- สเปน นำจ่าฝูงด้วยประตูได้-เสียเหนือ โครเอเชีย ที่มี 4 แต้มเท่ากัน ดังนั้น "แชมป์เก่า" ต้องการแค่ผลเสมอเพื่อเข้ารอบ ส่วน "ตาหมากรุก" ต้องชนะหรือกรณีเสมอต้องไม่ใช่ 0-0 หรือ 1-1
- ชัยชนะเหนือ ไอร์แลนด์ 4-0 ช่วยสถานต่อสถิติไร้พ่ายของ สเปน ในการแข่งขันที่มีผลอย่างเป็นทางการ (ไม่รวมอุ่นเครื่อง) ออกเป็น 16 เกมติดต่อกัน ส่วน โครเอเชีย ชนะกับเสมออย่างละ 2 นัด จากการลงสนาม 4 นัดที่ผ่านมา
- ก่อนหน้านี้ สเปน - โครเอเชีย เคยดวลกันมาแล้ว 4 หน แต่เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องทั้งหมด โดยนักเตะเมืองคนสู้วัวครองสถิติเหนือกว่าที่ชัยชนะ 2 ต่อ 1 ทว่านับเฉพาะการแข่งขันอย่างเป็นทางการ นี่เป็นการปะทะกันหนแรก
- สเปน ไม่พลาดตั๋วรอบสุดท้ายในฟุตบอลรายการหลักนับตั้งแต่ผ่านศึก ยูโร 1992 ขณะที่ โครเอเชีย ตีตั๋วผ่านเข้ามาลุยรอบสุดท้ายของฟุตบอลยูโรแล้ว 3 สมัยรวด
- มาริโอ มานด์ซูคิช ศูนย์หน้าโครแอต เป็นนักเตะที่ใช้โอกาสประหยัดที่สุดของศึกยูโรคราวนี้ เพราะมีโอกาสซัดบอลเข้ากรอบ 4 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ 3 ตุง
- โครเอเชีย ยังไม่แพ้ใครในรอบสุดท้ายของรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาแล้ว 6 เกม (เฉพาะช่วงเวลาปกติ) ส่วนที่ตกรอบในปี 2008 เป็นเพราะดวลจุดโทษแพ้ ตุรกี
- สเปน เพิ่งสร้างสถิติใหม่ให้ทีมด้วยการผ่านบอลในเกมเดียวรวมถึง 860 ครั้ง ในเกมที่ไล่ต้อน ไอร์แลนด์ 4-0 โดยก่อนหน้านี้เคยฝากตัวเลขไว้ที่ผ่านบอล 778 ครั้งในหนึ่งเกม
- พร้อมกันนั้น ชาบี เอร์นันเดซ ยังสร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเองด้วยการผ่านบอลรวม 136 ครั้งในเกมกับ "ยักษ์เขียว" ซึ่งทำลายสถิติก่อนหน้านั้นของ โรนัลด์ คูมัน ที่ทำไว้ตอนปะทะ เดนมาร์ก ในปี 1992 ที่ 117 ครั้ง
- เกมรับ สเปน เพิ่งเสียให้คู่แข่งประตูเดียวในการลงสนามรายการเมเจอร์ 6 นัดหลังสุด
- การซัดเบิ้ลสองตุงของ เฟร์นันโด ตอร์เรส พาให้ "เอล นินโญ่" สะสมไมล์ในทีมชาติขึ้นเป็น 30 ตุง ซึ่งเป็นรอง ราอูล กอนซาเลซและ ดาบิด บีย่า แค่สองรายในลิสต์ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีม "กระทิงดุ"