ศึก All-German final ที่เวมบลีย์คราวนี้ บาเยิร์น มิวนิค จะพบกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป้าหมายคือแก้มือที่เมื่อปีที่แล้วแพ้เชลซีในนัดชิงชนะเลิศ
* บาเยิร์นจะเคลื่อนทัพมาลอนดอนด้วยความตั้งใจที่จะลบความเจ็บปวดที่พวกเขาแพ้ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในบ้านของตัวเอง ทีมเสือใต้ ที่ก่อนหน้านี้ในปี 2010 อกหักพลาดจากแชมป์เช่นกันหวังจะทำให้ดีกว่าโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ที่พวกเขาปราบอยู่หมัด จนได้แชมป์บุนเดสลีกามาครองซีซั่นนี้
* บาเยิร์น ที่จะลงไล่ล่าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยที่ 5 เอาชนะบาร์เซโลน่าได้อย่างสวยงามในรอบรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตามขุนพลโบรุสเซีย ของเจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดเยี่ยมเช่นกันจากการเอาชนะเรอัล มาดริด ในรอบรอง และจะลงลุ้นแชมป์ใบใหญ่สุดของยุโรปอีกครั้ง เหมือนเมื่อปี 1997 ที่พวกเขาคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ เป็นการเข้าชิงหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรด้วย
Previous meetings
* ทั้งสองเจอกันในถ้วยยุโรปแค่ครั้งเดียวนั่นคือฤดูกาล 1997/98 เกมรอบก่อนรองชนะเลิศที่ดอร์ทมุนด์ ที่อยู่ในฐานะแชมป์เก่า เป็นฝ่ายชนะ หลังจากที่เลกแรกเสมอกันที่มิวนิค 0-0 ดอร์ทมุนด์เปิดบ้านเฉือนชนะ 1-0 ได้ประตูจากสเตฟาน ชาปุยซาต์ นาที 109
รายชื่อผู้เล่นเลกสอง วันที่ 18 มีนาคม 1998
ดอร์ทมุนด์: โคลส, จูลิโอ เซซาร์, รอยเตอร์ (ซอร์ค 105), โคห์เลอร์, ไฮน์ริช, ไฟเออร์ซิงเกอร์, ฟรอยด์ (ริคเค่น 79), โมลเลอร์, บุต, ชาปุยซาต์, เดเชเวอร์ (ชไนเดอร์ 19)
บาเยิร์น: คาห์น, บับเบิ้ล, คุฟฟูร์, มัทเธอุส (สตรุนซ์ 111), แนร์ลิงเกอร์ (ลิซาราซู 111), โชล, ฮามันน์, ฟิงค์, ทาร์นาท, เอลแบร์ (ซิคเลอร์ 101), ยานเคอร์
* สองสโมสรพบกันในเกมเป็นทางการทั้งหมด 100 ครั้ง ที่บาเยิร์นเป็นฝ่ายชนะ 45 ครั้ง ดอร์ทมุนด์ชนะ 26 ครั้ง และเสมอ 29 ครั้ง
* บาเยิร์นไม่แพ้ดอร์ทมุนด์ 4 ครั้งที่เจอกันในฤดูกาล 2012/13 รวมถึงแมตช์ที่ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ที่มิวนิค และดอร์ทมุนด์ วันที่ 1 ธันวาคมที่มิวนิค มาริโอ เกิตเซ่ (นาที 74) ทำประตูตีเสมอบาเยิร์น ที่ขึ้นนำจากการยิงของโทนี่ โครส (67) ขณะที่ที่ดอร์ทมุนด์วันที่ 4 พฤษภาคม มาริโอ โกเมซ (นาที 23) ตีเสมอดอร์ทมุนด์ที่ขึ้นนำจากการยิงของเควิน กรอสครอยท์ซ (นาที 11) เกมที่ราฟินญ่าของบาเยิร์นโดนไล่ออก
* บาเยิร์นชนะดอร์ทมุนด์ 2-1 ในเยอรมัน ซูเปอร์ คัพ ที่มิวนิค วันที่ 12 สิงหาคม -- มาริโอ มันซูคิช (6) และโธมัส มุลเลอร์ (11) ยิงให้บาเยิร์นนำ 2-0 ก่อนโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (75) จะยิงไล่มา 2-1 อีกนัดนักเตะของจุ๊ปป์ ไฮย์เกส ชนะดอร์ทมุนด์ในเยอรมัน คัพ 1-0 จากการยิงของอาร์เยน ร็อบเบน (นาที 43) รอบก่อนรองชนะเลิศวันที่ 27 กุมภาพันธ์
* การเจอกันในเยอรมัน คัพ นัดชิงชนะเลิศที่ผ่านมา บาเยิร์นชนะดอร์ทมุนด์ 2-1 ปี 2008 แต่ดอร์ทมุนด์ถล่มกลับ 5-2 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ชินจิ คากาวะ (นาที 3) แมตส์ ฮุมเมลส์ (จุดโทษ นาที 41) และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (47, 58, 81) ยิงให้ดอร์ทมุนด์ ขณะที่บาเยิร์นได้จาก ร็อบเบน (นาที 25 จุดโทษ) และฟรองก์ ริเบรี่ (75)
รายชื่อผู้เล่นนัดชิงหนล่าสุดที่เจอกัน 12 พฤษภาคม 2012
ดอร์ทมุนด์: ไวเดนเฟลเลอร์ (ลังเกรัค 34), พิซเซ็ก, ซูโบติช, ฮุมเมลส์, ชเมลเซอร์, เคห์ล, บลาสซิคอฟสกี้ (เปริซิช 84), กรอสส์ครอยท์ซ, กุนโดกัน, คากาวะ (เบนเดอร์ 81), เลวานดอฟสกี้
บาเยิร์น: นอยเออร์, ลาห์ม, บัวเต็ง, บาดสตูเบอร์, อลาบ้า (คอนเตนโต้ 69), ริเบรี่, หลุยซ์ กุสตาโว่ (มุลเลอร์ 46), ชไวน์สไตเกอร์, โครส, ร็อบเบน, โกเมซ
Match background
* บาเยิร์น หวังคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยที่ 5 เทียบเท่าลิเวอร์พูล และเป็นทีมอันดับ 3 ร่วมที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุดรองจากเรอัล มาดริด และเอซี มิลาน
* สถิตินัดชิงชนะเลิศบาเยิร์น (ชนะ 4 แพ้ 5)
1974: ชนะ แอต. มาดริด 4-0, บรัสเซลส์ (รีเพลย์ หลังจากเสมอกัน 1-1)
1975: ชนะ ลีดส์ 2-0, ปารีส
1976: ชนะ แซงต์ เอเตียน 1-0, กลาสโกว์
1982: แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1, ร็อตเตอร์ดัม
1987: แพ้ เอฟซี ปอร์โต้ 1-2, เวียนนา
1999: แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2, บาร์เซโลน่า
2001: เสมอ บาเลนเซีย 1-1 (จุดโทษชนะ 5-4), มิลาน
2010: แพ้ อินเตอร์ 0-2, มาดริด
2012: เสมอ เชลซี 1-1 (แพ้จุดโทษ 3-4), มิวนิค
* นอกจากนั้นบาเยิร์นยังได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1967 และยูฟ่า คัพ 1996
* โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ชนะยูเวนตุส 3-1 ที่มิวนิค การชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกของพกวเขา ปี 1997 ลาร์ส ริคเค่น ที่ตอนนี้เป็นผู้ประสานงานทีมเยาวชนดอร์ทมุนด์ ยิงประตูที่สาม 60 วินาทีหลังจากเปลี่ยนตัวลงสู่สนาม และมิชาเอล ซอร์ค ที่ตอนนี้เป็นผู้อำนวยการกีฬาดอร์ทมุนด์ ยิงอีก 1 ในฐานะตัวสำรองช่วงท้ายเกม
* อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ โค้ชดอร์ทมุนด์ในตอนนั้นนำบาเยิร์นเข้าชิงในปี 1999 และ 2001
* นอกจากนั้นดอร์ทมุนด์ยังได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพวินเนอร์ส คัพ ปี 1966 แต่แพ้นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า คัพปี 1993 และ 2002
* ชัยชนะของทีมเสือใต้นัดนี้จะทำให้จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เป็นกุนซือคนที่ 19 ที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ สองครั้ง (ครั้งแรกทำได้ในปี 1998 กับเรอัล มาดริด)
* นอกจากนั้นไฮย์เกสจะเป็นกุนซือคนที่ 4 ที่ได้แชมป์ต่างสโมสร หลังจากที่เอิร์นส์ท ฮัปเปิล (เฟเยนูร์ด 1970, ฮัมบวร์ก 1983), ฮิตซ์เฟลด์ (ดอร์ทมุนด์ 1997, บาเยิร์น 2001) และโจเซ่ มูรินโญ่ (ปอร์โต้ 2004, อินเตอร์ 2010) ทำได้ก่อนหน้านี้
* ซีซั่นแรกของไฮย์เกสในฟุตบอลถ้วยยุโรปในฐานะโค้ชจบด้วยความพ่ายแพ้ เกม All-German final ครั้งนั้นโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัคของเขา แพ้ไอน์ทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต ตามกฎประตูทีมเยือน นัดชิงชนะเลิศยูฟ่า คัพ 1980 ครั้งนั้นรอบรองชนะเลิศเป็นเยอรมันทั้งหมด ขณะที่กลัดบัคเอาชนะสตุ๊ตการ์ต บาเยิร์นแพ้แฟรงค์เฟิร์ตด้วยสกอร์รวม 3-5
* บาเยิร์น ชนะ 4 และแพ้ 3 ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปที่พวกเขาพบทีมจากเยอรมันด้วยกัน สถิตินี้รวมชัยชนะเหนือดินาโม เดรสเดน และมักเดบวร์ก ในยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยน คลับ ปี 1973/74 และ 1974/75 ตามลำดับ ที่ทั้งสองซีซั่นบาเยิร์นได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพมาครอง
* ชัยชนะหนล่าสุดที่บาเยิร์นทำได้ในถ้วยยุโรปเหนือทีมในบุนเดสลีกา คือ 6-0 ในการพบกับไกเซอร์สเลาเทิร์น เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเศ
* บาเยิร์นชนะที่ลอนดอนมาแล้วในซีซั่นนี้ จากการชนะอาร์เซนอล 3-1 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรก จากการไปเยือนลอนดอนทั้งหมด 6 ครั้ง (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 3)
* ดอร์ทมุนด์ชนะที่ลอนดอนมาแล้วเช่นกัน 1 ครั้ง นั่นคือ2-1 ที่เวสต์แฮม ในยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ รอบรองชนะเลิศ 1965/66 ก่อนจะคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรก หลังจากนั้นกลับมาเล่นที่นี่สองครั้ง แพ้อาร์เซนอลในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกปี 2002/03 และอีกครั้งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
* ดอร์ทมุนด์ เสมอที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ (สถิติที่อังกฤษของดอร์ทมุนด์ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 4)
* ขณะที่ดอร์ทมุนด์ชนะแค่เกมเดียวนอกเยอรมัน บนเส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศปีนี้ บาเยิร์น ชนะนอกเยอรมัน 4 ครั้ง รวมสามครั้งหลังสุดที่เจออาร์เซนอล, ยูเวนตุส และบาร์เซโลน่า)
* ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 7 ที่ยูโรเปี้ยน คัพ นัดชิงชนะเลิศเล่นที่เวมบลีย์ และเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่สร้างสนามใหม่
1963 มิลาน ชนะ เบนฟิก้า 2-1
1968 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะเบนฟิก้า 4-1 (ต่อเวลา)
1971 ไอแอกซ์ ชนะ พานาธิไนกอส 2-0
1978 ลิเวอร์พูล ชนะ คลับ บรู้ช 1-0
1992 บาร์เซโลน่า ชนะ ซามพ์โดเรีย 1-0 (ต่อเวลา)
2011 บาร์เซโลน่า ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1
* ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 4 ที่ทีมจากประเทศเดียวกันพบกันเองในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สามครั้งที่ผ่านมาเรอัล มาดริด ชนะบาเลนเซียปี 2000, มิลาน ชนะยูเวนตุสปี 2003 และแมนฯ ยูไนเต็ดชนะเชลซีปี 2008
* สถิติการดวลลูกโทษของดอร์ทมุนด์ในฟุตบอลถ้วยยุโรป
- ชนะเรนเจอร์ส 3-1 (ยูฟ่า คัพ รอบสาม 1999/2000)
- ชนะ โอแซร์ 6-5 (ยูฟ่า คัพ รอบรองฯ 1992/93)
* สถิติการดวลลูกโทษของบาเยิร์นในฟุตบอลถ้วยยุโรป
- แพ้ เชลซี 3-4 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงฯ 2011/12)
- ชนะ เรอัล มาดริด 3-4 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองฯ 2011/12)
- ชนะ บาเลนเซีย 5-4 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2000/01)
- ชนะ พีเอโอเค 9-8 (ยูฟ่า คัพ รอบสอง 1983/84)
- ชนะ แอตวิดาเบิร์กส์ 4-3 (ยูโรเปี้ยน คัพ รอบแรก 1973/74)
