พ.ศ.นี้ศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ไม่ใช่เกมที่ "เรือใบสีฟ้า" ต้องตามกินน้ำใต้ศอกของฝั่ง "เร้ด เดวิลส์" เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปและจากเดิมที่ความสำคัญของคิวเตะนี้มีแค่ศักดิ์ศรีระหว่างอริลูกหนังร่วมเมืองที่มีมาอย่างช้านาน ทว่าปัจจุบันดาร์บี้แห่งแมนเชสเตอร์ยกระดับตัวเองขึ้นมาเหนือการห้ำหั่นของทีมบ้านใกล้เรือนเคียงทุกสถาบัน เพราะความเข้มข้นมันกลบดาร์บี้อื่น ๆ ไปหมด
ซึ่งอาจน่าติดตามกว่าศึกแดงเดือดด้วยซ้ำแล้วก็ลากต่อเรื่องการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของซีซั่นคือช่วงปีใหม่และมาเจาะว่าคิวเตะไหนที่พอจะช่วยตัดกำลัง แมนฯยู พาให้แมนฯซิตี้ลดช่องว่างระหว่างคะแนนที่ห่างอยู่ จนกลับมามีโอกาสป้องกันแชมป์ได้
รู้กันอยู่ว่าช่วงเวลาที่จะถึง หรือบ็อกซิ่ง เดย์ เป็นโปรแกรมโปรดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งในทุกๆปีเด็กผีมักจะโกยแต้มในช่วงเวลาดังกล่าวเข้ากระเป๋าเป็นว่าเล่น ส่งผลให้อริร่มเมือง ต้องเกาะกลุ่ม เพื่อรักษาระยะห่างไม่ให้ "ปิศาจแดง" ขยับหนีไปไกล นั่นคือสิ่งที่ ซิตี้ ทำได้ดีที่สุด เพราะถ้าหวังจะไล่กวดให้ทันช่วงเวลาคริสมาสต์นั้น แทบเป็นไปไม่ได้เลย หากเหลือบไปมองโปรแกรมที่ง่ายดายของ"เร้ด เดวิลส์"
"เฟอร์กี้"ลูบปากกับโปรแกรมเบาหวิวในช่วงบ็อกซิงเดย์ และน่าจะนำคู่แข่งอย่างขาดลอยหลังโปรแกรมโหด
อย่างเกมบุกเยือน สวอนซี ในเกมถัดไป น่าจะเป็นแมตช์ยากสุดในช่วงโปรแกรมโหดของ ยูไนเต็ด แล้ว เพราะหลังจากนั้น "เฟอร์กี้" จะพาลูกทีมเปิดบ้านเจอกับลูกไล่ แถมฟอร์มตกอย่าง นิวคาสเซิ่ล และเวสต์บรอมวิช ตามด้วยยกพลบุกดีดับเบิ้ล ยู ของ วีแกน ซึ่งผลงานอยู่ในช่วงดำดิ่งเช่นกัน หากไม่มีอะไรผิดพลาด 3 เกมดังกล่าว น่าจะเปลี่ยนเป็น 9 แต้มสำหรับเด็กผี
เพราะฉะนั้น "มันโช่" ต้องลุ้นให้ "หงส์ขาว" เข้าฟอร์มเพื่อตัดแต้ม ยูไนเต็ด ตั้งแต่เกมเปิดหัวบ็อกซิ่ง เดย์ เลยทีเดียว แต่ถ้าแมตช์ที่ลิเบอร์ตี้ "ปิศาจแดง" กลับออกมาด้วยชัยชนะ เชื่อว่ากองทัพ "เรือใบ" ก็แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเลยในช่วงคริสมาสต์อีฟ
แมนฯ ซิตี้ ไม่มีทางเลือกอื่นแน่นอน นอกจากต้องฟาดชัยในช่วงปลายปีนี้ให้เรียบ ซึ่งดูจากโปรแกรมผิวเผินแล้วอาจจะไม่หนัก เพราะชื่อชั้น "เรือใบ" เหนือกว่าหมด ไม่ว่าจะเป็น เร้ดดิ้ง, ซันเดอร์แลนด์, นอริช และ สโต๊ค แต่หากเจาะลึกลงไปก็น่าหวั่นใจแทนสาวก ชีค มานซูร์
"มันโช่"ทำใจล่วงหน้าว่าลูกทีมคงไล่กวดอริร่วมเมืองในช่วงคริสมาสต์นี้ไม่ทันแน่นอน
เกมแรก อาจจะไม่ใช่ปัญหา ซิตี้ เก็บ 3 คะแนนเหนือ "เดอะ รอยัลส์" ได้อย่างแน่นอน แต่อีกสองนัดถัดมาที่จะบุกเยือน ซันเดอร์แลนด์ กับ นอริช อาจมีสักเกมที่แชมป์เก่าทำคะแนนหลุดมือ เพราะรู้กันอยู่ว่า "แมวดำ" เริ่มทำผลงานได้ดีในบ้านตัวเอง อีกทั้งระยะหลัง แมนฯ ซิตี้ เจอปัญหาทุกครั้งที่ยกพลมาเยือนสนามแห่งนี้ โดย 3 ปีหลัง มหาเศรษฐีจากแมนเชสเตอร์ หยิบสามแต้มออกจากที่นี่ไม่ได้เลย ซ้ำร้ายยังพ่ายกลับออกมาถึง 2 จาก 3 ฤดูกาลหลังสุด
ถัดมาก็ต้องบุกเยือน นอริช ที่ผลงานในแคร์โรว์ โร้ดกำลังเอกอุ ด้วยการซิวชัยในลีกมา 5 เกมติด อีกทั้งยังปราบอาร์เซน่อล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้วด้วย ส่วนเกมสุดท้าย จะเปิดบ้านต้อนรับ สโต๊ค คู่แข่งซึ่งเหนียวแน่นแพ้ยาก สถิติไร้พ่ายมา 7 นัดติดต่อกัน ยืนยันได้ดี ดังนั้นช่วงโปรแกรมหินของฝั่ง ซิตี้ ดูจะสาหัสกว่าพอสมควร แถมคะแนนยังตามหลังอยู่ถึง 6 แต้ม
มันชินี่ คงต้องเบิกกงสีของท่าน ชีค มานซูร์ ในช่วงมกราคมนี้เท่านั้น หากยังหวังจะลุ้นแชมป์ลีก
จึงฟันธงว่า หลังจากบ็อกซิ่ง เดย์ จะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ยังคงนำหน้าอริร่วมเมืองด้วยความห่าง 6 คะแนนเท่าเดิมหรืออาจจะมากกว่า และทำให้โมเมนตั้มเอนมาทางอสูรแดงในช่วง เมอร์รี่ย์ คริสมาสต์ นี้ ส่วนแชมป์เก่า คงต้องไปลุ้นเอาช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง และทำในสิ่งที่พวกเขาถนัด คือการใช้เงิน แต่ผลจะออมาเป็นใจให้ฝั่งสีฟ้ามากแค่ไหน เรามาวิเคราะห์กันต่อวันถัดไป