ดราม่าดาร์บี้! "ชุดขาว"ขโมยซีนถล่ม"ตราหมี"ต่อเวลา 4-1
ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ในค่ำคินวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นเกมที่สนาม อสตาดิโอ โด สปอร์ต ลิสเบา เอ เบนฟิก้า สนามกลางรังเหย้าของ เบนฟิก้า ซึ่งเป็นการพบกันของสองทีมจากเมืองมาดริดอย่าง เรอัล มาดริด กับ แอตเลติโก มาดริด โดยทั้งสองทีมลงฟาดแข้งกันในเวลา 01.45 น. เข้าสู่เช้าวันอาทิตย์ตามเวลาในประเทศไทย
คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือของ "ราชันชุดขาว" วางหมากมาในระบบ 4-3-3 โดยส่ง แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเป็นสามประสานในเกมรุก ส่วนทางฝั่งทีม "ตราหมี" ของเทรนเนอร์ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ จัดทัพมาในแผนการเล่น 4-4-2 และส่ง ดาบิด บีย่า ยืนคู่กับ ดีเอโก้ คอสต้า ในแดนหน้า
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก เป็นทางฝั่ง เรอัล มาดริด ที่ทำเกมได้ดีกว่าในช่วง 15 นาทีแรก มีจังหวะให้ได้ลุ้นพอสมควร แต่หลังจากนั้นอีก 20 นาที รูปเกมเป็นทางด้าน แอต.มาดริด ที่ดูดีกว่า จนกระทั่งในนาทีที่ 36 ทีม "ตราหมี" ขึ้นนำ 1-0 จากลูกเปิดของ ฆวนฟราน ก่อนที่บอลจะโค้งมาหา ดีเอโก้ โกดิน โขกส่วนตัวของ อีเกร์ กาซิยาส นายด่านของ "ชุดขาว" ที่กะจังหวะพลาด เข้าไปไม่เหลือ จบ 45 นาที แอต.มาดริด นำอยู่ 1-0
กลับมาลงสนามกันต่อในครึ่งเวลาหลัง โมเมนตัมของเกมก็ยังคงเป็นทางฝั่ง "ราชันชุดขาว" ที่หวังจะทำประตูตีเสมอ จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกม ในนาทีที่ 90+3 เรอัล มาดริด ไล่ตีเสมอปาฏิหาริย์ 1-1 จากการขึ้นโขกของ เซร์กิโอ รามอส กองหลังจอมพังประตู ขึ้นโหม่งเอาชนะ โกดิน ที่ประกบอยู่ได้อย่างเหนือชั้น หมดสิทธิ์ที่ ธิบอต์ กูร์ตัวส์ นายทวารของ "ตราหมี" จะป้องกันได้ จบเกม 90 นาที ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก ต่างฝ่ายต่างเล่นกันแบบเก็บแรง และก็ทำอะไรกันไม่ได้ ซึ่งดูเหมือนว่าเกมจะต้องจบลงด้วยการดวลลูกจุดโทษ แต่เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง ในนาทีที่ 110 แกเร็ธ เบล โหม่งซ้ำจากจังหวะเซฟของ กูร์ตัวส์ พาทีมแซงนำ 2-1 ทำให้ แอต.มาดริด ต้องเดินหน้าแบบหลังชนฝาอีกครั้ง
แต่ในนาทีที่ 118 เรอัล มาดริด หนีห่างเป็น 3-1 จากการกระชากลากเลื้อยของ มาร์เซโล่ ก่อนจะซัดด้วยซ้าย บอลไม่ห่างตัวของ กูร์ตัวส์ มากนัก แต่ว่าบอลพุ่งแรงทะลุเซฟของเขาเข้าไป เท่านั้นยังไม่พอ ในนาทีที่ 120 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดจุดโทษให้ทีมตอกฝาโลง 4-1 ก่อนะจบเกมลงไปด้วยสกอร์นี้ ดราม่าดาร์บี้ "ชุดขาว" ขโมยซีน ถล่ม "ตราหมี" ต่อเวลา 4-1 หลังจบเกมมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่าง ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กับนักเตะของ เรอัล มาดริด เล็กน้อย แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์บานปลายแต่อย่างใด