล่าตาข่ายก่อน เฟร์นานโด ตอร์เรส เนื่องจากหัวหอกไอวอรี่ โคสต์ มีสถิติอันยอดเยี่ยมในสนามเวมบลีย์ ด้วยการกดไปถึง 7 ประตู ตลอด 7 เกมที่ได้ลงเล่นบนสังเวียนแห่งนี่้
เช็กฟิต : ไม่มี
เจ็บ : ดาวิด ลุยซ์ (20 นัด 2 ประตู), แกรี่ เคฮิลล์ (10 นัด 1 ประตู)
แบน : ไม่มี
ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : เปเป้ เรน่า ; เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดนนี่ แอ๊กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ ; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจย์ สเปียริ่ง ; สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หลุยส์ ซัวเรซ ; แอนดี้ แคร์โรลล์
เชลซี (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก ; โชเซ่ โบซิงวา, จอห์น เทอร์รี่, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แอชลี่ย์ โคล ; แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ราอูล เมยเรเลส ; รามิเรส, ฆวน มาตา, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ; ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
police วิเคราะห์ / ฟันธง
เป็นบอลแพ้ทางกันไปแล้ว เพราะเชลซี แทบจะผูกปีพ่าย "หงส์แดง" อยู่เกือบตลอดในระยะหลัง ความมั่นใจจึงน่าจะเป็นฝั่ง "สีแดง" ที่เหนือกว่า อีกทั้ง "สิงห์บลูส์" เริ่มแสดงความอ่อนล้าออกมาให้เห็นในเกมพ่ายนิวคาสเซิ่ล เมื่อกลางสัปดาห์ หลังจากพวกเขาลงสนามเจอเกมหนักมาติดต่อกัน (15 วัน 5 เกม) ผิดกับลิเวอร์พูลที่เก็บตัวจริงเพื่อเกมนี้โดยเฉพาะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบรรดาแข้งจากลอนดอนจะหมดหรือไม่ หากโดนบี้หนักๆ นอกจากนี้ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ขึ้นชือว่าเล่นบอลถ้วยได้อย่างแข็งแกร่ง และมักจะมีโชคเข้าข้างอยู่เสมอ จริงอยู่ว่า เชลซี อาจจะมีสถิติในเอฟเอ คัพ ที่ยอดเยี่ยม แต่ ลิเวอร์พูล ซีซั่นนี้ก็มาดี (ในเอฟเอ คัพ) มักจะมีจุดเปลี่ยนอยู่เสมอ ดังนั้นชื่อชั้นทั้งคู่อาจจะใกล้เคียงกัน ทว่าวัดกันหลายๆมุมแล้ว "หงส์แดง" ยังดูดีกว่า จึงเชื่อว่าท้ายที่สุดแชมป์น่าจะตกอยู่ในมือของ "เดอะ เร้ดส์"
ผลบอลที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1
อัตราความมั่นใจ : 7/10
beerkung
05 / 05 / 2012 15:20