วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก
เร้ดดิ้ง (-) vs สโต๊ค ซิตี้ (-) ... 21.00
สนาม : มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม
ราคาบอล : เร้ดดิ้ง ต่อ ปปลบห้า
Head To Head
24/09/08 สโต๊ค เสมอ เร้ดิ้ง 2-2
17/04/06 เร้ดดิ้ง ชนะ สโต๊ค 3-1
22/10/05 สโต๊ค แพ้ เร้ดิ้ง 0-1
06/11/04 เร้ดดิ้ง ชนะ สโต๊ค 1-0
16/10/04 สโต๊ค แพ้ เร้ดิ้ง 0-1
13/03/04 เร้ดดิ้ง เสมอ สโต๊ค 0-0
13/12/03 สโต๊ค ชนะ เร้ดิ้ง 3-0
04/05/03 สโต๊ค ชนะ เร้ดิ้ง 1-0
28/09/02 เร้ดดิ้ง เสมอ สโต๊ค 1-1
23/02/02 เร้ดดิ้ง ชนะ สโต๊ค 1-0
ผลงานในช่วงปรีซีซั่น
เร้ดดิ้ง
11/08/12 ชนะ พาเลซ 2-0 เหย้า / ต่อ 0.75 ... บวก
08/08/12 เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 เยือน / เสมอ ... เจ๊า
04/08/12 เสมอ บอร์นมัธ 2-2 เยือน / ต่อ 0.5 ... เสีย
28/07/12 เสมอ โอลฮาเนนเซ่ 1-1 เยือน / ต่อ 0.25 ... เสียครึ่ง
25/07/12 แพ้ เชฟฯ เว้นส์เดย์ 0-2 เหย้า / ต่อ 0.5 ... เสียครึ่ง
สโต๊ค ซิตี้
11/08/12 เสมอ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 1-1 เยือน / เสมอ ... เจ๊า
08/08/12 เสมอ เยโอวิล 1-1 เยือน / ต่อ 0.75 ... เสีย
07/08/12 เสมอ ทอร์คีย์ 1-1 เยือน / ต่อ 0.5 ... เสีย
02/08/12 เสมอ สปอร์ติ้ง แคนซัส 1-1 เยือน / ต่อ 0.5 ... เสีย
29/07/12 ชนะ ออร์ลันโด ซิตี้ 1-0 เยือน / ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
สถิติที่น่าสนใจ
* ทั้งสองทีมไม่เคยเจอกันในพรีเมียร์ลีก หรือดิวิชั่นหนึ่งเดิมมาก่อน
* แต่สถิติโดยรวมที่พบกันในรายการอื่น ใกล้เคียงกันมาก โดยโม่เกือกกันมา 46 นัด เร้ดดิ้ง ชนะ 17 สโต๊ค ชนะ 16
* ครั้งสุดท้ายที่ สโต๊ค บุกมายัดเยียดความปราชัยให้กับ เร้ดดิ้ง ถึงที่นี่ ต้องย้อนไปเมื่อปี 1992 (ชนะ 1-0)
ความพร้อมก่อนเกม
พกดีกรีแชมป์เดอะแชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาลล่าสุด จนเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดในรอบหลายปี ส่วนเกมแรก ไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์ กุนซือหัวโล้นเจอบททดสอบทันทีเพราะคู่ต่อกรคือ สโต็ค ซึ่งใครก็ยากจะรับมือ ขณะที่ความพร้อม เจม กาเรแกน มิดฟิลด์ตัวหลักเจ็บ ต้องเช็กฟิต หากไม่ไหว มิเกเล่ ลีเกอร์วู๊ด จะต้องประสานงานกับ แดนนี่ กูแธร์ ตรงกลางสนาม ส่วนที่จะไม่มีชื่อแน่นอนก็คือ จิมมี่ เคบ และ เจสัน โรเบิร์ตส รายแรกเดี้ยง ส่วนรายหลังเจอโทษแบน ทั้งนี้แข้งใหม่อย่าง พาเวล โพเกรบเนี๊ยค น่าจะได้ลงล่าตาข่ายคู่กับ อดัม เลอ ฟอนเดร ในแนวรุก
เช็กฟิต : กาเรแกน (-)
เจ็บ : เคบ (-)
แบน : โรเบิร์ตส์
ทีมเยือน สโต๊ค แทบไม่มีความเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะ ในช่วงซัมเมอร์ โดยเซ็นแข้งใหม่มาเสริมทัพเพียงรายเดียวนั่นก็คือ ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ย์ ปีกขวาจากวูล์ฟส์ ส่วนอีกรายที่กำลังจะตามมาก็คือ เจฟฟ์ คาเมร่อน ปราการหลังจากเมเจอร์ ลีก ซึ่งเวลานี้เจ้าตัวกำลังรอวีซ่า อยู่ที่สหรัฐฯ นอกนั้น "เดอะ พ็อตเตอร์ส" ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวใดๆ แท็คติกและขุมกำลังแทบจะยกมาจากฤดูกาลก่อน
เช็กฟิต : เจอร์เมน เพนแนนท์ (-), โรเบิร์ต ฮูธ (-)
เจ็บ : -
แบน : -
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
เรดดิ้ง (4-4-2) : อดัม เฟเดริชี่ ; คริส กันเตอร์, อเล็กซ์ เพียร์ช, กัสปาร์ส กอร์ส, เอียน ฮาร์ท ; โจชัว แม็คอนัฟฟ์, แดนนี่ กูแธร์, มิเกเล่ ลีเกอร์วู๊ด, แกเร็ธ แม็คเคลียรี่ ; อดัม เลอ ฟอนเดร, พาเวล โพเกรบเนี๊ยค
สโต๊ค ซิตี้ (4-4-2) : อัสเบียร์ เบโกวิช ; แอนดี้ วิลกิลสัน, ไรอัน ชอว์ครอส, แม็ทธิว อัพสัน, มาร์ค วิลสัน ; ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ย์, เกล็น วีแลน, วิลสัน พาลาซิออส, แม็ทธิว เอเธอริงตัน ; ปีเตอร์ เคราซ์, โจนาธาน วอลเตอร์ส
police วิเคราะห์ / ฟันธง
กระแส เร้ดดิ้ง อาจจะดูดีกว่า เพราะพกดีกรีแชมป์ลีกรองในปีล่าสุด อีกทั้งผลงานในบ้านของ "เดอะ รอยัลล์" ก็ดุดัน แพ้แค่ครั้งเดียวนับตั้งแต่ปีใหม่ แต่ไม่น่าจะวัดอะไรได้มากนัก เพราะมาตรฐานของพรีเมียร์ลีก สูงกว่าเดอะ แชมเปี้ยนชิพเยอะ กอปรกับ สโต๊ค เก๋าเกมและช่ำชองในฟุตบอลระดับนี้มามากกว่า ซึ่งเชื่อว่าเจ้าถิ่นคงไม่ได้กินง่ายๆ ยิ่งถ้ามองในเรื่องชื่อชั้นของนักเตะ ทีมเยือนยังเหนือกว่าชัดเจน เพราะทั้งสิบเอ็ดรายต่างผ่านเวทีพรีเมียร์ลีกมาอย่างโชกโชน ผิดกับบรรดาผู้เล่น "เดอะ รอยัลส์" ซึ่งแทบไม่มีใครรู้จัก และนับคนได้ที่เคยผ่านประสบการณ์ในลีกสูงสุดมา ดังนั้นยังมองว่า ด้วยกึ๋นของ โทนี่ พูลิส และแท็คติกจุกจิกของทีมเยือน จะสร้างปัญหาให้น้องใหม่ที่มีแต่ความสด ท้ายที่สุดยังเชื่อว่า "เดอะ พ็อตเตอร์ส" จะเอาตัวรอดออกมาได้
ผลบอลที่คาด : เจ๊า 1-1 หรือ สโต๊ค บุกซิว 2-1
ความเชื่อมั่น : 7/10