เยอรมัน
* ลูกทีมของ โยอาคิม เลิฟ คว้าชัยในเกมอย่างเป็นทางการมา 15 แมตช์ติดต่อกัน ทำลายสถิติ "กระทิงดุ" สเปน (2010-11), ฝรั่งเศส (2002-04) และ ฮอลแลนด์ (2008-2010) ซึ่งทั้งสามทีมสร้างไว้ที่ 14 นัดติดต่อกัน
* มิโรสลาฟ โคลเซ่ กระทุ้งประตูในระดับเมเจอร์ทัวร์นาเมนต์ไปถึง 17 ลูก แถมมาจากลูกโหม่งถึง 10 ประตู
* อย่างไรก็ตาม เยอรมัน รักษาคลีนชีตได้เพียง 4 นัดจาก 19 เกมหลังซึ่งลงสนามในรายการ ยูเอฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ (ยูโร)
* "อินทรีเหล็ก" จะส่งบอลสู่ก้นตาข่ายอย่างน้อยหนึ่งประตู ตลอด 20 เกมที่ผ่านมา
* เลิฟ จะคุมทีมเยอรมัน ครบ 84 เกม ในวันที่จะพบกับอิตาลี เป็นรองแค่ เบอร์ตี้ โฟกต์ส (102), เฮลมุต โชน (139) และ เซปป์ เฮร์เบอร์เกอร์ (167)
ข่าวอาการบาดเจ็บ
* บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์ตัวเก่ง ออกมาเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ายังมีอาการเจ็บบริเวณข้อเท้ามาตลอด นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
* อิลคาย กุนโดแกน อีกหนึ่งตัวสำรอง เดี้ยงบริเวณข้อเท้าซ้ายเพิ่มเติมเข้ามาระหว่างซ้อมเมื่อวันเสาร์
เบ็ดเตล็ด
* เมซุต โอซิล ถูกรับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม ในเกมกับโปรตุเกส และ กรีซ ส่วน มาริโอ โกเมซ ได้รางวัลดังกล่าวในนัดเฉือนฮอลแลนด์ 2-1 ขณะที่เกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มกับ เดนมาร์ก ทางด้าน ลูคัส โพดอลสกี้ ซิวแมน ออฟ เดอะ แมตช์
* ฟิลลิปป์ ลาห์ม ฟูลแบ็กกัปตันทีม ยิงประตูไม่ได้มายาวนาน 87 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่ลูกจุดโทษในเกมที่พบกับ ซังต์ เพาลี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2010 ก่อนจะมาปลดล็อกระเบิดตาข่ายในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับกรีซ
* นับเป็นครั้งแรกของเยอรมัน ในทัวร์นาเมนต์ยูโร ที่พวกเขากวาดชัยในรอบแบ่งกลุ่มได้แบบร้อยเปอร์เซนต์
* ลูคัส โพดอลสกี้ ลงสนามให้ทีมชาติครบ 100 นัด ในเกมกับ เดนมาร์ก ในรอบแบ่งกลุ่ม
* มีนักเตะถึง 6 รายในทีมชุดนี้ซึ่งเคยผ่านทัวร์นาเมนต์ยูโรมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น ลาห์ม (2004 , 2008), เพอร์ เมร์แตซัคเกอร์ (2008), ชไวน์สไตเกอร์ (2004 , 2008), โคลเซ่ (2004 , 2008), โพดอลสกี้ (2004, 2008) และ โกเมซ (2008)
ผลงานอุ่นเครื่องก่อนยูโร
31/05/12 ชนะ อิสราเอล 2-0 (โกเมซ 40, ชูร์เร่ล์ 82)26/05/12 แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 3-5 (เดร์ดิย็อก 21,23,50 ลิชสไตเนอร์ 67, เมห์เมดี้ 76 ; ฮุมเมิ่ลส์ 45, ชูร์เร่ล์ 64, รอยส์ 72)
ผลงานในรอบคัดเลือก
* เยอรมัน เก็บชัยเรียบวุธ 10 นัด ในรอบคัดเลือกกลุ่มเอ พร้อมกับเป็น 1 ใน 5 ทีมในประวัติศาสตร์ ซึ่งผ่านเข้ารอบสุดท้ายยูโรมาแบบชนะร้อยเปอร์เซนต์
* เยอรมัน กดไปถึง 34 ลูกในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา เป็นรองเพียง ฮอลแลนด์ ที่ซัดกระจาย 37 ตุง
* มานูเอล นอยเออร์ ลงเล่นทุกเกมในรอบคัดเลือก ขณะที่ ลาห์ม มีชื่อทุกนัดเช่นกัน แต่ว่าถูกส่งลงเล่นในฐานะตัวสำรองในเกมนัดสุดท้ายกับ เบลเยียม
อิตาลี
* อิตาลี สะกดชัยในเกมอย่างเป็นทางการได้เพียงครั้งเดียวในรอบ 7 นัด ซึ่งเป็นแมตช์ชนะไอร์แลนด์ 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมานั่นเอง เท่ากับว่าหยุดสถิติไม่ชนะใครมา 6 เกมติดต่อกันในรอบสุดท้ายของฟุตบอลทัวร์นาเมนต์
* เซซาเร่ ปรันเดลลี่ ยังไม่พาอิตาลี พบกับความพ่ายแพ้ นับตั้งแต่เข้ามารับงานกุนซือ (ชนะ 9 เสมอ 5) ส่วนเกมชนะอังกฤษ จากการดวลจุดโทษ นับเป็นเสมอ
* 7 ครั้งที่อิตาลี ลงเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษในศึกยูโร ปรากฏว่า "อัซซูรี่" ไม่เคยเจาะตาข่ายคู่ต่อสู้ได้เลย
* อันเดรียส ปิร์โล่ ผ่านบอลไปถึง 146 ครั้ง เข้าเป้าถึง 117 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ (ต่อเกม)
* คริสเตียน มาจจิโอ้ จะติดโทษแบนในเกมหน้า ส่งผลให้ลงช่วยทีมเจอกับเยอรมัน ไม่ได้
ข่าวอาการบาดเจ็บ
* จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ปราการหลังตัวหลัก เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า จนไม่มีส่วนร่วมในเกมกับอังกฤษ
* อิกนาซิโอ อบาเต้ (กล้ามเนื้อขา) และ ดานิเอเล่ เดล รอสซี่ (สะโพก) มีปัญหาอาการบาดเจ็บระหว่างเกมดังกล่าว
* อันโตนิโอ คาสซาโน่ ถูกคาดว่าจหลุดโผทีมชาติชุดนี้ หลังจากตรวจพบโรคหัวใจ แต่ว่าเจ้าตัวกลับมาได้อย่างเหลือเชื่อตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน จนเรียกความฟิตได้ทันเวลา
เบ็ดเตล็ด
* คาสซาโน่ เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมต้อนไอร์แลนด์ ส่วนปิร์โล่ ได้รางวัลดังกล่าวในเกมเจ๊าโครเอเชีย และ ชนะ อังกฤษ
* ประตูจากลูกตั้งเตะของ ปิร์โล่ ในเกมกับโครเอเชีย นับเป็นลูกฟรีคิกครั้งแรกตั้งแต่ลูกยิงของ มาเร็ก ไฮนซ์ ของสาธารณรัฐเช็ก ที่ยิงเยอรมัน ในปี 2004
* เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ ลงสัมผัสเกมไปแค่นัดเดียว ในแมตช์เจ๊าสเปน เช่นเดียวกับ อเลสซานโดร เดียมานติ ในเกมชนะ ไอร์แลนด์ ส่วน ฟาบิโอ บอรินี่ กองหน้าดาวรุ่งยังไม่มีส่วนร่วมในรายการนี้เลย
* นักเตะอิตาลี ชุดนี้มีถึง 8 รายที่เคยผ่านเวทียูโรมาก่อน ทั้ง จานลุยจิ บุฟฟ่อน(2004,2008), คาสซาโน่ (2004,2008), ปิร์โล่ (2004,2008), อันเดรีย บาซายี่ (2008), เดล รอสซี่ (2008), อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ 92008) และ มอร์แกน เด ซานทิส (2008)
ผลงานอุ่นเครื่องก่อนยูโร
01/06/12 แพ้ รัสเซีย 0-3
ผลงานในรอบคัดเลือก
* อิตาลี เก็บไป 26 แต้มจาก 10 เกมในรอบคัดเลือก เป็นสถิติสูงสุดของชาติในระดับรอบคัดเลือกทัวร์นาเมนต์เมเจอร์
* นอกจากนี้ อิตาลี ยังเสียประตูน้อยที่สุดในบรรดาทุกทีมของรอบคัดเลือก (2 ประตู)
* พวกเขาเคยทำสถิติไม่เสียประตูยาวนานถึง 625 นาที นับตั้งแต่เกมชนะเอสโตเนีย 2-1 ก่อนจะมาโดนเซอร์เบีย เจาะตาข่ายในอีก 13 เดือนถัดมา
* คิเอลลินี่ ลงเล่นทุกเกมในรอบคัดเลือก ส่วน คาสซาโน่ เป็นดาวซัลโวในรอบคัดเลือก ด้วยการยิงไป 6 ประตู
สถิติของทั้งสองทีมใน EURO 2012
* เยอรมันยิงประตูได้มากกว่าอิตาลี ถึง 4 ลูก ทั้งที่ "อัซซูรี่" มีโอกาสจบสกอร์ได้ถึง 87 ครั้ง มากกว่า "อินทรีเหล็ก" ถึง 27 ครั้ง
* เยอรมัน ได้รับใบเหลืองน้อยมาก (3ใบ) ขณะที่ อิตาลี โดนไปแล้ว 11 ใบ
* ทั้งสองทีมมีสถิติล้ำหน้าใกล้เคียงกันมาก ฝั่งเยอรมัน 12 ครั้ง ส่วนอิตาลี 11 ครั้ง
เบียร์หนาว!!สถิติมะกะโรนีข่มบาน
ไม่น่าเชื่อว่าตลอด 7 ครั้งซึ่งทั้งคู่ห้ำหั่นกันมาในทัวร์นาเมนต์เวิลด์ คัพ และ ยูโร ทางด้าน เยอรมัน ยังไม่เคยเอาชนะ อิตาลี ได้แม้แต่ครั้งเดียว (เสมอ 4 แพ้ 3)