เซนิตฯโปรดปรานการต้อนรับทีมโปรตุเกส (ชนะ 4 เสมอ 1) แต่ ปอร์โต้ ก็มักเล่นดีในทริปเยือนแดนหมีขาว (ชนะ 4 แพ้ 1)
Previous meetings
• คู่นี้เคยร่วมกลุ่มกันมาแล้วเมื่อฤดูกาล 2011/12 ซึ่งคราวนั้น เซนิตฯ ทำผลงานได้ดีกว่า โดยทีมของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เปิดบ้านชนะก่อนในสัปดาห์ที่ 2 ของการแข่งขันด้วยสกอร์ 3-1 ซึ่ง ปอร์โต้ ขึ้นนำก่อนตั้งแต่ 10 นาทีแรกจาก เจมส์ โรดริเกวซ แต่เจ้าบ้านทวงคืนสามเม็ดซ้อนจาก โรมัน ชิโรคอฟ (น.20, 63) และ แดนนี่ (น.72) โดยนัดนั้นทีมเยือนเหลือผู้เล่นสิบคน เพราะฟูลแบ็ก ฮอร์เก้ ฟูซิเล่ โดนใบแดง
• สำหรับเลกสองที่แดนฝอยทอง ทางด้าน ปอร์โต้ ในยุคการทำทีมของ วิเตอร์ เปไรร่า จำเป็นต้องชนะเพื่อเข้ารอบ แต่ เซนิตฯ ต้องการแค่ผลเสมอเพื่อตั๋วรอบน๊อคเอาท์ ซึ่งสุดท้ายเป็นแขกรับเชิญจากรัสเซียที่บรรลุผล เพราะเกมจบลงแบบไร้สกอร์ 0-0
Match background
• ปอร์โต้มีสถิติน่าประทับใจในการบุกแดนหมีขาว เพราะ 5 ครั้งก่อนหน้านี้สามารถกลับออกมาพร้อมชัยชนะถึง 4 หนและพลาดท่าแค่หนเดียว
• ฤดูกาลนี้ เซนิตฯ ชิมลางดวลทีมสัญชาติโปรตุกีสมาแล้ว โดยเป็นฝ่ายเปิดบ้านถล่ม ปากอส แฟร์ไรร่า อดีตทีมเก่าของ เปาโล ฟอนเซก้า กุนซือคนปัจจุบันของ ปอร์โต้ ขาดลอย 4-2 ในรอบเพลย์อ๊อฟ พร้อมกับทะยานเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 2 นัด 8-3
• เซนิตฯ ไม่เคยพลาดท่าแขกรับเชิญจากแดนฝอยทองคารัง โดยครองสถิติการดวลเกือกกับทีมโปรตุเกสที่ ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 0 สำหรับเหยื่อรายแรกของทีมแกร่งแห่ง เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก คือ วิตอเรีย ซึ่งต้องย้อนไปในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า คัพ ดูกาล 2005/06 ซึ่งคราวนั้น เซนิตฯ เฉือนชนะ 2-1 โดยได้ประตูชัยจาก อังเดร อาร์ชาวิน