โชเซ่ มูรินโญ่ จะพาเชลซีลงประเดิมสนามเจอกับ บาเซิ่ล
สถิติน่าสนใจ แชมเปี้ยนส์ ลีก : เชลซี -vs- บาเซิ่ล
สถิติน่าสนใจ แชมเปี้ยนส์ ลีก : เชลซี -vs- บาเซิ่ล
เชลซี จะได้แก้ตัวในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มอีกครั้ง หลังจากปีที่แล้ว "สิงห์บลูส์" อกหักตกรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งที่พกดีกรีแชมป์เก่า โดยศึกนี้จะเป็นการโคจรมาเจอกันอีกครั้งในรอบห่างกันไม่กี่เดือน หลังจากทั้งคู่เพิ่งดวลเกือกกันมรในรอบรองชนะเลิศ ศึกยูโรป้า ลีก เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นทีมจากลอนดอน ต้อนเอาชนะไปด้วยประตูรวม 5-2
ปูมหลังที่น่าสนใจ
* การที่ เชลซี เป็นแชมป์ยูซีแอล เมื่อฤดูกาล 2011/12 ต่อเนื่องด้วยแชมป์ยูโรป้า ในปีถัดมา เท่ากับว่า "สิงห์บลูส์" เป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ยุโรปใบใหญ่ ตามด้วยถ้วยใบเล็กภายในเวลาห่างกันสองปี และทีมจากลอนดอนเป็นทีมที่ 4 ซึ่งสามารถเก็บแชมป์ระดับเมเจอร์ ได้ทั้ง 3 ใบ (แชมเปี้ยนส์ ลีก, คัพ วิเนอร์ส คัพ และ ยูฟ่า คัพ)
* เชลซี สามารถจบด้วยการเป็นอันดับหนึ่งของรอบแบ่งกลุ่ม ได้ถึง 7 จาก 10 ครั้งหลังสุดที่ในรายการนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกยกให้เป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ยูซีแอล และตกรอบแบ่งกลุ่มในซีซั่นถัดมา
* ถึงแม้ตัวแทนจากเกาะอังกฤษ จะได้เพียงอันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อปีก่อน ทว่าผลงานในรังของเชลซี ยังเป็นจุดขาย โดยเฉพาะเกมเปิดสนาม ที่ไม่แพ้ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ มา 11 เกมติดต่อกัน (ชนะ 8 เสมอ 3)
* มูรินโญ่ จะกลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่พาต้นสังกัด 3 ทีม เป็นแชมป์ยูซีแอล หากว่าเจ้าตัวช่วยให้ เชลซี เป็นแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ โดยก่อนหน้า "จ่ามู" นำปอร์โต้ กับ อินเตอร์ มิลาน ถึงฝั่งมาแล้ว
* เชลซี เสียท่าให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2010-2011 ซึ่งก็เป็นความพ่ายแพ้ในรังเพียงครั้งเดียวของ "สิงห์บลูส์" ตลอด 14 เกมหลังในแชมเปี้ยนส์ ลีก
* บาเซิ่ล หวังเดินตามรอยฤดูกาล 2011-12 ที่พวกเขาไม่แพ้ในการเป็นทีมเยือนของรอบแบ่งกลุ่ม (เสมอแมนฯ ยูไนเต็ด กับ เบนฟิก้า ตามด้วยบุกทุบ โอเตลุล)
* อย่างไรก็ตาม บาเซิ่ล มีสถิติไม่ค่อยน่าจดจำในการมาเยือนอังกฤษ กับสถิติสะกดชัยไม่เจอในรอบ 19 เกมหลังยืนยันได้ดี (เสมอ 6 แพ้ 12)