วิเคราะห์บอล แชมเปี้ยนส์ ลีก : แอต.มาดริด -vs- เชลซี
แอตเลติโก มาดริด (สเปน, 1) -vs- เชลซี (อังกฤษ, 2) ... (01.45 น.)
สนาม : บิเซนเต้ กัลเดร่อน
ราคาบอล : แอต.มาดริด ต่อ ครึ่งลูก
การพบกันล่าสุด
01/09/12 เชลซี แพ้ แอต.มาดริด 1-4 ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ
04/11/09 แอต.มาดริด เสมอ เชลซี 2-2 แชมเปี้ยนส์ ลีก
22/10/09 เชลซี ชนะ แอต.มาดริด 4-0 แชมเปี้ยนส์ ลีก
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้
แอตเลติโก มาดริด
10/04/12 ชนะ บาร์เซโลน่า 1-0 (เหย้า)
02/04/14 เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1 (เยือน)
12/03/14 ชนะ เอซี มิลาน 4-1 (เหย้า)
20/02/14 ชนะ เอซี มิลาน 1-0 (เยือน)
12/12/13 ชนะ ปอร์โต้ 2-0 (เหย้า)
เชลซี
09/04/14 ชนะ เปแอสเช 2-0 (เหย้า)
03/04/14 แพ้ เปแอสเช 1-3 (เยือน)
19/03/14 ชนะ กาลาตาซาราย 2-0 (เหย้า)
27/02/14 เสมอ กาลาตาซาราย 1-1 (เยือน)
12/12/13 ชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 1-0 (เหย้า)
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
แอตเลติโก มาดริด
19/04/14 ชนะ เอลเช่ 2-0 (เหย้า) ต่อ 1.75 ... ได้ครึ่ง
14/04/14 ชนะ เกตาเฟ่ 2-0 (เยือน) ต่อ 1 ... ได้
10/04/12 ชนะ บาร์เซโลน่า 1-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก / รอง ปป ... ได้
05/04/14 ชนะ บียาร์เรอัล 1-0 (เหย้า) ต่อ 1 ... เจ๊า
02/04/14 เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก / รอง 1 ... ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 18 ชนะ 15 เสมอ 3 แพ้ 0 ได้ 48 เสีย 9 ประตู
เชลซี
19/04/14 แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-2 (เหย้า) ต่อ 0.75 ... เสีย
13/04/14 ชนะ สวอนซี 1-0 (เยือน) ต่อ 0.75 ... ได้ครึ่ง
09/04/14 ชนะ เปแอสเช 2-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 0.75 ... ได้
05/04/14 ชนะ สโต๊ค 3-0 (เหย้า) ต่อ 1.5 ... ได้
03/04/14 แพ้ เปแอสเช 1-3 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก รอง 0.5 ... เสีย
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 17 ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 5 ได้ 24 เสีย 15 ประตู
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
แอตเลติโก มาดริด ของเทรนเนอร์ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของฤดูกาล เพราะนอกจากหักด่านอริร่วมชาติอย่าง บาร์เซโลน่า ด้วยสกอร์ 2-1 (เยือน 1-1, เหย้า 1-0) ทีมตราหมี ยังรักษาสถิติเป็นทีมเดียวใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยังไม่แพ้ใครตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม (10 นัด ชนะ 8 เสมอ 2) ประกอบกับฟอร์มใน บิเซนเต้ กัลเดร่อน อยู่ในระดับมาสเตอร์พีชเก็บชัยมาห้านัดรวดและสามหนหลังเป็นการเอาชนะ ปอร์โต้, เอซี มิลาน และ บาร์ซ่า ที่มีดีกรีเคยเป็นแชมป์รายการนี้ทั้งสิ้นอีกด้วย
ประกอบกับความพร้อมพลพรรค "ลอส โรฆิบลังกอส" ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบนเพิ่มเติม และยังจะได้ตัว อาร์ด้า ตูราน ตัวริมเส้นชาวตุรกีสลัดคราบเดี้ยงกลับมาเป็นตัวเลือก ขณะที่ ดีเอโก้ กอสต้า (32 นัด, 27 ประตู) กองหน้าเบอร์หนึ่งที่หน้าแข้งแตกในจังหวะชาร์จทำประตูในแมตช์ฉะ เกตาเฟ่ สลัดคราบเดี้ยงกลับมาเป็นตัวเลือกในเกมรุกในนัดกับ เอลเช่ ได้แล้ว แม้ว่าจะไม่ฟิตเต็มร้อย แต่คาดว่า ซิเมโอเน่ ก็น่าจะเข็นลงสนามเป็นความหวังสูงสุดในการเบิกสกอร์เหมือนเดิม
ตัวเจ็บ : -
ตัวแบน : -
ฟากทีมเยือน โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม เชลซี หนีบลูกทีมแดนคนสู้วัวทั้งหมด 20 ชีวิต ซึ่งจะไม่มี ซามูเอล เอโต้ กองหน้าตัวเก๋าวัย 33 ปีที่ได้รับบาดเจ็บในนัดฉะ ซันเดอร์แลนด์ เบื้องต้นคาดว่า จ่ามู จะส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงลูกหม้อของ แอต.มาดริด ลงรับบทตัวเป้า เช่นเดียวกับ เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า ที่ยืนแบ็กซ้ายถาวรในช่วงหลังจะย้ายมาคุมเกมรับทางด้านขวารองรับการขาดหายไปของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แบ็กเซอร์เบีย ที่ติดโทษแบนเนื่องจากสะสมใบเหลืองครบโควต้า
อย่างไรก็ตาม เชลซี ยังมีอยู่บ้างเมื่อจะได้ตัว เอแด็น อาซาร์ (33 นัด, 14 ประตู) ปีกตัวจี๊ดชาวเบลเยี่ยม กับ ปีเตอร์ เช็ก (34 นัด) ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ที่หลุดโผในเกมล่าสุด สลัดคราบเดี้ยงกลับมาเป็นตัวเลือก เช่นเดียวกับ รามิเรส (30 นัด, 1 ประตู) มิดฟิลด์ตัวตัดเกม พ้นโทษแบนในรอบที่แล้ว กลับมาเสริมแดนกลางเช่นกัน ขณะที่ เนมันย่า มาติช (14 นัด) กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (7 นัด, 2 ประตู) จะหมดสิทธิ์ลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เนื่องจากติด คัพ-ไท (ลงเล่นให้กับสโมสรอื่นมาแล้ว)
ตัวเจ็บ
กองหน้า : ซามูเอล เอโต้ (21 นัด, 9 ประตู)
ตัวแบน
กองหลัง : บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (33 นัด, 3 ประตู)
ติด คัพ-ไท
กองกลาง : เนมันย่า มาติช (14 นัด) กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (7 นัด, 2 ประตู)
ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง
แอต.มาดริด (4-2-3-1) : ธิบอต์ กูร์ตัวส์ - ฆวนฟราน, เชา มิรานด้า, ดีเอโก้ โกดิน, เฟลิเป้ ลูอิส - ติอาโก้ เมนเดส, กาบี เฟร์นานเดซ - ราอูล การ์เซีย, โกเก้ - ดาบิด บีย่า, ดีเอโก้ กอสต้า
ผู้จัดการทีม : ดีเอโก้ ซิเมโอเน่
เชลซี (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก - เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ดาวิด ลุยซ์ - วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส
ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
ทรรศนะ
บ่อนพนันถูกกฎหมายถือหาง แอต.มาดริด ให้มีภาษีดีกว่าแชมป์ยุโรปฤดูกาล 2011/12 จากแดนผู้ดี ที่จะกรุยทางผ่านเข้านัดชิงชนะเลิศ ปัจจัยหลักอาจเป็นเพราะ เชลซี ฟอร์มการเล่นยังขาดความคงเส้นคงวา โดยเฉพาะแนวรับที่เคยเป็นจุดขายสมัยก่อนเวลานี้กลายเป็นจุดอ่อนในจังหวะที่โดนกดดันหนัก ๆ มักพลาดกันง่าย ๆ เหมือนในทริปบุก ปาร์ก เดส์ แพร็งส์ ที่โดน เปแอสเช กระหน่ำซัมเมอร์เซลล์จนโงหัวไม่ขึ้นแพ้ไปตามระเบียบ 1-3
ประกอบกับ แอต.มาดริด เกมในบ้านดุดันเล่นแบบไม่กลัวใครและ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ค่อนข้างคุ้นมือกับการทำทีมของ มูรินโญ่ สมัยที่ จ่ามู คุม เรอัล มาดริด ปะแข้งกันสี่หนแม้ว่าจะเป็น มูรินโญ่ ที่เก็บชัยไปได้มากกว่า ทว่าหลังจากนั้น ทีมตราหมี ของ "เอล โชโล่" ค่อย ๆ ยกระดับการเล่นขึ้นเรื่อย ๆ จนมาเอาชนะ เรอัล ใน โกปา เดล เรย์ นัดชิงชนะเลิศได้ในที่สุด เชื่อเหลือเกินว่ารูปแบบการทำทีมของ มูรินโญ่ ไม่ว่าจะคุมทีมไหนสไตล์การเล่นก็ไม่ค่อยต่างจากเดิม ซิเมโอเน่ น่าจะรู้ทางหนีทีไล่และอาศัยฟอร์มการเล่นที่กำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของฤดูกาลกดดันจุดอ่อนในแผงหลังของ เชลซี บดเอาชนะผู้มาเยือนจากอังกฤษไปได้แบบไม่พลิกโผ
ฟันธง : ต่อ แอต.มาดริด ชนะ 2-1
อัตราความมั่นใจ : 8/10
22 / 04 / 2014 14:14