ฟุตบอลโลก ยู-20 : เวทีเปิดตัวว่าที่ดาวค้างฟ้าวงการลูกหนัง
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1977 เกี่ยวกับรายการ ฟุตบอลโลก ยู-20 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุดของเหล่าเยาวชนที่มีบทบาทในการเฟ้นหาเพชรเม็ดเอกแห่งวงการลูกหนังที่จะกลายเป็นว่าที่ซุปตาร์ต่อไปในอนาคต
ช่วงเวลาดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นขั้นทดลองของการจัดการแข่งขันที่คลอดโปรแกรมเริ่มแรกมาเพียง 28 นัด จนภายหลังถูกพัฒนามาเป็น 52 เกม รองรับความต้องการของเหล่าแฟนบอลที่มีต่อในรายการนี้ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เหล่าแมวมองและผู้จัดการทีมในระดับสโมสรมีทางเลือกในการพิจารณาฟอร์มการเล่นนักเตะได้อย่างชัดเจน จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีนักเตะหลายรายสามารถใช้เวทีนี้เป็นทัวร์นาเมนต์เปิดตัวประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดมานักต่อนัก
ครั้งแรกที่ ตูนิเซีย รับบทเจ้าภาพ ปี 1977 เป็น สหภาพโซเวียต ที่ปักธงชัยคว้าแชมป์ไปครอง ซึ่ง วลาดิเมียร์ เบสซานอฟ ยอดกองกลางถือเป็นดาวเด่นประจำรายการที่เป็นฟันเฟืองสำคัญให้กับชาติคอมมิวนิสต์ทะยานสู่ความสำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์แรกของรายการ ต่อมาเจ้าตัวสามารถพาทีมคว้าเหรียญทองโอลิมปิก และเข้าร่วมฟุตบอลโลกได้อีก สามครั้งในปี 1982, 1986 และ 1990 อีกด้วย

เบสซานอฟ ถือเป็นกรณีตัวอย่างทดลองที่สามารถเอาไปใช้ได้จริง รายการนี้จึงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสองปีให้หลัง ปี 1979 ญี่ปุ่น ได้เป็นเจ้าภาพ และปีนี้คือปีสำคัญที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จัก "เสือเตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่พาทีมชาติอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ ด้วยการคว่ำแชมป์เก่า สหภาพโซเวียต ด้วยสกอร์ 3-1 อีกด้วย

ปี 1987 ผลผลิตของ ยูโกสลาเวีย มีดีไม่แพ้ใครจนปาดหน้าเข้าวินเหนือทีมเต็งอย่าง เยอรมันตะวันตก และดาวเด่นของรายการ คือ โรเบิร์ต โปรซิเน็คกี้ กองกลางขาโหด ที่รับบทเพลย์เมคเกอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีองค์ประกอบทีมที่ลงตัวที่มี ซโวนิเมียร์ โบบัน, ดาวอร์ ซูเคอร์ และ เปแดร็ก มิยาโตวิช เป็นสามตัวเอ้ในแผงรุก ซึ่งภายหลังมีการแบ่งแยกประเทศมาเป็น โครเอเชีย มีสามรายแรกเป็นตัวชูโรงทีมชาติชุดใหญ่จนสามารถคว้าอันดับสามฟุตบอลโลกในปี 2002

ปี 1991 ทีมชาติ โปรตุเกส รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ดังเป็นพลุแตกเมื่อหนังสือพิมพ์ในประเทศลงตีพิมพ์ยกย่องความเป็นสุดยอด หลังป้องกันแชมป์ได้เป็นทีมที่สองถัดจากบราซิล ด้วยขุมกำลังที่มี หลุยส์ ฟิโก้, รุย คอสต้า และ เจา ปินโต้ เป็นสามประสาน ทว่าคนที่แจ้งเกิดได้เต็มตัวที่สุดกลับเป็น เอมิลิโอ ปีเช่ มิดฟิลด์ตัวรับ ที่ได้รางวัล "โกลด์ บอล" หักด่านสามรายข้างต้นไปอย่างพลิกโผ
ปี 1997 ถือเป็นปีทองของ อาร์เจนติน่า ที่อัดแน่นด้วยขุมกำลังที่อัดแน่นไปด้วยแผงมิดฟิลด์ระดับคุณภาพ เมื่อได้ ฮวน โรมัน ริเกวลเม่ และ เอสตาบัน กัมบิอัซโซ่ เป็นแกนหลักคว้าแชมป์ที่ มาเลเซีย ได้อย่างไม่ยากเย็น นอกเหนือจากนี้ เธียร์รี่ อองรี, ไมเคิ่ล โอเว่น, ดาวิด เทรเซเก้ต์ และ นิโกล่า อเนลก้า ถึงจะไม่ได้แชมป์ติดไม้ติดมือแต่ก็ทำให้คนทั้งโลกรู้จักพวกเขาไปแล้วจากรายการนี้
การเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคตไม่จำเป็นต้องพาทีมคว้าแชมป์รายการนี้ถือเป็นเรื่องที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ในปี 1999 ที่ ไนจีเรีย เป็นเจ้าภาพ มีนักเตะแจ้งเกิดได้มากมายทั้ง เพราะ โรนัลนิญโญ่, โรเก้ ซานตา ครูซ, ปีเตอร์ เคร้าช์, ชาบี เอร์นานเดซ, ดีเอโก้ ฟอร์ลัน และ เซย์ดู เกอิต้า ปัจจุบันล้วนเป็นนักเตะที่ค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำของโลกทั้งสิ้น

ฮาเวียร์ ซาบิโอล่า เหมือนถูกหวยสองเด้ง เพราะนอกจากทีมชาติ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ในปี 2011 ในฐานะเจ้าภาพแล้ว เจ้าตัวยังคว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดประจำรายการ หลังจากกดให้ทีม "ฟ้าขาว" ได้ถึง 11 ประตู ต่อมาภายหลังกองหน้าฉายา "เดอะ แร็บบิทส์" ได้กลายเป็นกำลังสำคัญให้กับ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด อริจากศึก "เอล กลาซิโก้" ของประเทศสเปนอีกด้วย
จากที่ว่ามาทั้งหมด มีนักเตะถึง 6 คน ที่ทำผลงานได้เกินอายุจนคว้ารางวัล โกลเด้น บอล และ โกลเด้น บูท ซึ่งเป็นการพิสูจน์ จิโอวานี่, ฮาเวียร์ ซาบิโอล่า, เซร์กิโอ อเกวโร่, โดมินิค อาดิย่าห์, เอ็นริเก้ และ ลิโอเนล เมสซี่ ทั้งหกรายนี้ถือเป็นตัวจริงเสียงจริงที่เคยสร้างชื่อให้กับตัวเองจนบางรายปัจจุบันอำลาอาชีพนี้ด้วยเกียรติประวัติในระดับชาติและสโมสรที่น่าจดจำจนหลายๆคนไม่ลืมเลือนอย่างแน่นอน