Newcastle v Liverpool
เป็นสัปดาห์ที่มีความวุ่นวายมากทีเดียวของหงส์แดงและผลสรุปก็คือได้เจ้าของใหม่เป็นชาวสหรัฐ ซึ่งราฟาเองก็หวังว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผล
ต่อลูกทีมหลังจากที่พาทีมไม่แพ้ใครมาตั้งแต่ช่วง บ็อกซิ่งเดย์ ดูจากอัตรา 11/10ที่จะพิชิตสาลิกาดงแล้วไม่เสี่ยงนักเพราะดูจากการ
เล่นของทีมในนัดที่แพ้ฟูแล่มแล้วไม่ไหวจริงๆ ทางฝั่งทีมจากแดนอีสานนั้นเริ่มกลับมาสู่ซีซั่นของตัวเองได้แล้วหลังจากที่ มาร์ติน นั้น
ช่วยผลิตสกอร์อย่างเป็นกอบเป็นกำและการกลับมาของ คีรอน ดายเออร์ แต่ก็ยากเต็มทีที่จะต่อกรกับลิเวอร์พูล ด้วยผู้เล่นที่เจ็บเยอะ
ขนาดนี้ และนัดนี้พลพรรค เร้ด แมชชีน ก็น่าจะอยากโชว์ฟอร์มให้เจ้าของใหม่อย่าง จอร์จ ยิลล์เล็ต และ ทอม ฮิคส์ ได้เห็นว่าไม่ได้คิด
ผิดที่มาเทกโอเวอร์
Verdict: Newcastle 0 Liverpool 2
Sheffield United v Tottenham
สเปอร์ส เองนั้นอยากจะลืมฟอร์มการเล่นนัดล่าสุดให้เร็วที่สุดซึ่งเกมที่แพ้ต่อ แมนฯยูฯ นั้นการเล่นในครึ่งหลังของพวกเขาทำให้มาร์ติน
โยล หงุดหงิดทีเดียว ทางฝั่งดาบคู่นั้นต้องหนีตายแต่สิ่งหนึ่งที่จะช่วยพวกเขาได้ก็คือ การเล่นเกมในบ้านที่ไว้ใจได้ทีเดียว ซึ่งการเล่นที่
นี่ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันของวอร์น็อค นั้นก็เคยแสดงมาให้เห็นแล้วในเกมกับ ที่จากลอนดอนทีมอื่นๆอย่าง อาร์เซนอล และ ฟูแล่ม และ
คาดว่านัดนี้ก็จะเป็นอย่างนั้นอีก ถือฝั่งเจ้าบ้านไปที่ 6/4
Verdict: Sheffield United 2 Tottenham 1
West Ham v Watford
เอ็กเกิร์ท แม็กนุสสัน เร่งเร้าให้ทีมหนีจากโซนอันตรายให้ได้หลังจากที่เซ็นสัญญากับผู้เล่นมาหลายคน แต่เหมือนว่าพวกเขาจะหลงทาง
เมื่อ ลูคัส นีลล์ และ แม็ทธิว อัพสันสองกองหลังที่ซื้อมานั้นมีอาการบาดเจ็บซึ่งถือเป็นเรื่องที่เสียหายทีเดียว นัดที่แล้วขุนค้อนไม่สามารถ
สร้างสรรค์โอกาสได้เลยในเกมที่แพ้ต่อวิลล่าไป 0-1 ส่วนในเอฟเอคัพพวกเขาก็ต้องร่วงไปด้วยฝีมือของวัตฟอร์ต คู่แข่งที่จะเจอกัน
ทำให้มีหลายคนเริ่มสงสัยว่าเวสต์แฮม ทีมนี้มีคุณภาพมากแค่ไหน แต่แรงกระตุ้นจากแฟนเจ้าบ้านและความมุ่งมั้น จากการแพ้มาติดๆ
นั้นจะทำให้พวกเขากลับมา ดูแล้วถ้าจะถือหางขุนค้อนคงไม่เลวนัก
Verdict: West Ham 2 Watford 0
Portsmouth v Manchester City
นัดแรกที่เจอกันเมื่อเดือนสิงหคมปรากฏว่าเสมอกันไป0-0 ถือว่าเซอร์ไพร์เล็กๆ ทางฝั่งลูกทีมของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปพ์นั้นไม่ชนะใคร
มาตั้งแต่ช่วงบ็อกซิ่งเดย์แล้ว แต่ด้วยฟอร์มที่ดีจากเมื่อต้นฤดูกาลนั้นทำให้พวกเขายังคงรั้งอยู่ในอันดับที่ 7ของตาราง ซึ่งพอที่จะเล็ง
พื้นที่ยุโรปได้เหมือนกัน ทางฝั่ง สจ๊วต เพียร์ซ ที่กลับมาจากการคุมทีมชาติเมื่อกลางสัปดาห์ แต่ปัญหาหลักของทีมก็ยังอยู่ที่การผลิตสกอร์
ทำให้เพียร์ซอาจหันมาใช้บริการ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกดาวรุ่ง ส่วน นิคกี้ วีเวอร์ ผู้รักษาประตูของทีมนั้นยังไม่แน่ว่าจะลงได้หรือไม่
ซึ่งถทือเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว คาด ว่าความได้เปรียบของ พอร์ทสมัธ กับเกมในบ้านนั้นจะทำให้ผู้มาเยือนนั้นต้องลำบากทีเดียว
Verdict: Portsmouth 1 Manchester City 0
Reading v Aston Villa
สถานการณ์ของ แอสตัน วิลล่า ในฤดูกาลนี้ยังไม่ปลอดภัย เพราะภายหลังจากที่พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาล 2006-2007
ได้อย่างยอดเยี่ยม ในระยะหลัง ๆ บรรดานักเตะ "สิงห์ผงาด" โชว์ฟอร์มกันได้ไม่น่าประทับใจสักเท่าไร
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเข้ามาของ ยอห์น คาริว หัวหอกร่างโย่งชาวนอร์วีเจี้ยนและ แอชลี่ย์ ยัง ศูนย์หน้าดาวรุ่งดีกรี
ทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีที่ทีมดึงตัวมาจาก วัตฟอร์ด น่าจะช่วยกระตุ้นลูกทีมของ มาร์ติน โอนีล ให้คึกคักขึ้นได้ไม่
น้อย หลังจากที่ทั้งคู่เข้าขากันอย่างรวดเร็วแม้ว่าเพิ่งมีโอกาสลงเล่นด้วยกันเพียง 2 เกมเท่านั้น
ด้าน สตีฟ ค็อปเปลล์ กุนซือ เรดดิ้ง ยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนแม้ว่าจะทำทีมประสบความสำเร็จทะลุเป้าในการ
ประเดิมลงเล่นบนเวทีพรีเมียร์ชิพเป็นฤดูกาลแรก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานในช่วงหลัง ค็อปเปลล์ พาทีมเก็บชัย 4 นัดรวดจากการลงเล่นทุกรายการ ทำให้หลายฝ่าย
มองว่าการคว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในซีซั่นหน้าไม่ใช่เรื่องเกินเลยความจริงสำหรับพวกเขาแต่อย่างใด
จุดเด่นของ เรดดิ้ง ในฤดูกาลนี้คือโชว์ฟอร์มแกร่งยามลงเล่นที่ มาเดจสกี้ สนามเหย้าของทีม มีสถิติลงเล่น 13 นัด
ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 4 ขณะที่แนวรุกของทีมก็ไว้ใจได้เพราะ ลีรอย ลิต้า หัวหอกดาวรุ่ง กำลังเข้าฟอร์ม 3 นัดล่าสุดสอยตาข่ายคู่
แข่งไป 5 ตุง
สำหรับเกมในวันเสาร์นี้ เรดดิ้ง ดูมีภาษีดีกว่า แถมพวกเขาอยากจะล้างแค้นจากการที่เคยบุกไปเสียท่า วิลล่า 1-2 ที่
วิลล่า ปาร์ก ในช่วงต้นฤดูกาล เชื่อว่าถ้าการแข่งขันจบลงด้วยสกอร์เดิมแต่เปลี่ยนผู้ชนะเป็น เรดดิ้ง ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลย
Verdict: Reading 2 Aston Villa 1
Chelsea v Middlesbrough
โชเซ่ มูรินโญ่ ตั้งเป้าพาลูกทีมเดินหน้าอย่างเต็มตัวหวังเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่องเพื่อทำคะแนนไล่จี้ แมนเชสเตอร์
ยูไนเต็ด จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ชิพ ที่มีแต้มเหนือพวกเขาอยู่ 6 แต้มให้จงได้
สภาพทีมของกุนซือชาวโปรตุกีส ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ ปีเตอร์ เช็กและ จอห์น เทอร์รี่ กลับมาสู่ทีมทำให้
หลายฝ่ายเชื่อว่าพลพรรค "สิงห์บลูส์" จะรีดฟอร์มแกร่งเหมือนในช่วงต้นฤดูกาลได้อีกครั้ง โดยบริษัทรับพนันบางแห่งออกราคา
มาว่า เชลซี จะไม่แพ้ไปจนกระทั่งจบฤดูกาลนี้เลยทีเดียว
ด้าน มิดเดิ้ลสโบรช์ ของผู้จัดการหนุ่มอย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็กำลังเข้าฝักแพ้เพียงเกมเดียวจากการลงเล่น 11
นัดล่าสุดในทุกรายการ นอกจากนั้น "เดอะ โบโร่" ยังมีสถิติการเล่นที่ดียามเผชิญหน้ากับบรรดาทีมใหญ่ด้วย
อย่างไรก็ตามสถิติข้างต้นไม่น่าจะมีผลกับเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในช่วงสัปดาห์นี้ เชื่อว่า มิดเดิ้ลสโบรช์ จะมือ
เปล่ากลับ ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม ผลการแข่งขันที่ผิดแผกไปจากนี้จะกลายเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน
Verdict: Chelsea 3 Middlesbrough 1
Everton v Blackburn
การพบกันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ แบล็คเบิร์น ถือว่าเป็นมวยถูกคู่ เพราะในเวลานี้ทั้งสองทีมรั้งอันดับ 8 และ 9
ของลีก โดยขุนพล "ทอฟฟี่แมน" มีแต้มเหนืออาคันตุกะอยู่ 2 แต้ม
แมตช์นี้ เอฟเวอร์ตัน จะได้ลงเล่นที่ กูดิสัน ปาร์ก ต่อหน้าแฟนบอลตนเอง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าถิ่นได้เปรียบทีม
เยือนมากมายอะไร เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่เพิ่งลงดวลเกือกกันในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 ช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดย แบ
ล็คเบิร์น บุกมาถล่มไปขาดลอย 4-
ด้านผลงานล่าสุดของทั้งสองทีม แบล็คเบิร์น ทำได้แค่เพียงเสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-1 ที่ อีวู้ด ปาร์ก เมื่อ
สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน บุกไปแบ่งแต้ม ลิเวอร์พูล แบบไร้สกอร์ ในศึกเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ แต่สถานการณ์ของ เดวิด
มอยส์ ผู้จัดการทีม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" น่าจะดีขึ้นเมื่อจะได้ แอนดรูว์ จอห์นสัน ดาวยิงตัวความหวังกลับมาล่าตาข่ายอีกครั้ง ภาย
หลังสลัดคราบอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Verdict: Everton 1 Blackburn 1
Manchester United v Charlton
ชาร์ลตัน ใกล้เคียงกับการตกชั้นเข้าไปทุกที เพราะภายหลังจากที่พวกเขาพ่าย เชลซี คาถิ่น 0-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ส่งผลให้ในเวลานี้ "ดาบอัศวิน" มีเพียง 20 แต้มเท่านั้น
ในเกมนี้ อลัน พาร์ดิว ยังคงต้องเผชิญงานหนักเพราะต้องพาลูกทีมบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงศึกพรี
เมียร์ชิพ ที่กำลังร้อนแรงจากการบุกไปถลุง สเปอร์ส ถึง ไวท์ ฮาร์ท เลน 4-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เท่านั้นไม่พอสถิติการบุก
ไปเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ ชาร์ลตัน ก็ไม่ดีเลย เพราะแพ้รวดตลอดสี่ฤดูกาลหลังสุด ยิงได้ประตูเดียวและเสียมากถึง 12
ประตู
เชื่อว่านัดนี้ขุนพล "ปีศาจแดง" จะเป็นฝ่ายชนะอย่างไม่ต้องสงสัยเพียงแต่จะชนะด้วยผลห่างกี่ประตูเท่านั้น
Verdict: Manchester United 3 Charlton 0