Key Battle : เจมส์ โรดริเกซ -vs- ยาย่า ตูเร่
สุดยอดความหวังดวงใหม่แห่งทัพ "โคเคน" อย่าง เจมส์ โรดริเกซ ที่ต้องรับหน้าที่ทำเกมรุกแบบเต็มตัว ซึ่งจุดเด่นของเขาสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในเกมรุก เรียกว่าเกิดมาเพื่อเป็น "ตัวรุกธรรมชาติ" เลยก็ว่าได้ และจากผลงานอันสุดยอดมหัศจรรย์ในวัย 22 ปีของเขา ลงสนามให้กับสโมสร โมนาโก 34 เกม ยิงไปถึง 9 ประตู และแอสซิสต์ไปถึง 12 ครั้ง ซึ่งมากที่สุดของทีมอีกด้วย ทำเอามิดฟิดล์รุ่นพี่อย่าง เจา มูตินโญ่ กลายเป็นพระรองไปเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ขุนพล "ช้างดำ" ก็มีนักเตะที่โหดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ ยาย่า ตูเร่ ผู้ที่ได้รับการขนามนามว่า เป็นกองกลางที่ครบเครื่องที่สุดในโลก ซึ่งนักเตะผิวสีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมีสไตล์การเล่นแบบนี้ จัดว่าเป็นแข้งที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง ความคล่องแคล่วว่องไว และหัวสมองอันชาญฉลาด จึงทำให้เขากลายเป็นนักเตะระดับโลกในเวลานี้ไปแล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะอยู่วัย 31 ปีก็ตาม แต่เรื่องความเก๋าเกมรับรองว่าเอาอยู่แน่นอน
Key Battle : วิลเฟร็ด โบนี่ -vs- คริสเตียน ซาปาต้า
ในยามที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา โรยราลงไป สำหรับทีมชาติ ไอวอรี่ โคสต์ ก็ยังมี วิลเฟร็ด โบนี่ ที่กำลังเป็นอาวุธชิ้นใหม่ของพวกเขา ด้วยวัยเพียงแค่ 25 ปี ทำให้เขาสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นไปได้อีก จากสโมสร วิเทสส์ ไปสู่ สวอนซี ซิตี้ กลายเป็นบันไดขั้นสำคัญที่ผลักดันตัวเขาให้ขึ้นมาสู่จุดพีคของตัวเอง เอกลักษณ์เฉพาะของ โบนี่ คือความแข็งแกร่งและสปีดต้นที่รวดเร็วไม่แพ้ใคร นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มักจะยืนถูกที่ถูกเวลาเสมอ การันตีได้เลยว่าเป็นงานหนักสำหรับแนวรับคู่แข่งอย่างไม่ต้องสงสัย
ภารกิจหยุด โบนี่ ในวันนี้ คงจะหนีไม่พ้น คริสเตียน ซาปาต้า ปราการหลังผิวหมึกของสโมสร เอซี มิลาน ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าโหด ถึงแม้ว่าเขาจะประสบปัญหากับเรื่องความฟิตอยู่เป็นประจำ แต่ในยามคับขันก็ได้ ซาปาต้า กลับมายืนเป็นตัวหลักของทีมและสร้างความเหนียวแน่นให้กับเกมรับได้อยู่เสมอ จุดเด่นของเขาก็คือการเข้าสกัดที่ค่อนข้างชัวร์ และการประกบติดชนิดตังเมยิ่งเป็นของถนัด ซึ่งต่อให้เป็น ดร็อกบา หรือ โบนี่ หรือใครหน้าไหนเขาก็ไม่กลัวทั้งนั้น