สถิติน่าสนใจ แชมเปี้ยนส์ ลีก : เรอัล มาดริด -vs- ดอร์ทมุนด์
เรอัล มาดริด เตรียมสะสางบัญชีแค้นหลังจากโดน ดอร์ทมุนด์ เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ เมื่อซีซั่นก่อนแบบเจ็บแสบ ที่บุกไปแพ้ที่เยอรมันมาก่อน 1-4 ก่อนจะมาเร่งเครื่องยิง 2-0 ใน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ทว่าเวลาไม่พอส่งผลให้พลพรรค "ลอส บลังกอส" ตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 3-4 พร้อมทั้งตกรอบตัดเชือกเป็นหนที่สามติดต่อกันอีกด้วย
Match background
• เรอัล มาดริด หวังต่อยอดสถิติเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นหนที่สี่ติดต่อกัน หลังจาก "ราชันชุดขาว" สามารถตั๋วเข้ารอบตัดเชือกในสามฤดูกาลหลังได้แบบร้อยเปอร์เซน
• เรอัล มาดริด มีสถิติที่ค่อนข้างดีในการรับมือทีมเมืองเบีย หลังจาก 25 หนก่อนหน้านี้ "ราชันชุดขาว" สามารถเก็บชัยไปได้ถึง 19 ครั้ง เสมอ 4 และแพ้แค่สองหน ให้ บาเยิร์น มิวนิค เพียงทีมเดียวเท่านั้นในปี 2000 และ 2001
• อย่างไรก็ตามสำหรับรายการที่ต้องเล่นสองเลก ปรากฎว่าทีมจากเมืองหลวงประเทศสเปนดีกว่าทีมเยอรมันเล็กน้อย หลังตีตั๋วเข้ารอบ 12 และตกรอบ 8 จากทั้งหมด 20 ครั้ง
• ดอร์ทมุนด์ มีสถิติที่ไม่สู้ดีในการมาเยือนแดนกระทิงดุ เพราะ 11 ครั้งก่อนหน้านี้เก็บชัยไปได้แค่หนเดียว เสมอ 4 และแพ้ไปถึง 6 ครั้ง ซึ่งชัยชนะดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 1996/97 ในรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการบุกมาเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ด้วยสกอร์ 1-0
• ถึงกระนั้นสำหรับการเจอกันสองเลก ปรากฎกว่าทีมจากเยอรมันรายนี้ถือว่ามีผลงานที่ไม่เลวที่สามารถผ่านเข้ารอบได้ 5 และตกรอบไปเพียงสองหนจากทั้งหมด 7 ครั้ง
• เรอัล มาดริด เป็นทีมเดียวในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่สามารถเอายิงประตูได้ถึง 6 ลูกในเลกเดียว ที่เอาชนะ ชาลเก้ ทีมจากเยอรมัน 6-1 และรวมสองนัดเป็นทีมจากสเปนที่เก็บชัยไปด้วยสกอร์ 9-2 พร้อมส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นทำเนียบดาวยิง หลังแข้งโปรตุกีสใส่สกอร์ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มได้ 13 ตุง ตามหลัง โฆเซ่ อัลตาฟินี่ (1962/63) และ ลิโอเนล เมสซี่ (2011/12) แค่ประตูเดียวเท่านั้น
• คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าจอมถล่มประตูของ เรอัล มาดริด จัดการไป 9 ประตูในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่รายการนี้พร้อมกับช่วยให้ "ราชันชุดขาว" กวาดชัยใน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในรอบแบ่งกลุ่มสามนัดรวด โคเปนเฮเก้น 4-0, ยูเวนตุส 2-1 และ กาลาตาซาราย 4-1
• นาทีนี้ใครมาเยือน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ก็ต้องหนาว เพราะ เรอัล ทำสถิติชนะรวดในเกมยุโรปหกเกมติด และใส่สกอร์ไปได้ถึง 18 ประตู เฉลี่ยสามลูกต่อเกม
• รอบนี้เมื่อปีที่แล้ว เรอัล มาดริด เปิดรังรัว กาลาตาซาลาย โคตรทีมจากตุรกีไปได้ในเลกแรก 3-0 ก่อนจะบุกไปแพ้ที่ ตุรกี 2-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นหนที่ 24 ไปแบบสะดวกโยธิน ทว่ากลับต้องจอดป้ายด้วยน้ำมือของ ดอร์ทมุนด์ ม้ามืดเมื่อปีที่แล้วไปแบบพลิกล็อค
• คาร์โล อันเชล็อตติ ประสบความสำเร็จทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีมที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาทั้งสิ้นสี่สมัย และระหว่างนั้นเคยดวลกับทีมเยอรมัน 10 หน ปรากฎว่า ชนะ 5 เสมอ 1 และแพ้ 4 ตามลำดับ
• ทีม เสือเหลือง ผ่านรอบ 16 ทีมชุดท้ายมาแบบหืดจับเหนือ เซนิตฯ ด้วยสกอร์รวม 5-4 โดยเลกแรกบุกมาลูบคม เซนิตฯ ถึง รัสเซีย ก่อน 4-2 ก่อนจะมาแพ้ที่ ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค บ้านตัวเอง 1-2
• ดอร์ทมุนด์ ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจจะเปิดตัวเกมเยือนรายการยุโรปฤดูกาลนี้ไม่ดีเท่าไหร่ที่บุกไปพ่าย นาโปลี ที่ เนเบิ้ลส์ 1-2 ทว่าสามนัดให้หลัง เสือเหลือง ก็สามารถงัดฟอร์มเก่งกวาดชัยนอกรังสามนัดรวดจนมาถึงรอบนี้
• รอบ 8 ทีม เมื่อปีที่แล้วของ ดอร์ทมุนด์ คือการบุกมาเยือนสเปนที่สนาม ลา โรซาเลด้า ของ มาลาก้า ในเลกแรกจบด้วยผลเสมอแบบโนสกอร์ 0-0 ก่อนที่ทีมจากนอร์ธไรน์เวสต์ฟาเลียจะเปิดรังเชือด มาลาก้า ในช่วงทดเจ็บที่บ้านตัวเอง 3-2 เข้ารอบแบบสุดตื่นเต้น
สถิติอื่น ๆ
• ถ้า เรอัล มาดริด ผ่าน ดอร์ทมุนด์ เข้ารอบไปได้ จะเป็นการทะลุเข้ารอบตัดเชือกเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน
• ราชันชุดขาว เป็นหนึ่งในสองทีมที่ไม่แพ้ใครตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม และใส่สกอร์ได้ทั้งหมดถถึง 29 ประตู ซึ่ง 20 ประตูจากรอบแบ่งกลุ่มคือสถิติที่เยอะที่สุดในรายการนี้เทียบเท่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1998/99 และ บาร์เซโลน่า ในปี 2011/12
• คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เตรียมลงเล่นเกมยุโรปเป็นนัดที่ 100 ในค่ำคืนนี้ และที่ผ่านมาดาวยิงชาวโปรตุกีสสามารถทำประตูไปได้ทั้งหมดถึง 63 ประตู
• โรนัลโด้ นอกจากจะใส่สกอร์ 9 ลูกขึ้นทำเนียบดาวยิงสูงสุดหากนัดเฉพาะรอบแบ่งกลุ่ม เหนือ รุด ฟาน นิสเตลรอย, ฟิลิปโป้ อินซากี้, เอร์นาน เครสโป และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ 8 ประตูแล้ว เจ้าตัวยังมีสถิติการทำประตูที่ใครเห็นก็ต้องอึ้งเพราะยิงไปได้ 32 ประตูจากการลงสนาม 25 นัดในรายการนี้อีกด้วย
• เรอัล มาดริด เกมรุกใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือว่าฮาร์ดคอร์สุด ๆ หลังจากพังประตูติดต่อกันมา 33 นัดเข้าไปแล้ว