ชาร์ลตัน - แบล็คเบิร์น
หลังจาก เลส รีด คุมชาร์ลตันแทน เอียน ดาววี่ มา 3 นัด ชาร์ลตันเพิ่งได้เพียงแต้มเดียวจาก 3 นัด จากการเสมอในบ้านกับ เอฟเวอร์ตัน
และขณะนี้ชาร์ลตันอยู่ในตำแหน่งท้ายสุดในตารางมีเพียง 9 คะแนน ด้วยสถิติแพ้มากที่สุดในพรีเมียร์ถึง 10 นัด และเสียไป 23 ประตู
แบล็คเบิร์นหลังไม่ชนะใครมา 4 นัด พวกเขาก็เปิด อีวู้ด ปาร์ค ทุบทีมฟอร์มดีอย่างฟูแล่ม 2-0 แต่ก็ยังมีแค่ 16 คะแนน เหนือนิวคาสเซิลที่อยู่ในโซนตกชั้นเพียง 3 คะแนน
นัดนี้ชาร์ลตันจะได้ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบ็งค์ ศูนย์หน้าตัวเก๋า สุไลมาน เดียวาร่า เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ชาวเซเนกัล และมิดฟิลด์ เจอโรม โธมัส กลับมาจากอาการบาดเจ็บทั้งหมด เหลือเพียงเควิน ลิสบี้ เท่านั้นที่ยังเจ็บยาวอยู่เพียงคนเดียว
แต่ดูเหมือน รีด จะยังมั่นใจในผู้เล่นชุดเดิมที่เขาไม่เปลี่ยนเลยตลอด 3 นัดที่ผ่านมา นักเตะทั้ง 3 ที่หายเจ็บกลับมา จึงยังต้องอยู่บนม้านั่งสำรองไปก่อน
ด้านแบล็คเบิร์นจะได้ ตูกาย มิดฟิลด์ตุรกี พ้นโทษแบนกลับมา
สตีเฟ่น ออสโซ่ซ์ มีอาการบาดเจ็บ ต้องเช็คฟิตอีกครั้ง ส่วน ซูรับ คิซานิชวิลลี่,เจสัน โรเบิร์ต,สตีเฟ่น รีด,ปีเตอร์ เอิงเคิลแมน และ ไรอัน นีลเซ่น ยังคงอยู่ในบัญชีนักเตะเจ็บ
เลส รีด คงหวังชัยชนะนัดแรกภายใต้การคุมทีมของเขาโดยเฉพาะนัดนี้เป็นนัดเหย้าด้วย แต่ดูไปแล้ว กองกลางของแบล็คเบิร์นดูจะปึ๊กกว่าชาลตันเยอะ ยิ่งแบล็คเบิร์นได้ ตูกาย กลับมาทำเกมร่วมกับ ร็อบบี้ ซาเลจเสียด้วยอีกทั้งเกมรุกของแบล็คเบิร์น ก็ไม่ด้อยกว่าชาร์ลตันแน่ในชั่วโมงนี้
อย่างที่ผมบอกในเสาร์ที่ผ่านมาว่าแบล็คเบิร์นเล่นได้ดีแต่อับโชคไปหลายครั้ง นัดที่แล้วพวกเขาได้ชัยชนะสอยงามมาในบ้าน และนัดนี้ความมั่นใจของพวกเขาจะยิ่งมากขึ้น โอกาสเสมอมีมากที่สุด แต่แบล็คเบิร์นโอกาสจะแพ้น้อยกว่ามาก
รองแบล็คเบิร์น ที่ +94