เจาะลึกคีย์แมนก่อนเกม : เมซุต โอซิล -vs- ปาปาสธาโทปูลอส
การเจอกันระหว่างเต็งหนึ่งในรายการอย่าง เยอรมัน และเต็งบ๊วยใน 8 ทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์อย่าง กรีซ ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะทิศทางของเกมส่อแววจะเป็นการดวลกันระหว่าง เกมรุกที่ดุดัน -vs- เกมรับที่เหนียวแน่น ที่จะทดสอบ "อินทรีย์เหล็ก" ว่าจะแน่สมราคาคุยหรือไม่
เนื่องจากนาทีนี้คงไม่มีใครคิดว่า กรีซ ที่ผ่านเข้ารอบมาแบบเจียนตาย จะใจดีสู้เสือเปิดเกมรุกใส่เยอรมันเพราะดูจากขุมกำลังและความสามารถพลพรรค "เทพนิยาย" คงต้องยอมความแก่ เยอรมัน ที่ล้วนมีแต่นักเตะระดับแม่เหล็กอยู่ล้นทีมนั้นเอง ทำให้แนวโน้มที่ แฟร์นานโด ซานโต๊ส จะขุด "แผนเต่า" โคตรเกมรับแบบในนัดเจอ รัสเซีย มาใช้ ถือว่ามีความเป็นได้สูง เราจึงต้องดูตัวแปรที่จะสามารถชี้ทิศทางความยากง่ายของแต่ละทีมให้เห็น
เยอรมัน

เมซุต โอซิล
โอซิล เข้ามาเล่นทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ในฐานะจอมทัพทีม "อินทรีย์เหล็ก" เป็นรายการที่สองหลังจากเจ้าตัวงัดฟอร์มระดับมาสเตอร์พีซมาอวดสายตาชาวโลก ใน เวิลด์ คัพ 2010 จน เรอัล มาดริด พี่บิ๊กใน ลา ลีกา สเปน แสดงอาการกระเหี้ยนกระหือรือในการดึงอดีตแข้ง เบรเมน มาร่วมทัพเป็นการใหญ่ ด้วยเทคนิคที่แพรวพราว ในจังหวะเลี้ยงบอลและจ่ายบอลที่ชาญฉลาด โอซิล กลายเป็น คีย์แมนสำคัญ ให้กับ เยอรมัน ในยุค โยอาคิม เลิฟ ไปโดยปริยาย แม้ว่าสามเกมในรอบแบ่งกลุ่ม มิดฟิลด์ตาโปน อาจจะเล่นอยู่ในระดับความดีไม่มีความชั่วไม่ปรากฏ ทว่าการเจอกับ กรีซ ที่มาเน้นรับเต็มตัว เยอรมัน คงต้องพึ่งการเปิดเกมของ โอซิล ที่สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์ 1-1 หรือการเอาตัวรอดจากการโดนรุมกินโต๊ะเพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนทำสกอร์ในพื้นที่สุดท้าย
กรีซ

โซคราติส ปาปาสธาโทปูลอส
ปาปาสธาโทปูลอส ปราการเหล็กจาก คาลามาต้า เมืองเล็กๆในประเทศ กรีซ นอกจากจะมีบทบาทในฐานะนายใหญ่ในเกมรับ กรีซ ชุดนี้แล้ว การที่เจ้าตัวได้ค้าแข้งในเวที บุนเดสลีก้า กับ แวร์เดอร์ เบรเมน ถือเป็นการ "อัฐยายซื้อขนมยาย" ขนานหนึ่งที่เอาสไตล์และข้อมูลการเล่น เยอรมัน มาแล่เนื้อเถือหนัง หรือที่บ้านเราเรียกว่า "แฉ" ทัพ ดอยท์ชลันด์ ให้ แฟร์นันโด ซานโต๊ส กุนซือกรีซ ได้เปิดตำราตั้งรับก่อนแมตช์ดวลเกือกกับ แชมป์โลกสามสมัย หากวันนี้ กรีซ ที่เป็นรองทุกประตูไม่แพ้ เยอรมัน ใน 120 นาที คงต้องขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่น และการสั่งการเกมรับของ ปาปาสธาโทปูลอส ด้วยเช่นกัน
เมซุต โอซิล -vs- ปาปาสธาโทปูลอส
แทคติกที่กุนซือ กรีซ กำชับลูกทีมให้เล่นคงเน้นตั้งรับแบบเต็มสตรีม ต้องพึ่งฝีไม้ลายมือการบัญชาเกมรับของ โซคราติส ปาปาสธาโทปูลอส เหมือนในแมตช์เจอ รัสเซีย อีกครั้ง แม้ว่าวันนี้ทัพเทพนิยายจะเป็นรองทุกกระบวนท่า แต่จุดหนึ่งที่ทำให้ กรีซ รับมือ เยอรมัน ได้ง่ายขึ้น คือสปีดบอลพลพรรค "อินทรีย์เหล็ก" ไม่ได้ตั้งเกมเร็วกว่าคู่มือในนัดที่แล้วอย่าง รัสเซีย แต่อย่างใด น่าจะทำให้พวกเขาปรับตัวและเคยชินกับเกมเร็วสไตล์ไดเร็กฟุตบอลจนสามารถต้านพลังเกมรุกของแชมป์โลกสามสมัยได้ดีในระดับหนึ่ง
กลับกันที่กล่าวมาทั้งหมดคืองานของ เมซุต โอซิล ที่เป็นข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวที่ เยอรมัน มีเหนือ รัสเซีย ที่พึ่งระบบจนไปไม่เป็นในการเจอสถานการณ์ 1-1 และผู้เล่นส่วนใหญ่ของ เยอรมัน ก็ไม่ได้ต่างจากทีมหมีขาวเท่าไหร่ โดยเฉพาะเกมรุก โกเมซ (รอเข้าฮอสชงเองกินเองไม่ได้), มุลเลอร์ (เล่นฉาบฉวย ไม่ค่อยมีส่วนกับการต่อบอล), โพดอลสกี้ (ดุดันแต่ทื้อไปหน่อยสำหรับการโดนรุมกินโต๊ะ) ทั้งสามรายล้วนแต่รอการเปิดทางให้ของ โอซิล ทั้งสิ้น เกมนี้ เยอรมัน จะอยู่หรือไป คงต้องขึ้นอยู่กับจอมทัพรายนี้ว่าจะพลิกเกมและเพิ่มสีสันใหกับพลพรรค "อินทรีย์เหล็ก" ได้มากแค่ไหน