เจาะลึกคีย์แมนก่อนเกม : เมซุต โอซิล -vs- อันเดรีย ปีร์โล่
คิวดวลเกือกกันระหว่าง เยอรมัน กับ อิตาลี เป็นการรีแมตช์จากศึกฟุตบอลโลกปี 2006 ที่พลพรรค "อัซซูร์รี่" ยัดเยียดความปราชัยให้กับขุนพล "ด๊อยช์ลันด์" ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อคราวที่ "อินทรีย์เหล็ก" เป็นเจ้าภาพ คา ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค รังเหย้าของ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ ทำให้ศึกครั้งนี้ เยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของ โยอาคิม เลิฟ พกความแค้นมาเต็มกระเป๋า และเตรียมสะสางบัญชีแค้นกับ อิตาลี ให้รู้ดำรู้แดงกันใน 90 นาที
อย่างไรก็ตามคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เต็งหนึ่งจาก เยอรมัน จะเขี่ย อิตาลี ที่เป็นเหมือนหนามยอดอกในเวทีระดับชาติ เพราะที่ผ่านมาแข้งแดนรองเท้าบูธ มีสถิติที่เหนือกว่าในการเจอกับ เยอรมัน เจอกันทั้งหมด 30 หน ทัพเลี่ยน เอาชนะไปได้ถึง 14 ครั้ง เสมอ 9 และแพ้ 7 เห็นตัวเลขแบบนี้ แฟนบอล "อินทรีย์เหล็ก" คงมีอันหนาวๆร้อนๆในศึกนี้อยู่เหมือนกัน
เยอรมัน
เมซุต โอซิล
หาก สเปน มี อันเดรส อีเนียสต้า ทาง เยอรมัน ก็มี เมซุต โอซิล เป็นตัวชูโรง แม้ว่ามิดฟิลด์จากสโมสร เรอัล มาดริด จะไม่ได้มีบทบาทของความเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนามเทียบเท่า ฟิลิปป์ ลาห์ม ที่ถูกยกให้เป็นกัปตันที่ดีที่สุดต่อจาก "ไกเซอร์ฟรานซ์" ฟรานซ์ เบ็คเค่นเบาเออร์ บุรุษเพียงคนเดียวที่คว้าแชมป์โลกทั้งฐานะโค้ช และกัปตันทีม
ถึงกระนั้นสำหรับเชิงลูกหนังและผลงานในสนามคงปฎิเสธไม่ได้ว่า โอซิล คือหัวใจหลักอยากแท้จริงให้พลพรรค "อินทรีย์เหล็ก" นับตั้งแต่ปี 2010 ที่เจ้าตัวก้าวขึ้นมาติดทีมชาติ หลังจากฝากผลงานในระดับพรีเมี่ยมไว้กับ แวร์เดอร์ เบรเมน และถือเป็นการตอบแทนความไว้ใจของ โยอาคิม เลิฟ อย่างสาสม ด้วยการระเบิดฟอร์มพา เยอรมัน คว้าอันดับสามฟุตบอลโลกที่ แอฟริกาใต้ ไปครอง
มาทัวร์นาเมนต์นี้ มิดฟิลด์วัย 23 ปี ลูกครึ่ง ด๊อยช์-เติร์ก ยังคงรักษามาตราฐานของตัวเอง จนถูกโหวตให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของ เยอรมัน จากการลงสนามสีนัด จุดที่ แฟนบอลด๊อยช์ ให้น้่ำหนัก โอซิล มากกว่าแข้งรายอื่น เพราะเจ้าตัวสามารถสร้างความแตกต่างให้กับทัพ "อินทรีย์เหล็ก" เป็นทุนเดิมตั้งแต่ฟุตบอลโลก และมารายการนี้ โอซิล ยังพา เยอรมัน ผ่านเข้ารอบมาแบบสะดวกโยธิน ด้วยการเล่นง่ายๆไม่งกบอล แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทำให้บรรดาเกมรุก (โกเมซ, โพดอลสกี้, มุลเลอร์) ไม่ต้องมาช่วยแบกภาระในการลำเลียงบอล จึงทำหน้าที่ของตัวเองในตำแหน่งนั้นๆได้อย่างเต็มศักยภาพ
อิตาลี
อันเดรีย ปีร์โล่
ปีร์โล่ คือหนึ่งในสองผู้เล่นของ อิตาลี ที่ยังหลงเหลือจากชุดคว้าแชมป์โลกปี 2006 แม้ว่าอายุมิดฟิลด์จากสังกัด ยูเวนตุส จะล่วงเลยมาที่เลข 33 ปี แต่คาแรคเตอร์ที่ ปีร์โล่ แสดงให้เห็นตลอดทัวร์นาเมนต์คือความเป็นผู้นำ ที่พร้อมจะช่วยบ้านเกิดในทุกสถานการณ์ ทำให้ที่ผ่านมาแดนกลาง อัซซูร์รี่ ยังไม่เคยตกเป็นเบี้ยล่างคู่แข่งในสี่เกมตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม
อดีตเด็กปั้นจาก เบรสชา อาจจะไม่ได้มีสปีดที่โดดเด่นหรือพลิ้วชนิดหาตัวจับยาก แต่สิ่งที่ดีที่สุดของ ปีร์โล่ คือมันสมอง ที่สามารถอ่านเกมขาดในฐานะคีย์แมนที่กุมชะตา อิตาลี อยู่ในกำมือ การดวลกับ เยอรมัน ครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าทีมแดน มักกะโรนี เป็นรองเกือบทุกวงจร ถ้ามีคำถามว่า อิตาลี จะผ่านด่านหินที่สุดในรายการนี้อย่าง เยอรมัน ได้อย่างไร? การเล่นของ ปีร์โล่ จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประโยคนี้
เมซุต โอซิล -vs- อันเดรีย ปีร์โล่
เกมรอบรองชนะเลิศหนนี้ คงเห็น อันเดรีย ปีร์โล่ อยู่ในคราบของ "มิสเตอร์เอฟวี่ติง" หรือ ที่ต้องทำทุกอย่างให้ทีม เพราะนอกจาก อิตาลี จะโดนตัดกำลังจากการบดกับ อังกฤษ ใน 120 นาที มีเวลาพักฟื้นร่างกายน้อยกว่าเยอรมัน ถึงสองวัน บรรดาลูกหาบที่พอจะแบ่งเบาภาระในการปั้นเกม อย่าง ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ก็ยังอยู่ในสภาพที่ไม่เต็มร้อย หลังจากห้องเครื่องจากกรุงโรมมีปัญหาที่ กล้ามเนื้อ เช่นเดียวกับ ธิอาโก้ ม็อตต้า ตัวตัดเกม ที่พึ่งหายเดี้ยง ทำให้เกมนี้อาจจะต้องเหนื่อยเป็นสองแรง และด้วยวัยที่ใกล้เกษียรอาจจะยืนระยะแบบไร้ข้อผิดหลาดได้ไม่เต็มเวลา
ขณะที่ โอซิล เกมนี้กลายเป็นของง่ายสำหรับการสร้างเกมให้กับ เยอรมัน เพราะนอกจากจะมีองค์ประกอบทีมที่ดีกว่า บวกกับสภาพร่างกายที่ยังสดจากการได้พักมากกว่าสองวัน ทาง โยอาคิม เลิฟ ก็ยังมีเวลานั่งศึกษาเกมได้สดๆแบบไม่ต้องพึ่งกล่องกระจายสัญญาณ (Z) เหมือนบ้านเราอีกด้วย เชื่อเหลือเกินหาก เซซาเร่ ปรันเดลลี่ ไม่ได้เตรียมไม้เด็ดอะไรมารับมือตัวปั้นเกมจาก เรอัล มาดริด ที่มีรายล้อมไปด้วยอาวุธครบมือ ไม่ว่าจะเป็นพวกโป้งปิดบัญชี หรือแม้กระทั้งจอมเทคนิกที่กำลังฟอร์มแรงอย่าง มาร์โก รอยส์ มาเป็นตัวสนับสนุนเกมบุกให้ เยอรมัน ทำเกมได้อย่างไหลลื่น คงต้องยอมความให้กับ อินทรีย์เหล็ก อย่างแน่อน