Key Battle : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ -vs- ทิม เคฮิลล์

หนึ่งในศูนย์หน้าที่ถูกจับตามองมากที่สุดในศึกเวิลด์ คัพ ครั้งนี้คงจะหนีไม่พ้น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ความอันตรายของเขาทำให้ทุกๆชาติที่เข้ามาแข่งรอบสุดท้ายต่างก็หวาดระแวงและหาวิธีที่จะหยุดเขาผู้นี้ให้ได้ ซึ่งเขาก็ได้โชว์ให้เห็นแล้วในเกมนัดแรกที่ไล่อัดทีมชาติสเปนไปแบบเละเทะ แถมยังมีลูกโหม่งสุดฮือฮาที่ทำให้กลายเป็นสีสันของศึกเวิลด์ คัพคราวนี้ไปแล้ว ด้วยท่าที่ชื่อว่า Flying Persie
เกมนี้ เพอร์ซี่ จะได้ลองวัดกับเจ้าเวหาของจริงอย่าง ''ซิโก้ออสซี่'' ทิม เคฮิลล์ ที่เขาก็สามารถโหม่งทำประตูได้ในเกมที่พบกับทีมชาติ ชิลี เช่นกัน เคฮิลล์ มีความสูงเพียง 178 เซนติเมตร ซึ่งถ้าเทียบกับนักเตะหลายๆคนในศึกเวิลด์ คัพ เขาจะกลายเป็นคนตัวเล็กไปโดยปริยาย แต่ทุกคนก็คงจะรู้ซึ้งถึงอาวุธหลักของเขาที่ดูยังไงมันก็ไม่เข้ากันกับความสูงที่เขามี นั่นก็คือลูกโหม่งที่ รุนแรง ดุดัน และเด็ดขาด เคฮิลล์ ยิงประตูในนามทีมชาติไปแล้ว 33 ลูก แล้วก็น่าจะเป็นไปตามที่หลายๆคนคิดไว้ว่าเกินครึ่งมันมาจากลูกโหม่งของเขา
ฮอลแลนด์ อาจจะดูเหนือกว่าทุกอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ คงจะได้มีโอกาสในการทำประตูไม่น้อย แต่แน่นอนสิ่งที่ ฟาน กัล น่าจะกำชับลูกทีมของเขาคงหนีไม่พ้น การที่ให้ระวังลูกบอมบ์หนักๆของ ออสเตรเลีย ที่มีเจ้าเวหาของจริงอยู่อย่าง ทิมเคฮิลล์
Key Battle : ดาลี่ย์ บลินด์ -vs- ไรอัน แม็คโกแวน


ดาลี่ย์ บลินด์ แบ็คซ้ายทีมชาติฮอลแลนด์รายนี้ เป็นคนครอสเข้าไปให้ ฟาน เพอร์ซี่ จัดการกดท่า Flying Persie ให้ ''อัศวินสีส้ม'' ตีเสมอทีมชาติสเปนได้สำเร็จก่อนหมดครึ่งแรก และนี่มันคือจุดเปลี่ยนของเกมทั้งหมด บลินด์ เล่นได้เด่นมากในเกมกับ ''กระทิงดุ'' ในนามทีมชาติเขาถูกจับมาเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย แต่กับต้นสังกัด อาแจ็กซ์ เขาถูกหุบเข้ามาเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ บลินด์ ติดทีมชาติไปทั้งหมดเพียงแค่ 13 นัด ถึงตอนนี้ต้องบอกว่าเขาแจ้งเกิดแบบเต็มตัวด้วยวัย 24 ปี เขาจัดการกับเกมทางด้านขวาของสเปนได้อยู่หมัด จนเราเห็นได้ว่าสเปนต้องหันไปขึ้นเกมทางด้านฝั่งซ้ายแทนซะส่วนใหญ่ แถมยังมีทีเด็ดจากการสอดเติมขึ้นมาโยนบอลแม่นๆอีก ต้องบอกเลยว่า แบ็คจากอาแจ็กซ์รายนี้คือของจริง
ไรอัน แม็คโกแวน จากถิ่น ''ซอคเกอร์รูส์'' เกมนี้เขาน่าจะได้ลงมาเล่นเป็นตัวจริงแทนที่ของ อิวาน ฟรานยิช ที่ได้รับอาการบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป แม็คโกแวน ได้รับโอกาสในเกมที่ต้องบอกว่าหนักอึ้ง แต่กระนั้นแล้วมันก็จะมองได้สองมุมคือ ถ้าเขาจัดการกับเกมริมเส้นของ ฮอลแลนด์ ได้อยู่หมัด มันก็จะเป็นการแจ้งเกิดของเขา แต่ถ้าไม่ล่ะก็ ออสเตรเลีย ก็คงเละไม่ต่างกับ ''กระทิงดุ'' แม็คโกแวน เกมนี้อาจจะถูกสั่งมาให้จับ อาเยน ร็อบเบน เป็นหลัก แต่อีกหนึ่งคนที่เขาก็ไม่อาจละสายตาได้เลยก็คือ ดาลี่ย์ บลินด์ ซึ่งน่าจะต้องเจอกันตลอด 90 นาที แบ็คขวาจำเป็นชาว ''ออสซี่'' รายนี้ตำแหน่งจริงๆของเขาก็คือปราการหลังตัวกลาง แต่ในหลายๆครั้งเขามักจะถูกจับออกมาให้จัดการกับเกมบุกทางริมเส้นของคู่ต่อสู้ และนี่เป็น บทพิสูจน์ของเขาที่จะแจ้งเกิดในตำแหน่งนี้
เกมนี้ทั้งคู่จะได้วัดกันไปเลยว่า แบ็คซ้ายที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงและถูกพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่งเลยในศึกเวิลด์ คัพ ครั้งนี้ กับ แบ็คขวาจำเป็นที่ถูกส่งลงมาแทนที่ของเพื่อนที่บาดเจ็บไป แม็คโกแวน จะแจ้งเกิดและสามารถหยุดความร้อนแรงของ บลินด์ ได้ไหม หรือจะเป็น บลิด์ ที่เล่นงาน แม็คโกแวน ซะจนดับดิ้น คืนนี้รู้กัน