ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2014
วิเคราะห์บอล ฟุตบอลโลก กลุ่มบี
สเปน (-) -vs- ฮอลแลนด์ (-) ... (02.00 น.)
สนาม : ไอตาอิปาว่า อารีน่า (บาเฮีย)
ราคาบอล : สเปน ต่อ ครึ่งควบลบห้า
การพบกันล่าสุด
12/07/10 ฮอลแลนด์ แพ้ สเปน 0-1 (สเปนชนะต่อเวลา 1-0)
27/03/02 ฮอลแลนด์ ชนะ สเปน 1-0
15/11/00 สเปน แพ้ ฮอลแลนด์ 1-2
16/11/83 ฮอลแลนด์ ชนะ สเปน 2-1
16/02/83 สเปน ชนะ ฮอลแลนด์ 1-0
23/01/80 สเปน ชนะ ฮอลแลนด์ 1-0
02/05/73 ฮอลแลนด์ ชนะ สเปน 3-2
30/01/57 สเปน ชนะ ฮอลแลนด์ 5-1
05/09/20 ฮอลแลนด์ แพ้ สเปน 1-3
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
สเปน
08/06/14 ชนะ เอลซัลวาดอร์ 2-0 (กลาง) กระชับมิตร / ต่อ 3.0 ... เสีย
31/05/14 ชนะ โบลิเวีย 2-0 (เหย้า) กระชับมิตร / ต่อ 2.25 ... เสีย
06/03/14 ชนะ อิตาลี 1-0 (เหย้า) กระชับมิตร / ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
20/11/13 แพ้ แอฟริกาใต้ 0-1 (เยือน) กระชับมิตร / ต่อ 2.0 ... เสีย
17/11/13 ชนะ กินี 2-1 (เยือน) กระชับมิตร / ต่อ 3.0 ... เสีย
ฮอลแลนด์
05/06/14 ชนะ เวลส์ 2-0 (เหย้า) / ต่อ 2.0 ... เจ๊า
01/06/14 ชนะ กาน่า 1-0 (เหย้า) / ต่อ 1.25 ... เสียครึ่ง
18/05/14 เสมอ เอกวาดอร์ 1-1 (เหย้า) / ต่อ 0.75 ... เสีย
06/03/14 แพ้ ฝรั่งเศส 0-2 (เยือน) / รอง 0.5 ... เสีย
20/11/13 เสมอ โคลอมเบีย 0-0 (เหย้า) อุ่นเครื่อง / ต่อ ปป ... เสียครึ่ง
ฟอร์ม 5 นัดหลังในฟุตบอลโลก
สเปน
12/07/10 เสมอ ฮอลแลนด์ 0-0 (ชนะต่อเวลา 1-0)
16/06/10 แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0-1
22/06/10 ชนะ ฮอนดูรัส 2-0
26/06/10 ชนะ ชิลี 2-1
30/06/10 ชนะ โปรตุเกส 1-0
ฮอลแลนด์
12/07/10 เสมอ สเปน 0-0 (แพ้ต่อเวลา 0-1)
14/06/10 ชนะ เดนมาร์ก 2-0 กลาง รอบแบ่งกลุ่ม
19/06/10 ชนะ ญี่ปุ่น 1-0 กลาง รอบแบ่งกลุ่ม
25/06/10 ชนะ แคเมอรูน 2-1 กลาง รอบแบ่งกลุ่ม
28/06/10 ชนะ สโลวาเกีย2-1 กลาง รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือทีมชาติ สเปน เตรียมพาลูกทีมป้องกันแชมป์ศึกเวิลด์ คัพ 2014 ที่บราซิล โดยเกมแรกจะพบกับของแข็งอย่างทีมชาติฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นการรีแมตช์ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อ 4 ปีก่อน ทั้งนี้ ความพร้อมของทัพ "กระทิงดุ" ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ เมื่อเอาชนะโบลิเวีย และ เอลซัลวาดอร์ ไปด้วยสกอร์ 2-0 แต่หากมองจากรูปเกมยังไม่ถือว่าน่าประทับใจ และสกอร์ดังกล่าวถือว่าน้อยเกินไป หากมองจากมาตรฐานของทีมที่ห่างกันเยอะ
อย่างไรก็ตาม เดล บอสเก้ มีข่าวดีเข้ามา ภายหลังที่ ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าตัวเก่ง หายเจ็บลงเคาะสนิมในนัดทุบเอลซัลลวาดอร์ ร่วม 74 นาที จนป่านนี้ก็น่าจะฟิตเต็มร้อย พร้อมล่าตาข่ายตั้งแต่นาทีแรก ส่งผลให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ ดาบิด บีย่า อีกสองดาวยิงจอมเก๋าต้องหลุดไปนั่งสำรอง
ขณะที่ 3 กองกลางตัวคุมจังหวะเกม ไม่น่าจะพลิกโผ นำโดยเจ้าเก่าอย่าง ชาบี เอร์นานเดซ, ชาบี อลองโซ่ และ เซร์กิโอ บุสเก็ตส์ โดยมี ซานติ กาซอร์ล่า เป็นตัวสอดแทรก พร้อมกับดัน อีเนียสต้า ไปเล่นเกมรุกทางฝั่งซ้าย ส่วนทางขวา น่าจะเป็นโอกาสของ ดาบิด ซิลบา
หลุยส์ ฟาน กัล ว่าที่กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด พาทีม "อัศวินสีส้ม" มาดวลเกือกในทัวร์นาเม้นต์นี้แบบเงียบๆ ไม่ใช่ในฐานะตัวเต็งเหมือนยุคที่ผ่านๆมา อาจจะเป็นเพราะผู้เล่นส่วนใหญ่คือสายเลือดใหม่ ที่รอวันแจ้งเกิด หาใช่เป็นพวกบิ๊กเนมแต่อย่างใด ส่วนผลงานช่วงอุ่นเครื่อง ถือว่าสอบผ่าน เริ่มจากเสมอเอกวาดอร์ 1-1 ตามด้วยชนะ กาน่า และ เวลส์ ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ฟาน กัล เจอปัญหานักเตะบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น เควิน สตรอทมัน กับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ซึ่งถอนตัวกันออกไปแล้ว ส่วนการจัดขุมกำลังก่อนศึกสำคัญ คาดว่า ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น มือกาวจากอาแจ็กซ์ จะได้โอกาสลงเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่ง เบียด ทิม ครูล กับ มิเชล ฟอร์ม สองนายด่านจากพรีเมียร์ลีก ขวัญใจแฟนบอลชาวไทย ตกลงไปนั่งสนับก้น
ด้านแนวรับ รอน ฟลาร์ กองหลังจากแอสตัน วิลล่า จะเป็นคนบัญชาการ ขณะที่แดนกลาง วาง โจนาธาน เดอ กุซมัน เป็นตัวตัดเกม คู่กับ ไนเจล เดอ ยองก์ พร้อมกับปล่อยให้ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ คอยปั้นเกมอยู่ข้างหลัง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และอาร์เยน ร็อบเบน
Key battle : เซร์คิโอ รามอส vs โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
เป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดแล้ว ทั้งในเรื่องของความเก๋าเกม และจุดเดือดซึ่งค่อนข้างต่ำ ในรายของ รามอส อาจมีลูกเหวอให้เห็นเป็นระยะ แต่โดยรวมถือว่าเป็นปราการหลังตัวกลางที่ครบเครื่อง ทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง และหัวจิตหัวใจที่เกินร้อย แถมยังมีลูกยั่วปราสาทคอยป่วนหัวกองหน้าคู่แข่งให้ตะบะแตกอีกด้วย ขณะที่ฟาน เพอร์ซี่ เป็นดาวยิงระดับโลก เปลี่ยนโอกาสอันน้อยนิดให้เป็นประตู ลูกยิงแปลกๆ ยากๆ ทำได้หมด ดังนั้นคู่นี้ทันกันทุกฝีก้าว และคงได้เห็นทั้งสองคนงัดกันตลอด 90 นาที แต่ใครจะชิงความได้เปรียบดีกว่า ต้องรอดูกันต่อไป
Key battle : เซร์กิโอ บุสเกวตส์ vs เวสลี่ย์ สไนเดอร์
เป็นอีกคู่ที่ต้องชิงไหวชิงพริบกัน เพราะใครพลาดหมายถึงเกมกลางสนามจะแป้กทันที โดยเฉพาะฝั่งฮอลแลนด์ ซึ่ง สไนเดอร์ แทบจะแบกภูเขาไว้ทั้งอก เนื่องจากนักเตะในทีมส่วนใหญ่เป็นแข้งดาวรุ่ง หรือไม่ก็ฝีเท้าไม่ถึงระดับโลก ขณะที่บุสเกวตส์ ยังพอมีเพื่อนร่วมรุ่น ฝีเท้าระดับเวลิด์ คลาส คอยประคองอยู่หลายราย
ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง
สเปน (4-3-3) : อิเกร์ กาซียาส ; เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, เซร์คิโอ รามอส, เกราร์ด ปีเก้, ฆอร์ดี อัลบา ; ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์กิโอ บุสเกวตส์, ชาบี อลองโซ่ ; ดาบิด ซิลบา, ดีเอโก้ คอสต้า, อันเดรส อีเนียสต้า
ฮอลแลนด์ (3-4-1-2) : ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ; สเตฟาน เด ฟรีจ์, รอน ฟลาร์, มาร์ตินส์ อินดี้ ; ดารีล ยานมัต, ไนเจล เดอ ย็อง, โจนาธาน เดอ กูซมัน, ดาลี่ย์ บลินด์ ; เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ; อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
police ติดโต๊ะ
มองจากชื่อชั้นนักเตะทีมชาติสเปน เหนือกว่าแน่นอน เพราะผู้เล่นเกือบจะทั้งทีมยกยอดมาจากแชมป์โลก เมื่อ 4 ปีก่อน แต่คำถามก็คือพวกเขาอาจจะหมดไฟ จากความสำเร็จอย่างมากมายในช่วง 6-7 ปีหลัง อีกทั้งฟอร์มการเล่นของทัพ "กระทิงดุ" ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ดุดันเหมือนเคย การต่อบอลที่ไหลลื่นก็เริ่มผิดพลาด มีลูกโยนยาวให้เห็นเป็นระยะ หรือไม่ก็อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะซะเป็นส่วนใหญ่
จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เวิลด์ คัพ 2014 จะไม่เป็นที่น่าจดจำนักของสเปน โดยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว อย่างฝรั่งเศส ปี 2002 ก็ตกรอบแรก หลังจากได้แชมป์เมื่อครั้ง 1998 กับยูโร 2000 เช่นเดียวกับอิตาลี ก็หยุดแค่รอบแบ่งกลุ่ม 2010 ทั้งที่เป็นแชมป์เมื่อปี 2006
อีกทั้งฮอลแลนด์ ก็มีดีพอตัว ทุกคนเล่นเป็นทีม แถมมี หลุยส์ ฟาน กัล ยอดกุนซือจอมแท็คติก คอยกุมบังเหียนอยู่ นอกจากนี้แชมป์เก่า เครื่องร้อนช้า 4 ปีก่อนก็ออสตาร์ด้วยความพ่ายแพ้ต่อสวิตเซอร์แลนด์ ไหนจะเรื่องทางบอลซึ่ง "อัศวินสีส้ม" ข่มอยู่เป็นทุน เพราะ 4 ครั้งหลังที่ทั้งสองทีมพบกัน ฝ่าย "กระทิงดุ" เอาชนะฮอลแลนด์ ใน 90 นาทีไม่ได้เลย ดังนั้นชั่วโมงนี้วางมวยรองน่าจะสวยกว่า
ผลบอลที่คาด : เสมอ 1-1
อัตราความมั่นใจ : 8/10
shaw.shank วิเคราะห์
รีแมตช์นัดชิงชนะเลิศเมื่อ 4 ปีที่แล้วเกมนี้น่าจะสู้กันเข้มข้น ด้านเนเธอร์แลนด์ที่อกหักแพ้ทีมกระทิงดุที่สนามซอคเกอร์ ซิตี้ ช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนหมดเวลาแค่ 4 นาที (จากการยิงของอินิเอสต้า) จะหมายมั่นปั้นมือเต็มที่ที่จะเอาคืน
สเปนภายใต้การนำของบิเซนเต้ เดล บอสเก้ ที่พาทีมคว้าทั้งแชมป์โลก และแชมป์ยุโรป (ยูโร 2012) มีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง และแกนหลักเมื่อ 4 ปีที่แล้ว อย่างกาซิยาส, ปิเก้, เซร์คิโอ รามอส, บุสเก็ตส์, ชาบี และอิเนสต้า อยู่กันครบ
ขณะที่เนเธอร์แลนด์ภายใต้การนำของหลุยส์ ฟาน กัล มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาไปมากเมื่อเทียบกับ 4 ปีก่อน แม้นักเตะอย่างไนเจล เดยอง, สไนเดอร์, ฟาน เพอร์ซี่ และร็อบเบน ยังอยู่ แต่ที่เหลือหน้าใหม่แทบจะทั้งสิ้น โดยเฉพาะแผงกองหลัง
เป็นการทดสอบความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเกมรับเนเธอร์แลนด์ ที่จะต้องเจอกับนักเตะสเปน ที่ทักษะครองบอลดี จังหวะชิ่งทะลุทะลวงที่น่ากลัว ไม่ว่าจะดาวิด ซิลบา, เปโดร, อินิเอสต้า ขณะที่กองหน้าตัวเป้ามีคอสต้าที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตามเนเธอร์แลนด์มีดีตรงที่มีหลุยส์ ฟาน กัล ที่คุมทีมบาร์เซโลน่าหลายปี น่าจะรู้ทางการเล่นของสเปนเป็นอย่างดี บอลเนเธอร์แลนด์ชื่อชั้นอาจจะเป็นรอง แต่ได้ฟาน กัล วางระบบมาดี เกมรุกไม่ได้ด้อยกว่าทีมกระทิงดุ นัดนี้น่าจะสู้ได้สูสี มีโอกาสเช่นกันที่เกมนี้จะลงเอยด้วยการเสมอกันไป
ผลบอลที่คาด :
2-2
