เจาะลึกคีย์แมนก่อนเกม : อันเดรส อีเนียสต้า -vs- ซาเมียร์ นาสรี่
หลังจากที่ฟาดฟันกันมาในศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบแบ่งกลุ่มในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้บทสรุปผู้เข้ารอบมาทั้ง 8 ทีม ซึ่งการประกบคู่ดวลที่ดูจะน่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้น คู่มวยถูกรุ่นอย่าง สเปน แชมป์เก่าและแชมป์โลกสมัยล่าสุด กับ ฝรั่งเศส ที่มีดีกรี แชมป์โลก ปี 2002 และ แชมป์ยุโรป ปี 2004 ที่หากว่ากันตามศักดิ์นาแล้วคงเป็นเรื่องยากที่สองมหาอำนาจลูกหนังที่อยู่กันต่างยุคต่างสมัยจะยอมความกันได้
ก่อนแข่งสื่อเมืองนอกต่างประโคมข่าวเกี่ยวกับความเห็นของตัวกุนซือ (บิเซนเต้ เดล บอสเก้ / โลร็องต์ บล็องก์) ว่าคิดอย่างไรกับอีกฝ่ายตรงข้าม ซึ่งอาจจะดูจะเป็นเรื่องไกลตัวเกินไปหน่อยสำหรับคนดูบอลอย่างเราๆที่อดหลับอดนอนจนถึงตีสี่ เพียงแค่ต้องการเสพบรรยากาศ "ยูโร ฟีเวอร์", ความมันที่ได้จากการแข่งขัน และเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมให้ถึงจุดพีคมากขึ้น เรามาทำความรู้จักกับ "คีย์แมน" หรือ ตัวสำคัญที่สามารถชี้ทิศทางของแต่ละทีมกันดีกว่า
สเปน


อันเดรส อีเนียสต้า
อีเนียสต้า ดังเป็นพลุแตกหลังจากซัดประตูชัยให้ สเปน คว้าแชมป์โลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ถือเป็นรายการระดับเมเจอร์ที่สองต่อจากได้แชมป์ยูโรที่ สวิตเซอแลนด์ ส่วนหนึ่งที่มิดฟิลด์หัวเถิกรายนี้ฟอร์มกระฉูดจนถึงปัจจุบันได้รับอานิสงส์มาจากการถูกรายล้อมไปด้วยเหล่า "ซุปตาร์" ใน บาร์เซโลน่า เจ้าตัวจึงอาศัยโอกาสนี้ซึมซับบุคลิกและจุดเด่นของ ลิโอเนล เมสซี่ และ ชาบี เอร์นานเดซ จนสามารถประยุกต์ใช้เป็นของตัวเอง ด้วยการครองบอลที่เหนียวแน่น ลูกจ่ายทะลุช่องที่คมกริบ และจังหวะสอดขึ้นไปทำประตูที่เป็นสไตล์ตัวเอง ทำให้เด็กปั้นจาก "ลา มาเซีย" รายนี้ขึ้นมาเป็นยอดมิดฟิลด์แถวหน้าของโลกในปัจจุบัน จนสื่อในประเทศเปรียบเจ้าตัวเหมือนตัวละครที่มีชีวิตอย่าง โอโซระ ซึบาสะ หรือที่บ้านเราเรียกว่า "เจ้าหนูสิงห์นักเตะ" ตัวการ์ตูนยอดนิยมของประเทศ ญี่ปุ่น เลยทีเดียว (ดูรูปแล้วจะรู้เอง)
ฝรั่งเศส
ซาเมียร์ นาสรี่
นาสรี่ กลายเป็น "แข้งเจ๋ง" ที่ถูกลืมในระดับสโมสร ทว่าสำหรับทีมชาติภายใต้การทำทีมของ โลร็องต์ บล็องก์ ที่เข้ามาปฎิวัติวงการลูกหนังเมืองน้ำหอม ด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงามต่อบอลตามช่อง โดยมีเกมรับที่เหนียวแน่น เป็นจุดเด่น ทำให้บทบาทของ นาสรี่ ที่เป็นดาวดับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับการชุบชีวิตราวเกิดใหม่จนกลายเป็นหัวใจสำคัญของ ทัพตราไก่ ไปโดยปริยาย เพราะนอกจาก อดีตแข้ง อาร์เซน่อล จะมีเทคนิคดี มีไอเดียในการเชื่อมเกมที่ลื่นไหลแล้ว ทีเด็ดจากแถวสองที่เรียกได้ว่า แข้งตีนควาย (ยิงหนัก) เหมือนในนัดเปิดสนามเสมอ อังกฤษ ก็หวังได้จากกองกลางรายนี้เช่นกัน
อีเนียสต้า vs นาสรี่
รอบ 8 ทีม คีย์แมนของฝรั่งเศสดูงานจะชุกมากกว่าทางสเปน เพราะนอกจากจะต้องคอยเปิดเกมรุกให้กับฝรั่งเศสแล้ว นาสรี่ ยังต้องแบกภาระในการผลิตสกอร์ไปในตัว เนื่องจากส่วนใหญ่ โลร็องต์ บล็องก์ มักให้ คาริม เบนเซม่า กองหน้าประจำทีมเป็นตัวหลอกล่อเพื่อเปิดช่องให้กับ มิดฟิลด์สอดขึ้นไปยิงประตูเสียมากกว่า ขณะที่ อีเนียสต้า คอยวูบวาบทางริมเส้นฝั่งซ้าย แม้ว่าจะยังไม่โดดเด่นอะไรมากนักในสามเกมที่ผ่านมา แต่ก็สามารถเล่นร่วมกับทีมได้เป็นเนื้อเดียวกัน และเกมนี้ ฝรั่งเศส มีปัญหาในเกมรับ เพราะจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟิลิปป์ เม็กแซส ที่ติดโทษแบน ตัวที่ลงมาแทนน่าจะเป็น โลร็องต์ กอสเซียลนี่ ที่พึ่งรับใช้ชาติไปแค่สามนัด ส่อแววน่าจะมีปัญหาในการประสานงานกับ อาดิล รามี่ ตัวหลักอีกราย ช่องว่างในเกมรับที่ใหญ่เกินคำพูดแบบนี้ น่าจะเป็นโอกาสทองให้ อีเนียสต้า ได้จังหวะจ่ายบอลทะลุช่องสวยๆ ให้ แนวรุกรายอื่นที่จะสอดขึ้นมาจบสกอร์ไปได้