สถิติน่าสนใจ ยูโร 2012 กลุ่ม บี : ฮอลแลนด์ -vs- เยอรมัน

    เจอกันคราวนี้ เยอรมัน เล่นง่ายกว่า เพราะประตูชัยของ มาริโอ โกเมซ ในเกมเฉือนชนะ โปรตุเกส 1-0 ทำให้ "อินทรีเหล็ก" มีตุนในกระเป๋าแล้ว 3 แต้ม ต่างจาก ฮอลแลนด์ ที่ยังมือเปล่า แถมคิวที่พลาดดันเป็นนัดเก็บตกของสายกับทีมเต็งบ๊วยอย่าง เดนมาร์ก อีกต่างหาก
 
Head-to-head record

    - คู่นี้พบกันมาแล้วทั้งหมด 39 หน เยอรมันครองสถิติเหนือกว่าที่ ชนะ 14 เสมอ 14 และแพ้ 10 ครั้ง แต่ถ้านับเฉพาะการแข่งขันภายใต้ความดูแลของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ล่ะก็ (ไม่นับรวมฟุตบอลโลก) ฮอลแลนด์ ผลงานสวยกว่าที่สถิติ ชนะ 2 เสมอกับแพ้อย่างละนัด

    - นอกจากนั้นถ้านับรวมเกมที่ ฮอลแลนด์ ดวลกับ "อินทรีเหล็ก" ตั้งแต่เมื่อครั้งเข้าร่วมการแข่งขันภายใต้ชื่อ เยอรมันตะวันออก ภาพรวมสถิติจะกลับมาเป็นฝั่งดัตช์แมนเป็นต่อทันที เพราะนักเตะแดนกังหันลมเอาชนะ 6 เสมอ 1 และโดนถอนทุนคืนไปสองเกมเท่านั้น
 
      - อย่างไรก็ตามดวลกันช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเป็น เยอรมัน คว่ำ ฮอลแลนด์ 2 จาก 3 นัด แบบไร้พ่าย โดยครั้งล่าสุดที่ "อัศวินสีส้ม" ชิมความสำเร็จเหนือฝั่งเบียร์ต้องย้อนไปตอนบุกเผาเครื่อง "อินทรีเหล็ก" ถึง เกลเซ่นเคียร์เช่น 3-1 ในปี 2002

    - จะว่าไปในการพบกันครั้งสุดท้ายที่ เยอรมัน ต้อนขาด 3-0 เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2011 หน้าตาขุมกำลังของสองฝั่งก็ไม่ผิดแผกไปจากโครงสร้างของทีมที่คาดว่าจะลงสนามในค่ำคืนนี้สักเท่าไร

15 November 2011: เยอรมัน 3-0 ฮอลแลนด์ (มุลเลอร์ 16, โคลเซ่ 25, โอซิล 66)
เยอรมัน : นอยเออร์ - บัวเต็ง, แมร์เตซัคเกอร์, บาดสตูเบอร์, อาโอโก้ - ครูส, เคดิร่า - มุลเลอร์, โอซิล, โพดอลสกี้ - โคลเซ่
ฮอลแลนด์ : สเตเคเลนเบิร์ก - ฟาน เดอร์ เวียล, ไฮติงก้า, มาไธจ์เซ่น, บราฟไฮด์ - ฟาน บอมเมล, สตรู้ทมัน - เคาท์, สไนจ์เดอร์, บาเบล - ฮุนเตล่าร์

Form guide

• ฮอลแลนด์มีมาตรฐานในบอลยุโรปดีมาก เพราะพลาดศึกยูโรในปี 1984 ครั้งเดียวเท่านั้นนับตั้งแต่ประเดิมเข้าร่วมในปี 1974 ขณะเดียวกันตั้งแต่ที่คว้าแชมป์ปี 88 กองทัพ "อัศวินสีส้ม" ก็ไม่เคยตกรอบแบ่งกลุ่มมาก่อน ทว่าก็ไม่เคยเข้าลึกไปสัมผัสบรรยากาศในนัดชิงชนะเลิศอีกเลยเช่นกัน

• ส่วน เยอรมัน หรือ เยอรมันตะวันตก มีส่วนร่วมกับรอบสุดท้ายของศึกยูโรทุกสมัยนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มต้นเข้าร่วมในปี 1972 และสามารถคว้าแชมป์ไปครองได้เลย นอกจากนั้นยังพกดีกรีมามากมายทั้งการเป็นแชมป์ 1980 และ 1996 รวมถึงเข้าชิงในปี 1976, 1992 และ 2008 ทว่านับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ยุคมิลเลนเนียมมา "อินทรีเหล็ก" ยังไม่เคยสัมผัสตำแหน่งจ้าวยุโรปเลย