ปืนแตก! "สิงห์บลูส์" บุกตะปบอาร์เซน่อล 2-0
ศึกแคปปิตอล วัน คัพ หรือ ลีก คัพ ของอังกฤษ ไปกันที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เจ้าบ้าน "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้านต้นรับการมาเยือนของ "สิงห์บลูส์" เชลซี เป็นเกมดาร์บี้แมตช์แห่งกรุงลอนดอนในแบบฉบับบอลถ้วย ขึ้นชื่อว่าดาร์บี้แมตช์แล้ว หวดกันไฟแล่บแน่นอน
เจ้าบ้านอาร์เซน่อลทีมจ่าฝูงของลีก ภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ เฝ้าบ้านในระบบ 4-2-3-1 โดยส่ง นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า ส่วนทางด้านภายใต้อำนาจของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือใหญ่ของทีม จัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน และส่ง ซามูเอล เอโต้ ยืนค้ำในแดนหน้า
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก รูปเกมพลัดกันบุกเข้าใส่กันอย่างสูสี จนกระทั่งในนาทีที่ 25 เป็นทางฝั่งทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะผิดพลาดของ คาร์ล เจนกินสัน โหม่งคืนหลังเบาเกินไป ก่อนที่ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า จะโฉบตัดหน้า แตะบอลสวนตัวของ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ นายทวารชาวโปแลนด์ เข้าไปนิ่มๆ "สิงห์โตน้ำเงินคราม" ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นเกมเริ่มจะอึดอัดขึ้น มีจังหวะการตัดฟาวล์กันบ่อยครั้ง จบเกมครึ่งเวลาแรก ด้วยสกอร์ 1-0
กลับมาต่อกันในครึ่งเวลาหลัง เข้าสู่นาทีที่ 66 เชลซีออกนำเป็น 2-0 จากจังหวะที่ วิลเลี่ยน โขกบอลย้อนหลังบอลมาเข้าทาง ฆวน มาตา ก่อนจะแตะบอลแล้วกดด้วยเท้าขวาข้างถนัด เต็มข้อ ลูกพุ่งติดไซ้ก้อยเสียบหน้าต่างเสาไกลงามหมดจด หมดสิทธิ์ที่นายด่านเจ้าถิ่นจะพุ่งไปถึง ส่งให้เชลซีขึ้นนำห่างออกไป 2-0 ลูกนี้อาจจะทำให้นายใหญ่อย่าง "จ่ามู" ต้องพิจารณาเขาใหม่อย่างแน่นอน ต่อจากนั้นเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ "สิงห์บลูส์" บุกตะปบ อาร์เซน่อล 2-0 เข้ารอบต่อไปสำเร็จ
ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ นอริช ซิตี้ 4-0, เลสเตอร์ ซิตี้ ชนะ ฟูแล่ม 4-3, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 4-4 ก่อนจะเป็น "ช่างปั้นหม้อ" ยิงจุดโทษแม่นกว่าผ่านเข้ารอบไปได้ และคู่สุดท้าย เบิร์นลี่ย์ เปิดบ้านพ่าย เวสต์แฮม 0-2