วิเคราะห์บอล แชมเปี้ยนส์ ลีก : ดอร์ทมุนด์ -vs- เรอัล มาดริด

วิเคราะห์บอล แชมเปี้ยนส์ ลีก : ดอร์ทมุนด์ -vs- เรอัล มาดริด

ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน, 2) -vs- เรอัล มาดริด (สเปน, 2) ... (01.45 น.)

สนาม : ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค

ราคาบอล : ใครต่อรอง

การพบกันล่าสุด

07/11/12 เรอัล มาดริด เสมอ ดอร์ทมุนด์ 2-2 แชมเปี้ยนส์ ลีก
25/10/12 ดอร์ทมุนด์ ชนะ เรอัล มาดริด 2-1 แชมเปี้ยนส์ ลีก
20/08/09 ดอร์ทมุนด์ แพ้ เรอัล มาดริด 0-5 อุ่นเครื่อง
25/02/03 ดอร์ทมุนด์ เสมอ เรอัล มาดริด 1-1 แชมเปี้ยนส์ ลีก
19/02/03 เรอัล มาดริด ชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-1 แชมเปี้ยนส์ ลีก

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้

ดอร์ทมุนด์
10/04/13 ชนะ มาลาก้า 3-2 (เหย้า)
04/04/13 เสมอ มาลาก้า 0-0 (เยือน)
06/03/13 ชนะ ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค 3-0 (เหย้า)
14/02/13 เสมอ ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค 2-2 (เยือน)
05/12/12 ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 (เหย้า)

เรอัล มาดริด
10/04/13 แพ้ กาลาตาซาราย 2-3 (เยือน)
04/04/13 ชนะ กาลาตาซาราย 3-0 (เหย้า)
06/03/13 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 (เยือน)
14/02/13 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า)
05/12/12 ชนะ อาแจ็กซ์ 4-1 (เหย้า)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
 
ดอร์ทมุนด์
20/04/13 ชนะ ไมนซ์ 2-0 (เหย้า) ต่อ 1 ... บวก
13/04/13 ชนะ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 6-1 (เยือน) ต่อ 1.25 ... บวก
10/04/13 ชนะ มาลาก้า 3-2 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 1.5 ... เสีย
04/04/13 เสมอ มาลาก้า 0-0 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ ปป ... เสียครึ่ง
30/03/13 ชนะ สตุ๊ตการ์ต 2-1 (เยือน) ต่อ 0.5 ... บวก
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 15 ชนะ 10 เสมอ 2 แพ้ 3 ได้ 38 เสีย 16 ประตู

เรอัล มาดริด
20/04/13 ชนะ เรอัล เบติส 3-1 (เหย้า) ต่อ 1.75 ... บวกครึ่ง
15/04/13 ชนะ แอธ.บิลเบา 3-0 (เยือน) ต่อ 1 ... บวก
10/04/13 แพ้ กาลาตาซาราย 2-3 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 0.75 ... เสีย
06/04/13 ชนะ เลบานเต้ 5-1 (เหย้า) ต่อ 2 ... บวก
04/04/13 ชนะ กาลาตาซาราย 3-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 2.25 ... บวก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 16 ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 5 ได้ 30 เสีย 16 ประตู

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
         
          เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ ดอร์ทมุนด์ ให้สัมภาษณ์ก่อนแข่งด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายพร้อมเปิดอกกับผู้สื่อข่าวในกรณีการย้ายทีมของ มาริโอ เกิทเซ่ เพลย์เมคเกอร์ดาวรุ่ง ที่ตกลงปลงใจย้ายสํามะโนครัวไปเข้าก๊วน "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค อริร่วมลีกในซัมเมอร์นี้ จะไม่มีผลกระทบต่อทีมสปิริตของบทีมแต่อย่างใด เพราะนักเตะในทีมล้วนพุ่งสมาธิอยู่ในศึกชิงดำกับ เรอัล มาดริด คู่ปรับที่เคยชิมลางกันในรอบแบ่งกลุ่มมาแล้วสองนัด

          ด้านความพร้อมทัพ "เสือเหลือง" เตรียมเปลี่ยนทีมจากแมตช์ถล่ม ไมนซ์ ในเกมลีก 2-0 ราวสองตำแหน่ง ถอด มาร์โก รอยส์ และ นูรี่ ซาฮิน สองมิดฟิลด์ไปเป็นสำรอง และให้ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ กับ สเวน เบนเดอร์ ลงมาปั้นเกมแทน ส่งผลให้ 11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามเกมนี้จะมีนักเตะที่อยู่ในเซตชนะ เรอัล มาดริด 2-1 รอบแบ่งกลุ่ม 9 จาก 11 ราย ขณะที่ เซบาสเตียน เคห์ล (19 นัด) มิดฟิลด์ ต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเริ่มเกมหลังจากฟื้นไข้เดี้ยงได้ไม่นาน

ตัวเจ็บ
กองหลัง - แพทริค โอโวโมเยล่า (-)

ตัวแบน : -

          ทริปบุก นอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลีย หนนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เรอัล มาดริด หนีบผู้เล่นติดทีมมาร่วม 23 ชีวิต เริ่มออกเดินทางจากกรุงมาดริดมายัง ดอร์ทมุนด์ ใช้เวลาเดินทางร่วมสองชั่วโมงก่อนที่จะเข้าพักผ่อนที่ เรดิสสัน บลู โรงแรมระดับห้าดาวใกล้ๆกับ ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค ใช้เวลาเดินทางถึงสนามแข่งขันเพียง 10 นาที

          ด้านความพร้อม "ราชันชุดขาว" จะเปลี่ยนทีมจากแมตช์เอาชนะ เรอัล เบติส แบบยกชุดเหลือไว้เพียง ดีเอโก้ โลเปซ, เมซุต โอซิล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่จะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และเกมนี้จะได้ เซร์กิโอ รามอส (26 นัด, 4 ประตู), ชาบี อลอนโซ่ (24 นัด) กลับมาจากโทษแบน เช่นเดียวกับ ฟาบิโอ โคเอนเตรา (14 นัด, 1 ประตู) แข้งโปรตุกีส สลัดคราบเดี้ยง ลงเสียบแบ็กซ้ายแทน มาร์เซโล่ ที่เจ็บในเกมลีกแมตช์ล่าสุด

ตัวเจ็บ
กองหลัง : มาร์เซโล่ (13 นัด)
กองกลาง : ไมเคิ่ล เอสเซียง (16 นัด, 1 ประตู)

ตัวแบน 
กองหลัง : อัลบาโร่ อาร์เบลัว (24 นัด) 

ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง

ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - ลูคัส พิสซ์เซ็ค, เนเว่น ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - อิลคาย กุนโดแกน, สเวน เบนเดอร์ - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, มาริโอ เกิทเซ่, เควิน โกร้สครอยซ์ (มาร์โก รอยส์) - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ดีเอโก้ โลเปซ - เซร์กิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราน, เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเตรา - ชาบี อลอนโซ่, ซามี เคดิร่า -  อังเกล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอิน
ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่

ทรรศนะ
         
          ดอร์ทมุนด์ เข้ามาถึงรอบตัดเชือกแบบหักปากกาเซียนต้องยกความดีความชอบให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ปลุกปั้นมอบองค์ความรู้และระบบการเล่นตีเส้นให้ทัพ "เสือเหลือง" ขึ้นมาเป็นทีมชั้นแนวหน้าของยุโรปแบบก้าวกระโดด ยกเว้นอย่างเดียวที่กุนซือวัย 45 ปี ประเคนให้กับ ดอร์ทมุนด์ ไม่ได้คือเรื่องของประสบการณ์ที่แม้แต่เงินก็หาซื้อไม่ได้ หากไม่นับ โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ผู้รักษาประตูมือเก๋า 10 ตัวจริงที่เหลือค่าเฉลี่ยอายุเพียง 24 ปี เท่านั้น

          จุดสังเกตตลอดเส้นทางในรายการยุโรปทัพ "เสือเหลือง" ยิ่งเข้ารอบลึกยิ่งกดดัน (เครื่องร้อนช้ากว่าจะตั้งเกมได้ต้องรอถึงต้นครึ่งหลัง) เหมือนในเกมดวล มาลาก้า ไม่ใช่เพราะ ดอร์ทมุนด์ ดีกว่า แต่เป็นคู่ต่อสู้ที่สมาธิเตลิดกันไปเอง จึงผ่านเข้ารอบมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ทว่า เรอัล มาดริด มีทั้งลูกสดและลูกเก๋าผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายเวที และที่สำคัญ มูรินโญ่ เป็นโคตรโค้ชบอลน็อคเอาท์ น่าจะประยุกต์ข้อเสียของตัวเองในการเจอกันสองยกข้างต้นมาปรับแต่งให้ทีมสู้กับ "เสือเหลือง" ได้อย่างถึงพริกถึงขิง ถ้า ดอร์ทมุนด์ นัดนี้ไม่ได้ดีตลอด 90 นาที ก็มีสิทธิ์พังคารังให้กับทีมจากสเปนเหมือนกัน

ฟันธง : วาง เรอัล มาดริด ชนะ 2-1

อัตราความมั่นใจ : 8/10

police วิเคราะห์

     ดอร์ทมุนด์ คงไม่อยากน้อยหน้าอริร่วมลีกอย่าง บาเยิร์น ซึ่งไล่ต้อนบาร์ซ่าไป 4-0 เพราะหาก "เสือเหลือง" เกิดพ่ายขึ้นมา คาดว่าพรุ่งนี้เช้าพวกเขาจะโดนเหน็บแบบเจ็บๆจากสื่อ "เสือใต้" อย่างแน่นอน ส่งผลให้ว่าที่รองแชมป์บุนเดสลีก้า ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ อีกทั้งพัฒนาการของดอร์ทมุนด์ ในรายการนี้กระโดดไปไกล แถมมีดวงเข้ามาช่วยอีกทาง อย่างนัดล่าสุดจะตกรอบอยู่แล้วแต่ก็ผ่านมาได้ราวปาฏิหารย์ จากผลพวงดังกล่าว จึงน่าจะเป็นกำลังใจชั้นดีให้กับเจ้าถิ่นก่อนลงบู๊เรอัล มาดริด

     นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว ทีมจากเยอรมัน เคยเอาเปิดบ้านชนะ "ชุดขาว" มาก่อนในรอบแบ่งกลุ่ม ดังนั้น "เสือเหลือง" ไม่มีความจำเป็นต้องกลัวมาดริด แต่อย่างใด ยิ่งหากมองในแง่บอลเหย้า-เยือน รู้ผล ยิ่งมองว่าใครเป็นเจ้าบ้านก่อนต้องชนะให้ได้เท่านั้น เพราะเกมสองไปเยือนสเปนจุดเสียเปรียบค่อนข้างเยอะ ความเป็นไปได้ในเกมนี้จึงออกมาในรูป เจ้าบ้านบุก ทีมเยือนรับ ทำให้มุมเก็บชัยจึงเอนมาทางดอร์ทมุนด์มากกว่า ส่วนมาดริด หากเสมอกลับออกมา พวกเขาก็ไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด เพราะยังมีเกมในเบร์นาบิวไว้รอเชือด ดังนั้นหากมองในแง่ราคาเดิมพันกับเรท "เสมอ" วางเจ้าบ้านไปก่อนน่าจะดีกว่า เพราะดูแล้วมุมเจ็บตัวมีน้อย หรือเข้าข่าย มีแต่เจ๊ากับเจี๊ยะสำหรับดอร์ทมุนด์

ผลบอลที่คาด : ดอร์ทมุนด์ ชนะก่อน 2-1 

ซอคเกอรูส์ ชี้ช่องรวย

    ผลสอบย่อยของสองทีมในรอบแบ่งกลุ่มเป็น ดอร์ทมุนด์ ตักตวงผลงานได้เหนือกว่า เพราะเปิดบ้านเฉือนชนะ 2-1 และบุกไปยันเสมอถึง เบร์นาเบว 2-2 แบบน่าชนะ ภายหลังที่ถูก เรอัล ตามเจ๊าก่อนหมดเวลานาทีเดียว ซึ่งมองผิวเผินแมตช์ประเดิมรอบน๊อคเอาท์คราวนี้กับเรต "เสมอ" การเลือกเชียร์ "เสือเหลือง" เหมือนจะไม่เสียเปรียบ เนื่องจากข้อแม้ของการตีตั๋วรอบชิงของ ดอร์ทมุนด์ คือต้องชนะในแมตช์นี้ เพราะครั้นจะไปลุ้นตายเอาดาบหน้าที่ สเปน คงลำบาก

    อย่างไรก็ดีตัวแปรที่น่าคิดคือชั่วโมงบินบนเกมยุโรปของเจ้าบ้าน เพราะทีมชุดนี้แทบไม่มีประสบการณ์รอบน๊อคเอาท์ลึก ๆ เลย พิสูจน์ได้จากรอบก่อนที่ต้องโกงความตายกว่าจะผ่านมาได้ ขนาดว่าคู่แข่งเป็นระดับเก่งเล็กจากสเปนอย่าง มาลาก้า เท่านั้น ทำให้การรีแมตช์กับทีมรุ่นเฮฟวี่เวทแดนกระทิงอย่าง "ราชันชุดขาว" ภายใต้ข้อจำกัดที่แตกต่างไปจากรอบแบ่งกลุ่มเพราะไม่มีเกมปลีกย่อยให้แก้ตัว มองว่าฝ่ายที่เก๋าเกมกว่าทั้งตัวนักเตะและเทรนเนอร์อย่าง เรอัล น่าสนใจกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับราคา "เสมอ" ที่นานทีปีหนจะหลุดมาให้สาวกมาดริดได้ตามเชียร์พวกเขาแบบไม่ต้องแบกแต้มต่อสักที

เดิมพันน่าสนใจ : "วาง เรอัล พ่วงสกอร์สูง"
ผลบอลที่คาด : "ชุดขาวบุกเฆี่ยน 3-2"

Skadoosh เผยไต๋

    เชื่อเลยว่าชัยชนะของ บาเยิร์น เมื่อวานนี้ มีผลต่อขวัญกำลังใจของ ดอร์ทมุนด์ แน่นอน เพราะเหมือนเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าทีมที่ถูกมองเป็นรองมีสิทธิ์ที่จะเป็นฝ่ายกำชัยออกจากสนาม แม้ว่ามาตรฐานผู้เล่นของเสือเหลืองจะดูด้อยกว่า แต่การฟาดแข้งในถิ่นตัวเองยังเป็นทีเด็ดให้ทีมได้เสมอโดยเฉพาะเกมรุก นอกจากนี้ผลงานที่เจอ มาดริด ในรอบแบ่งกลุ่มก็บอกได้ดีถึงความสูสี ขณะที่เกมนอกบ้านรายการนี้ของราชันชุดขาวไม่ได้น่าชื่นชมอะไรอยู่แล้ว ยิ่งเจอทีมเวิร์คของแข้งดอร์ทมุนด์ที่ชั่วโมงนี้มั่นใจเต็มเปี่ยมเข้าไปมีป่วนแน่นอน เมื่อส่ายสายตาดูเปรียบเทียบกัน เจ้าบ้านลุ้นขึ้นเลย ซึ่งแม้ว่าเกมจะยากไปสักหน่อยแต่สุดท้ายก็น่าจะทำได้ดีกว่าด้วยการเบียดเอาชนะไปได้     

ผลการแข่งขัน : ดอร์ทมุนด์ ชนะ 2-1