อัมสเตอร์ดัม อารีน่า สังเวียนแข้งสุดทันสมัยที่จะใช้เป็นสมรภูมิดวลระหว่าง อาแจ็กซ์กับ แมนฯซิตี้ ที่แพ้ไม่ได้แล้ว
จากผลลัพธ์เชิงลบของสองเกมแรก ทำให้ทั้ง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมและ แมนฯซิตี้ ต่างรู้ดีว่าแทบไม่มีสิทธิ์พลาดอีกในคิวเตะที่เหลือหากหวังจะตามทีมนำ เรอัล มาดริดหรือ ดอร์ทมุนด์ ให้ทัน เพราะเวลานี้ยอดทีมปั้นเด็กจากแดนกังหันลมยังไม่มีติดกระเป๋าสักแต้ม ส่วน "เรือใบสีฟ้า" มีคะแนนเดียวจากผลเจ๊าในถิ่นตัวเอง
Match background
- อาแจ็กซ์ไม่เคยชนะสโมสรอังกฤษในรังเหย้าตัวเองนับตั้งแต่ปี 1980 โดยหนสุดท้ายที่แข้งดัตช์ประสบความสำเร็จเหนือทีมผู้ดีต้องย้อนไปเมื่อครั้งเปิด อัมสเตอร์ดัม โค่น น๊อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ในฟุตบอลยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยน คลับส์ คัพ ฤดูกาล 1979/80
- ถัดจากนั้นมาอีก 4 หนที่ดวลกับทีมสัญชาติอังกฤษในรัง ปรากฏว่า อาแจ็กซ์ ยันเสมอผู้มาเยือนได้หนเดียวและแพ้ไปถึง 3 ครั้ง
- ขณะที่ แมนฯซิตี้ ซึ่งตีตั๋วเข้ามาโชว์ฝีเกือกในรายการนี้เป็นปีที่ 2 แพ้นอกบ้าน 3 จาก 4 ครั้งที่ผ่านมา โดยหนล่าสุดเพิ่งเกิดมาไม่นานตอนทัวร์แดนกระทิงและแพ้ เรอัล มาดริด ไป 2-3
- ส่วนประวัติบุกแดนกังหันลมของ ซิตี้ หนสุดท้ายต้องย้อนไปฤดูกาล 1978/79 นู่นเลย โดยครั้งนั้น "เรือใบสีฟ้า" ได้โควต้าผ่านเข้ามาบู๊ศึก ยูฟ่า คัพและจับติ้วชนกับ เอฟซี ทเวนเต้ ในรอบแรก ซึ่ง แมนฯซิตี้ บุกเสมอที่ ฮอลแลนด์ 1-1 ก่อนกลับไปเปิดบ้านทุบ 3-2
- ครั้งล่าสุดทั้งสองทีมโคจรมารีแมตช์กันในรอบแบ่งกลุ่มของรายการเดียวกันในซีซั่น 2008/09 ซึ่งทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ก็ย้ำแค้น ทเวนเต้ ไปด้วยสกอร์เดียวกันและบุคลากรจากชุดดังกล่าวที่หลงเหลือมาจนถึงตอนนี้ก็มี โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส์และ ปาโบล ซาบาเลต้า
สถิติน่าสนใจ
- คริสเตียน เอริคเซ่น ทำระยะวิ่งรวมทุกนัดที่ลงสนาม 26.075 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นนักเตะที่ขยันที่สุดในบรรดาทีมที่ผ่านมาเข้ามาบู๊รอบแบ่งกลุ่ม
- นิคลาส มอยซานเดอร์ กองหลังเลือดฟินน์ของ อาแจ็กซ์ ผ่านบอลเข้าเป้า 88 จาก 101 ครั้งในเกมปะทะ ดอร์ทมุนด์ โดยสถิตินี้เป็นรอง ชาบี เอร์นันเดซ ของ บาร์เซโลน่า (เข้าเป้า 120 จาก 140 ครั้ง) รายเดียว
- เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีนักเตะอาแจ็กซ์ 6 รายต้องเดินทางไปหวดเกมทีมชาติ ประกอบด้วย ริคาร์โด้ ฟาน ไรจ์น, เคนเนธ เวอร์เมียร์ (ฮอลแลนด์), โทบี้ อัลแดร์ไวเรลด์ (เบลเยียม), เอริคเซ่น (เดนมาร์ก), มอยซานเดอร์ (ฟินแลนด์) และ โทเบียส ซานา (สวีเดน)
- ฤดูกาลที่แล้ว ซิตี้ ค่อนข้างโชคร้าย เพราะตกรอบแบ่งกลุ่มทั้ง ๆ ที่เก็บได้ถึง 10 แต้ม ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียง เบรเมน (2006/07), โอลิมเปียกอส, ดินาโม เคียฟ (2004/05) และพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (2003/04) ที่ตกรอบด้วยกรณีเดียวกัน
- แมนฯซิตี้ มีผู้เล่นที่เพิ่งผ่านเกมคัดบอลโลกรวมถึง 15 ราย ซึ่งมากกว่าเจ้าบ้านเกือบสามเท่า โดย โจ ฮาร์ท, โจเลออน เลสค็อตต์, เจมส์ มิลเนอร์ (อังกฤษ), อเล็คซานเดอร์ โคลารอฟ, มาติย่า นาสตาซิช (เซอร์เบีย), เซร์กิโอ อเกวโร่, ปาโบล ซาบาเลต้า (อาร์เจนตินา), ยาย่า ตูเร่, โคโล่ ตูเร่ (ไอวอรี่โคสต์), มาริโอ บาโลเตลลี่ (อิตาลี), ดาบิด ซิลบา (สเปน), กาแอล กลิชี่ (ฝรั่งเศส), เอดิน เซโก้ (บอสเนีย), คอสเตล พานติลิมอน (โรมาเนีย) และ แวงซองต์ ก็องปานี (เบลเยียม)
จากผลลัพธ์เชิงลบของสองเกมแรก ทำให้ทั้ง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมและ แมนฯซิตี้ ต่างรู้ดีว่าแทบไม่มีสิทธิ์พลาดอีกในคิวเตะที่เหลือหากหวังจะตามทีมนำ เรอัล มาดริดหรือ ดอร์ทมุนด์ ให้ทัน เพราะเวลานี้ยอดทีมปั้นเด็กจากแดนกังหันลมยังไม่มีติดกระเป๋าสักแต้ม ส่วน "เรือใบสีฟ้า" มีคะแนนเดียวจากผลเจ๊าในถิ่นตัวเอง
