Key Battle : มาริโอ มานด์ซูคิช -vs- นิโคลัส เอ็นคูลู
รองดาวซัลโวบุนเดสลีก้า เยอรมัน และเจ้าของรางวัลดาวซัลโวของสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ฤดูกาลล่าสุด 18 ประตู คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก มาริโอ มานด์ซูคิช เพชฌฆาตวัย 28 ปี ซึ่งฟอร์มร้อนแรงที่สุดในทีม "ตราหมากรุก" เวลานี้ แต่น่าเสียดายที่เกมแรกเขาไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้เพราะติดโทษแบน โดยเกมนี้เขาจะกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง พร้อมกับความกระหายในการล่าตาข่าย สำหรับจุดเด่นของเขาเรียกว่าครบสูตรกองหน้าปิดบัญชีแทบทุกประการ และพร้อมที่จะสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับคู่แข่งอยู่เสมอ
เป็นงานหนักให้ นิโคลัส เอ็นคูลู เซ็นเตอร์แบ็คจากสโมสร มาร์กเซย ต้องรับมือกับดาวยิงเพชฌฆาตรายนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จุดแข็งที่สำคัญของเขานั่นก็คือการประกบตัวผู้เล่นอย่างยอดเยี่ยมชนิดที่สร้างความรำคาญให้กับฝ่ายตรงข้ามได้เลย แถมสไตล์การเข้าบอลหนักแบบถึงลูกถึงคน นับว่าเขาเป็นปราการหลังที่มีประสบการณ์สูงด้วยวัยเพียงแค่ 24 ปี และลงสนามให้กับ มาร์กเซย ถึง 105 นัด จาก 3 ฤดูกาล แถมยังยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ถ้าจะหยุดศูนย์หน้าดาวยิง ต้องใช้ความโหดเข้าชนเท่านั้น
Key Battle : มักซิม ชูโป โมติง -vs- เดยาน ลอฟเรน
ไม่ใช่ว่าทีม "หมอผี" จะไม่มีทีเด็ด แต่เขาคนนี้เป็นมากกว่าทีเด็ด นั่นก็คือ มักซิม ชูโป โมติง รองดาวซัลโวของสโมสร ไมนซ์ ฤดูกาลล่าสุด ยิงไป 10 ประตู จากการลงสนาม 32 เกม แม้ว่าเจ้าตัวจะอายุเพียงแค่ 25 ปี แต่เรื่องประสบการณ์และความเก๋าอยู่ในเกณฑ์แสบสันใช้ได้ จุดแข็งของแข้งรายนี้ นอกจากส่วนสูงถึง 190 ซม. เล่นลูกกลางอากาศได้ดีแล้ว ยังมีความเร็วและอึดถึกตามสไตล์นักเตะ "กาฬทวีป" ผสมผสานเข้าไปอีกด้วย จึงเป็นเรื่องยากที่จะไล่ตามประกบติดเขาเหมือนเช่นนักเตะทั่ว ๆ ไป
ส่วนทางฝั่ง โครเอเชีย ก็มีมาตรการรองรับสำหรับการหยุด ชูโป โมติง ด้วยการส่ง เดยาน ลอฟเรน กองหลังจากสโมสร เซาท์แฮมป์ตัน ที่ช่วงนี้กำลังเนื้อหอม หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นให้กับต้นสังกัด รวมไปถึงเกมทีมชาติที่ในแผงหลังเวลานี้จะขาดเขาไปไม่ได้ ด้วยจุดเด่นในเรื่องความเร็วที่พอจะสูสีกับศูนย์หน้าระดับต้น ๆ ของยุโรป ผนวกกับทางบอลที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้เขากลายเป็นเบอร์หนึ่งเรื่องเกมรับของทีม "ตราหมากรุก" ไปแล้ว แต่กระดูกชิ้นโตในเกมนี้อย่าง ชูโป โมติง จะสร้างปัญหาให้เขามากน้อยแค่ไหนคงต้องติดตามชมกันในคืนนี้