แนวรับสี่พระกาฬจากซีซั่นก่อนของ ดอร์ทมุนด์ เวลานี้เดี้ยงถ้วนหน้าและไม่พร้อมลงช่วยทีมชน บาเยิร์น สักราย
ศึกลูกหนังเมืองเบียร์ประจำสัปดาห์ที่ 13 สปอตไลท์ถูกยิงไปที่สังเวียนแข้ง ซิกนัล อิดูน่า เพราะเป็นการโคจรมาพบกันระหว่างสองมหาอำนาจลูกหนังของประเทศที่เวลานี้จับจองสัมปทานหัวแถวของตารางอยู่ โดยล่าสุด "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ มีคะแนนตามหลังแชมป์เก่า บาเยิร์น อยู่ 4 แต้ม ทำให้ผลลัพธ์ของเกมถูกยกให้เป็นอีกตัวแปรสำคัญต่อการคว้าแชมป์
ภาระอันหนักอึ้งตกอยู่บนบ่าของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เฮ้ดโค้ชสมองเพชรของ ดอร์ทมุนด์ เพราะประวัติมันฟ้องว่าดวลกัน 6 หนท้าย "เสือเหลือง" เพิ่งสยบคู่แข่งชาวบาวาเรี่ยนได้หนเดียว (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 3) แต่หากนับเฉพาะการเผชิญหน้าที่ ซิกนัล อิดูน่า 5 หนท้ายพวกเขายังไม่เคยเพลี่ยงพล้ำ บาเยิร์น คาถิ่น (ชนะ 4 เสมอ 1)
ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในแคมป์ "เสือเหลือง" คืออาการบาดเจ็บของตัวหลักที่กลายเป็นโรคติดต่อมาตั้งแต่ตอนออกสตาร์ทฤดูกาล เริ่มแรก ลูคัส พิสเซ็ค แบ็กขวาดีกรีทีมชาติโปแลนด์ต้องขึ้นเขียงผ่าตัดสะโพกและต้องพักฟื้นยาว ซึ่ง คล็อปป์ แก้เกมด้วยการถอย เควิน โกร้สครอยซ์ ที่แจ้งเกิดมาในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุกนั้นถอยมาอุดรูรั่วฝั่งขวาของหลังบ้าน
ถัดมาเป็นคิวเข้าโรงหมอของ เนเว่น ซูโบติช เซนเตอร์แบ็กเลือดเซิร์บ แต่เคราะห์ดีว่าเวลานั้นทีมยังมีอะไหล่ชั้นดีอย่าง โซเครติส ปาปาสตาโธปูลอส ที่เซ้งมาจาก ชาลเก้ ทว่าล่าสุดขณะที่ ซูโบติช เพิ่งหายฟื้นตัว ข่าวร้ายที่เวียนมาหา คล็อปป์ คือดูโอแนวรับทีมชาติเยอรมัน ทั้ง มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์และแบ็กซ้าย มาร์เซล ชเมลเซอร์ เจ็บเพิ่มและต้องถอนตัวจากบิ๊กแมตช์สุดสัปดาห์นี้เรียบร้อย
หน้าตาแผงหลัง ดอร์ทมุนด์ คร่าว ๆ คือ เอริก ดุม ดาวรุ่งวัย 18 ปี, โกร้สครอยซ์และ โซเครติส เป็นตัวยืน แต่ถ้าจับมารวมกันแล้วไม่เวิร์ค ก็มีทางเลือกอื่นให้ คล็อปป์ ไม่มากนัก เพราะเหลือแค่ ยาคุบ บลาสซคอฟสกี้ ตัวรุกโปแลนด์หรือเยาวชนอย่าง โคราย กุนเธอร์ (19 ปี) และแข้งสำรอง โอลิเวอร์ เคิร์ช ซึ่งสองคนหลังปีนี้เพิ่งลงเล่นเกมลีกไปรายละนัดเท่านั้น
คล็อปป์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเซ็นสัญญาระยะสั้นกับ มานูเอล ฟรีดริช อดีตเซนเตอร์แบ็กระดับตัวทีมชาติ ที่เวลานี้ไร้สังกัดในวัย 34 ปี แต่สถานการณ์ก็ยังดูน่าเป็นห่วง เมื่อเทียบกับภารกิจดวลเกมบุก บาเยิร์น ที่มีทั้ง มาริโอ มานด์ซูคิช, ฟร้องค์ ริเบรี่, อาร์เยน ร๊อบเบน, มาริโอ เกิทเซ่และ โธมัส มุลเลอร์ โดยหลังจบแมตช์นี้ ดอร์ทมุนด์ มีคิวต้อนรับ นาโปลี รออยู่ด้วย
สำหรับ บาเยิร์น มีนักเตะลงฝึกซ้อมเมื่อช่วงเช้าวันพุธไม่ถึงครึ่งทีม แต่ก็ไม่แปลกเพราะดาวดังเกือบทั้งหมดได้รับไฟเขียวให้พัก เนื่องจากเพิ่งผ่านเกมทีมชาติมาเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ส่วน ธิอาโก้ อัลกานตาร่า หายเจ็บและมีชื่อเป็นสำรองมาตั้งแต่เกมกับ เอ๊าก์สบวร์ก ซึ่งยามนี้ที่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เดี้ยง ก็คงไม่มีช่องทางไหนเหมาะกับการคัมแบ็กของเด็กสเปนไปกว่านี้อีกแล้ว
ความเคลื่อนไหวจากค่ายอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือ "สิงห์เหนือ" ฮัมบูร์ก ต้องต้อนรับ ฮันโนเวอร์ โดยปราศจากกัปตันทีม ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ภายหลังที่เพลย์เมคเกอร์ดัตช์แมนเจ็บเอ็นข้อเท้าขวาระหว่างเกมกระชับมิตรกับ โคลอมเบีย ซึ่งทีมแพทย์ยังระบุไม่ได้ว่าจะต้องพักนานขนาดไหน แต่เบื้องต้น ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ชวดบู๊ช่วงสุดสัปดาห์นี้แน่
ขณะที่ คลาส แยน ฮุนเตล่าร์ นักล่าตาข่ายจาก ชาลเก้ ซวยซ้ำซวยซ้อน เพราะเพิ่งหายเจ็บกลับมาแท้ ๆ แต่พอลงซ้อมอาการที่เอ็นหัวเข่าดันกำเริบขึ้นอีก ส่งผลให้ต้องผ่าตัดเพิ่มเติมและมีเกณฑ์ต้องเลื่อนการคืนสนามไปต้นปีหน้าเลย โดยเมื่อถูกถามถึงการมีส่วนร่วมกับทีมชาติฮอลแลนด์ในศึก เวิลด์ คัพ ที่กำลังงวดเข้ามา หัวหอกสมญานาม "ฮันเตอร์" กล่าวยอมรับสภาพว่าต้องรอดูอาการก่อน แต่หากตนฟิตมั่นใจว่าได้หิ้วกระเป๋าไปกับทัพดัตช์แน่
สำหรับภาพรวมผลงานล่าสุดของทีมแดนไส้กรอก นอกเหนือจากจ่าฝูง บาเยิร์น ที่โชว์ฟอร์มแรงสุดสมฐานะ (ชนะ 5 เสมอ 1) สามสโมสรที่ผลงานโดดเด่นจนต้องติดตามคือ ชาลเก้, เลเวอร์คูเซ่นและ กลัดบัค ซึ่ง 6 นัดท้ายควงแขนกันครองสถิติ ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ส่วนทีมโชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง มี แฟร้งค์เฟิร์ต, เนิร์นแบร์กและ ฮันโนเวอร์ ที่หวดเกมลีก 6 นัดท้ายยังควานหาสามแต้มไม่เจอ
โปรแกรมฟุตบอลบุนเดสลีก้า สัปดาห์ที่ 12
วันศุกร์ 22 พฤศจิกายน
สตุ๊ตการ์ต -vs- กลัดบัค (02.30 น.)
วันเสาร 23 พฤศจิกายน
เนิร์นแบร์ก -vs- โวล์ฟสบวร์ก (21.30 น.)
เอ๊าก์สบวร์ก -vs- ฮอฟเฟ่นไฮม์ (21.30 น.)
บราวน์ชไวก์ -vs- ไฟร์บวร์ก (21.30 น.)
แฟร้งค์เฟิร์ต -vs- ชาลเก้ (21.30 น.)
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน -vs- เลเวอร์คูเซ่น (21.30 น.)
ดอร์ทมุนด์ -vs- บาเยิร์น (00.30 น.)
วันอาทิตย์ 24 พฤศจิกายน
ฮัมบูร์ก -vs- ฮันโนเวอร์ (21.30 น.)
เบรเมน -vs- ไมนซ์ (23.30 น.)
