ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด (1) -vs- ลิเวอร์พูล (8) ... (20.30 น.)
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ราคาบอล : แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อ ครึ่งลูก
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
23/09/12 ลิเวอร์พูล แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2
11/02/12 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
28/01/12 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1
15/10/11 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1
06/03/11 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1
09/01/11 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
19/09/10 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2
21/03/10 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
25/10/09 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0
14/03/09 แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
แมนฯ ยูไนเต็ด
06/01/13 เสมอ เวสต์แฮม 2-2 เยือน เอฟเอ คัพ / ต่อ 0.75 ... เสีย
01/01/13 ชนะ วีแกน 4-0 เยือน / ต่อ 1.0 ... บวก
26/12/12 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-3 เหย้า / ต่อ 1.75 ... เสีย
23/12/12 เสมอ สวอนซี 1-1 เยือน / ต่อ 0.75 ... เสีย
15/12/12 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-1 เหย้า / ต่อ 2.0 ... เจ๊า
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 10 ชนะ 9 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 28 เสีย 13 มี 27 แต้ม
ลิเวอร์พูล
06/01/13 ชนะ แมนส์ฟิลด์ 2-1 เยือน เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.75 ... เสีย
03/01/13 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 เหย้า / ต่อ 1.5 ... บวก
30/12/12 ชนะ คิวพีอาร์ 3-0 เยือน / ต่อ 0.5 ... บวก
27/12/12 แพ้ สโต๊ค 1-3 เยือน / ต่อ 0.5 ... เสีย
23/12/12 ชนะ ฟูแล่ม 4-0 เหย้า / ต่อ 1.25 ... บวก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 10 ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 3 ได้ 17 เสีย 16 มี 13 แต้ม
ฟอร์ม 6 นัดล่าสุดในลีก
แมนฯ ยูไนเต็ด
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 9 เสีย 4 มี 9 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 8 เสีย 3 มี 7 แต้ม
ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 8 เสีย 3 มี 6 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 1 ได้ 7 เสีย 5 มี 6 แต้ม
สถิติที่น่าสนใจ
* แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเปิดรังชนะลิเวอร์พูล ได้ถึง 7 จาก 8 เกมลีกหลังสุดที่พบกัน โดยปี 2009 คือครั้งสุดท้ายที่ "หงส์แดง" บุกมาชนะด้วยสกอร์ 4-1
* นอกจากนี้ไม่บ่อยครั้งนักที่ทั้งสองทีมจบลงด้วยผลเสมอ สถิติเจ๊าแค่ 2 ตลอด 24 เกมหลัง ยืนยันได้ดี โดยผลเสมอในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีก่อน (ปี2000)
* "ปิศาจแดง" กำลังร้อนแรงสุดๆ หลังจากเข้าวินถึง 8 จาก 9 เกมหลังสุดในลัก (ชนะ 8 เสมอ 1)
* ยูไนเต็ด เสียไปแล้วถึง 28 ประตูในลีก แต่สองเกมหลังพวกเขาสามารถรักษาคลีนชีตไว้ได้ และนับเป็นการไม่เสียประตูสองเกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้
* "หงส์แดง" ก็ช่วงในช่วงขาขึ้น ภายหลังที่ชนะไป 5 จาก 7 เกมที่ผ่านมา (ชนะ 5 เสมอ 2)
* นับตั้งแต่เดือนธันวาคม เด็กหงส์เป็นทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับสามในลีก รองจาก แมนฯ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส เท่านั้น
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ปีศาจแดง" มีทั้งข่าวดีและร้าย โดยในด้านบวก เทรนเนอร์ "ไดร์เป่าผม" จะได้ทางเลือกในเกมแดนกลางมากขึ้น หลังจากสองดาวเตะจอมเทคนิคอย่าง อันแดร์สัน และนานี่ กอดคอกันหายเจ็บพร้อมลงสนาม แต่ว่า "เฟอร์กี้" จะต้องเสียออพชั่นในแนวรุกไป เนื่องจาก เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงขวัญใจวัยรุ่น เข่าเดี้ยง จึงเป็นได้แค่ผู้ชมอยู่บนอัฒจรรย์
ส่งผลให้ แดเนี่ยล เวลเบ็ค หรือ อาเบียร์ เอร์นานเดซ คนใดคนหนึ่งจะลงไปจับคู่กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกดัตช์แมน ส่วนการจัดทัพ เฟอร์กูสัน อาจปรับหมากมาเล่นในระบบ มิดฟิลด์ไดม่อนอีกครั้ง เพราะแผนดังกล่าวช่วยให้ ชินจิ คางาวะ จอมทัพแดนปลาดิบเค้นศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบรมกุนซือจะวางดาวเตะซามูไรอยู่หลังคู่หัวหอก และมีสามมิดฟิลด์คอยประคองอยุ่หลังเจ้าตัวอีกที ในระบบ 4-3-1-2
เช็กฟิต : -
ตัวเจ็บ
กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์ (14 นัด 7 ประตู)
ตัวแบน : -
นับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นตั้นมา ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล เล่นบอลได้เร้าใจผู้ชม เพราะตลอดการลงสนาม 8 เกมไม่ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากับคู่แข่งรายใดก็จะมีประตูเข้ามาเกี่ยวข้องกับการแข่งขัน ด้วยการกดไปทั้งสิ้น 18 ตุง ส่วนทางด้านความพร้อม มีเกณฑ์ว่าเบรนแดน ร็อดเจอร์ กุนซือนิสัยดี อาจส่งทั้ง แดเนี่ยล สตเอร์ริดจ์ ดาวยิงป้ายแดง และหัวหอกฟันเหยิน หลุยส์ ซัวเรซ ลงล่าตาข่ายพร้อมกัน
นอกจากนี้เฮดโค้ชสัญชาติไอร์แลนด์เหนือ จะกลับมาใช้บริการแข้งหลักที่ได้พักในเกมเอฟเอ คัพ ควงแขนออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริง ไม่ว่าจะเป็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โฆเซ่ เรน่า และ เกล็น จอห์นสัน อีกทั้งยังมีข่าวดีเพิ่มเติมเข้ามาในแคมป์ "หงส์แดง" หลังจาก ฟาบิโอ บอรินี่ ดาวยิงอิตาเลี่ยนหายเจ็บจากกระดูกเท้าแตกกลับมาเริ่มซ้อมได้แล้ว
เช็กฟิต : -
ตัวเจ็บ :
กองหลัง - โฆเซ่ เอ็นริเก้ (14 นัด/1 ประตู), มาร์ติน เคลลี่ (4 นัด)
กองหน้า - ฟาบิโอ บอรินี่ (5 นัด)
ตัวแบน : -
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-4-2) : ดาบิด เด เคอา ; ราฟาเอล, เนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริช เอฟร่า ; อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ; ชินจิ คางาวะ ; ฮาเบียร์ เอร์นานเดซ, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : โฆเซ่ เรน่า ; อังเดร วิสดอม, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, เกล็น จอห์นสัน ; ลูคัส, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, สจวร์ต ดาวนิ่ง ; ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
police วิเคราะห์ / ฟันธง
การขาด เวย์น รูนี่ อาจดูเป็นเรื่องใหญ่ เพราะชื่อชั้นของดาวยิงทีมชาติอังกฤษขายได้เสมอ แต่หากมองในแง่ผลกระทบ คาดว่าการหายไปหัวหอกร่างตันรายนี้ จะไม่เป็นอุปสรรคต่อเกมแดงดือดมากเท่าไรนัก เพราะบ่อยครั้งที รูนี่ย์ ไม่อาจเค้นฟอร์มเก่งออกมายามเจอกับอริตลอดกาล สถิติกดไปแค่ 2 จาก 7 เกมหลังสุดที่พบกัน ยืนยันได้ดี ยิ่งมองในสถานการณ์ด้านอื่นๆ จะเห็นว่าเด็กผีขี่เด็กหงส์แทบจะทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นทางบอล ซึ่งทุกๆปี ลิเวอร์พูล แทบจะเอาชื่อมาทิ้งไว้ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด บวกกับมาตรฐานของทีมเยือนที่ถอยหลังลงคลอง
ลิเวอร์พูล อาจจะร้อนแรงขึ้นมาในระยะหลัง แต่หากเหลือบไปมองคู่ต่อสู้ที่ทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์เผชิญมาก็ไม่น่าแปลกใจกับผลงานที่ดีวันดีคืนอยู่ทุกวันนี้ ผิดกับเจ้าถิ่นซึ่งโกยสามแต้มเข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำยามลงเล่นต่อหน้าแฟนบอล ดังนั้น "หงส์แดง" สามารถหลุดแพ้ได้ทุกเมื่อ เมื่อหักลบดูแล้ว เรท "ครึ่งลูก" แบบยิงตูมเดียวเห็นผล ยังน่าวัดเด็กผีที่คงเส้นคงวากว่า
ผลบอลที่คาด : แมนฯ ยูไนเต็ด สอย 2-1
ระดับความมั่นใจ : 8/10