วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล (7) -vs- เชลซี (3) ... (22.00 น.)
สนาม : แอนฟิลด์
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ ปป
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
11/11/12 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
09/05/12 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 4-1
05/05/12 ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 1-2
30/11/11 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
20/11/11 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
06/02/11 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
07/11/10 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 2-0
02/05/10 ลิเวอร์พูล แพ้ เชลซี 0-2
04/10/09 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0
15/04/09 เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 4-4
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
ลิเวอร์พูล
13/04/13 เสมอ เร้ดดิ้ง 0-0 เยือน / ต่อ 1.25 ... เสีย
07/04/13 เสมอ เวสต์แฮม 0-0 เหย้า / ต่อ 1.5 ... เสีย
31/03/13 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 เยือน / ต่อ 0.75 ... บวกครึ่ง
16/03/13 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 1-3 เยือน / ต่อ 0.5 ... เสีย
10/03/13 ชนะ สเปอร์ส 3-2 เหย้า / ต่อ 0.5 ... บวก
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 16 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 4 ได้ 29 เสีย 13 มี 28 แต้ม
เชลซี
18/04/13 ชนะ ฟูแล่ม 3-0 เยือน / ต่อ 0.75 ... บวก
14/04/13 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2 เหย้า เอฟเอ คัพ / รอง 0.25 ... เสีย
11/04/13 แพ้ รูบิ้น คาซาน 2-3 เยือน ยูโรป้า ลีก / เสมอ ... เสีย
07/04/13 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 เหย้า / ต่อ 1.5 ... เสีย
05/04/13 ชนะ รูบิ้น คาซาน 3-1 เหย้า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 1.0 ... บวก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 16 ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 5 ได้ 29 เสีย 20 มี 27 แต้ม
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
ลิเวอร์พูล
เหย้า แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 8 เสีย 2 มี 7 แต้ม
เยือน แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 3 เสีย 4 มี 4 แต้ม
เชลซี
เหย้า แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 5 เสีย 1 มี 9 แต้ม
เยือน แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 4 เสีย 4 มี 3 แต้ม
สถิติที่น่าสนใจ
* ลิเวอร์พูล เสียท่าให้กับเชลซี เพียง 2 ครั้งเท่านั้นในรอบ 12 เกมหลังที่พบกันในลีก นอกจากนี้ "หงส์แดง" ยังไม่แพ้ให้กับ "สิงห์บลูส์" มา 5 นัดติดแล้ว (ชนะ 4 เสมอ 1)
* อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล เจอโรคฝืดถามหา เพราะสองเกมหลังเจาะประตูคู่แข่งไม่ได้เลย แถมยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 ที่ "หงส์แดง" ยิงใครไม่ได้สองนัดติดต่อกัน
* "หงส์แดง" เก็บไป 14 แต้ม จาก 21 คะแนนหลังสุด (ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 1)
* หากเทียบกับฤดูกาลก่อนปรากฏว่า เชลซี เก็บคะแนนได้มากกว่า 5 แต้ม หากนับถึงแมตช์นี้ อย่างไรก็ดี เชลซี ปลดล็อกเก็บชัยนัดเยือนได้สำเร็จในเกมล่าสุดที่บุกตบ ฟูแล่ม 3-0 โดยก่อนหน้าพวกเขาพ่ายในฐานะทีมเยือนมา 3 เกมรวด
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
"หงส์แดง" ไม่มีเกมกลางสัปดาห์มาเป็นตัวบั่นทอนสภาพร่างกาย ทำให้เด็กๆของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะลงสนามด้วยความสดชื่น หลังจากได้พักมาร่วม 7 วัน อย่างไรก็ตาม ตัวหลักๆที่เจ็บอยู่ก่อนหน้า ก็ยังคงกลับมาช่วยทีมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง, โจ อัลเลน, ฟาบิโอ บอรินี่ และ มาร์ติน เคลลี่ ขณะที่การจัดทัพ กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ คงไม่มีการปรับเปลี่ยนทีมจากเกมเสมอเร้ดดิ้ง 0-0 ซึ่งเจ้าตัวยังคงยึดในระบบเดิม 4-3-3 วาง ลูคัส เป็นตัวคุมจังหวะเกมอยู่หน้าแผงหลัง ปล่อยให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มีอิสระในการขึ้นเกมรุก พร้อมกับวาง หลุยส์ ซัวเรซ เป็นหน้าเป้า ขนาบข้างด้วยสองดาวเตะมากเทคนิคอย่าง คูตินโญ่ และแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
เช็กฟิต : -
ตัวเจ็บ :
กองหลัง - มาร์ติน เคลลี่ (4 นัด)
กองกลาง - ฟาบิโอ บอรินี่ (9 นัด), โจ อัลเลน (26 นัด)
กองหน้า - ราฮีม สเตอร์ลิง (24 นัด 2 ประตู)
ตัวแบน : -
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ เชลซี จะกลับมาเยือนแอนฟิลด์ถิ่นเก่าอีกครั้ง ในรอบกว่า 3 ปี แต่หนนี้จะบุกมาในฐานะคู่แข่ง แต่เชื่อว่า "เอล บอส" จะได้เสียงปรบมือต้อนรับจาก "เดอะ ค็อป" อย่างแน่นอน ส่วนสถานการณ์ของทีมเริ่มเข้ารูปเข้ารอย ล่าสุด "สิงห์บลูส์" ทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 3 มีลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างเต็มตัว
ขณะที่บรรดาแข้งหลักต่างทยอยหายเจ็บคืนทีมกันเกือบครบ โดยเฉพาะแนวรับอย่าง แกรี่ เคฮิลล์ และแอชลี่ย์ โคล กอดคอกลับมาซ้อมได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับมีลุ้นลงสนามด้วย อีกจุดที่น่าสนใจก็คือ กองหลังในตำนาน จอห์น เทอร์รี่ จะได้ลงปักหลักคุมหลังบ้านต่อเนื่องหรือไม่ ภายหลังที่แนวรับวัย 33 โชว์ฟอร์มเยี่ยมด้วยการกดคนเดียวสองตุงในแมตช์บุกทุบฟูแล่ม 3-0 เช่นเดียวกับแนวรุก เฟร์นานโด ตอร์เรส ก็อาจถูกส่งลงล่าตาข่ายทีมเก่าตั้งแต่นาทีแรก แต่ยังเชื่อว่า เดมบา บา หอกฟอร์มร้อน น่าจะได้รับโอกาสก่อน
เช็กฟิต :
กองหลัง - แกรี่ เคฮิลล์ (22 นัด 2 ประตู), แอชลี่ย์ โคล (26 นัด 1 ประตู)
กองกลาง - มาร์โก มาริน (6 นัด 1 ประตู)
ตัวเจ็บ :
กองกลาง - ออริโอล โรเมอู (6 นัด)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : เปเป้ เรน่า ; เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ ; ลูคัส เลวา, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ; หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, คูตินโญ่
เชลซี (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก ; เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ ; จอห์น โอบิ มิเกล, รามิเรส ; ออสการ์, ฆวน มาตา, เอเด้น อาซาร์ ; เดมบา บา
police ติดโต๊ะ
ความมุ่งมั่นของ "หงส์แดง" แทบจะหมดไปแล้ว เพราะตั๋วไปลุยยุโรปอยู่ไกลเกินเอื้อม หากเหลือบไปมองสถานะในตารางซึ่งตามอันดับ 5 อย่างสเปอร์ส อยู่ถึง 8 แต้ม แถมแข่งมากกว่า "ไก่เดือยทอง" อยู่หนึ่งนัดอีกต่างหาก ซ้ำร้ายเจ้าบ้านยังสวมวิญาณสิงห์ปืนฝืด เมื่อเจาะตาข่ายคู่แข่งไม่เป็นในช่วง 2 เกมหลัง ทั้งที่รับมือกับทีมระดับท้ายตารางอย่างเร้ดดิ้ง และเวสต์แฮม
ผิดกับฝั่งเชลซี ที่ยกพลมาด้วยความมั่นใจ ทั้งฟอร์มล่าสุดที่กลับมาดุดันอีกครั้ง ประกอบกับแรงขับเคลื่อนอันสูงลิบ เนื่องจากมีพื้นที่ยูซีแอลเป็นเดิมพัน แถม เบนิเตซ เป็นอดีตนายใหญ่ลิเวอร์พูล มากว่า 6 ปี จึงเชื่อว่า "เอล บอส" น่าจะรู้เคล็ดลับในการพาลูกทีมเอาตัวรอดออกจากถิ่นแอนฟิลด์ไม่มากก็น้อย ยิ่งสถานการณ์ชั่วโมงนี้เป็นใจให้ฝั่ง "สิงห์บลูส์" มากกว่า ทั้งในแง่ฟอร์มการเล่น และสภาพจิตใจ ดังนั้นทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ตอนนี้ไม่มีจุดขาย สู้วางรอง "ปป" กับเชลซี ซึ่งกระหายในชัยชนะมากกว่าไปเถอะ
ผลบอลที่คาด : เจ๊า 1-1 หรือ เชลซี ชนะ 2-1
ระดับความมั่นใจ : 8/10