สถิติน่าสนใจ ยูโร 2012 กลุ่ม D : ยูเครน -vs- อังกฤษ

     * ลูกทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน รั้งอยู่รองจ่าฝูงกลุ่ม ดี เก็บไปแล้ว 4 แต้ม ซึ่งนำคู่แข่งในคืนนี้อยู่หนึ่งคะแนน และหนึ่งอันดับ โดยเคียฟ เปิดฉากได้อย่างสวยงามด้วยการชนะสวีเดน 2-1 ก่อนจะพลาดท่าพ่าย ฝรั่งเศส 0-2 ในเกมถัดมา ส่วน อังกฤษ ออกตัวเจ๊า ฝรั่งเศส 1-1 ตามด้วยพลิกแซง สวีเดน สุดมัน 3-2

     * "สิงโตคำราม" ขอแค่เสมอเป็นอย่างน้อย ก็จะลอยลำทันที แต่ถ้าอังกฤษพลาดท่าพ่าย พวกเขาต้องลุ้นให้ฝรั่งเศสแพ้สวีเดน ในสกอร์ที่ขาดลอย พลพรรค "ทรี ไลอ้อนส์" จึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วนเจ้าภาพร่วม ไม่ต้องคิดอะไรมาก นอกจากเข้าวินสถานเดียว

สถิติที่เคยพบกัน

     * ทั้งสองทีมเพิ่งเคยพบกันในศึกคัดบอลโลก 2012 ซึ่งต่างฝ่ายต่างเก็บชัยไว้ได้แบบบ้านใครบ้านมัน อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุด อังกฤษ จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ทิ้งห่าง ยูเครน อันดับสองถึง 6 แต้ม ก่อนที่ "เยลโลว์ บลู" จะอกหักพ่ายกรีซ ในรอบเพลย์-ออฟ

     * ขณะที่การพบกันในเกมกระชับมิตร อังกฤษเป็นฝ่ายคว้าชัยไว้ได้ทั้งหมด (2 ครั้ง) ครั้งแรกในปี 2000 ที่เวมบลีย์ ชนะ 2-0 ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ กับ โทนี่ อดัมส์ ช่วยกันซัดคนละตุง ส่วนครั้งถัดมาในปี 2004 "สิงโตคำราม" ถล่ม 3-0 จากการดาหน้ายิงของ เบ็คแฮม, โอเว่น และ ไรท์-ฟิลลิปส์
 
     * จะว่าไปบอลคู่นี้เริ่มเป็นหนังชีวิต เพราะจบศึกยูโร 2012 ยูเครน กับ อังกฤษ จะไปดวลเกือกกันอีกครั้งในคัดบอลโลก 2014 กลุ่มเอช วันที่ 11 กันยายนนี้

ผลงานที่ผ่านมา

     * ยูเครน เคยดชว์ผลงานในเวิลด์ คัพ 2006 ไว้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการทะลุถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนจะพ่ายอิตาลี 0-3

     * ขณะที่เกมพ่าย ฝรั่งเศส ในนัดที่ผ่านมา เท่ากับว่า ยูเครน ไม่ชนะใครในโดเนตสค์ (ดอนบาส อารีน่า) มา 6 เกมติดต่อกันแล้ว (เสมอ 2 แพ้ 4)

     * อังกฤษ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายยูโร 2012 ด้วยผลงานไร้พ่าย (ชนะ 5 เสมอ 3) เท่ากับว่าพวกเขายังไม่แพ้ใครในเกมอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ถูกเยอรมัน ต้อนตือ 1-4 เมื่อปี 2010

     * ที่น่าสนใจก็คือ อังกฤษ ยังไม่สามารถล้มเจ้าภาพได้เลยนับตั้งแต่ปี 1954 ซึ่งครั้งนั้นเอาชนะเจ้าภาพสวิตเซอร์แลนด์ 2-0 ในศึกเวิลด์ คัพ นับแต่นั้นมา พวกเขาพ่ายอิตาลี 0-1 (ยูโร 1980), เสมอ สเปน 0-0 (บอลโลก 1982) แพ้อิตาลี 1-2 (บอลโลก 1990) แพ้สวีเดน 1-2 (ยูโร 92) และแพ้โปรตุเกส ในการดวลจุดโทษ (ยูโร 2004)