Key Battle : เอดินสัน คาวานี่ -vs- แกรี่ เคฮิลล์
สำหรับคู่นี้ นี่ไม่ใช่การปะทะกันเป็นครั้งแรก เพราะว่าทั้งสองคนเคยลงสนามให้กับต้นสังกัดลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้วในเกมที่ เชลซี พบกับ เปแอสเช เพราะฉะนั้นต่างฝ่ายจึงต่างรู้พิษสงกันดี แถมยังมีความแค้นส่วนตัวเล็กน้อยที่ทำให้ แกรี่ เคฮิลล์ ถึงกับต้องเสียศูนย์ไปหลายเกมหลังจากนั้น เป็นเพราะว่าความสามารถเฉพาะตัวของ เอดินสัน คาวานี่ อย่างที่ทราบกันดีว่า คล่อง เร็ว และคม นั่นเป็นสามจุดเด่นของเขาเลย
ส่วนทางฝั่ง เคฮิลล์ หลังจากที่กลับมาตั้งศูนย์ใหม่แล้ว ทำให้ฟอร์มดีขึ้น เล่นแน่นขึ้น และมีส่วนช่วยทำให้ เชลซี ไม่เสียประตูในช่วงท้ายฤดูกาลหลายเกมพอสมควร ด้วยข้อดีของเขาคือการยืนตำแหน่งได้ดี และมักจะทุ่มเทสุดตัวเพื่อไม่ให้คู่แข่งได้ง้างยิงง่าย ๆ ซึ่งฤดูกาลล่าสุด เขาสามารถบล็อคลูกยิงสวย ๆ ของคู่ต่อสู้ชนิดคาเท้ามาแล้วนับไม่ถ้วน และข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเขาที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่จนถึงทุกวันนี้ ก็คือความเร็วที่มักจะเป็นรองศูนย์หน้าของทีมตรงข้าม หากให้วิ่งไล่กันคงจะไม่ไหว แต่ถ้าเป็นเรื่องสกัด เสียบ สไลด์ ขอให้บอก
Key Battle : เวย์น รูนี่ย์ -vs- วอลเตอร์ การ์กาโน่
หัวหอกเจ้าของฉายา "แว็ซซ่า" เวย์น รูนี่ย์ ดาวซัลโวจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ 17 ประตูจาก 29 นัดที่ลงสนาม แม้ว่าผลงานของต้นสังกัดอาจจะไม่ดีนัก แต่สำหรับฟอร์มการเล่นและการทำประตูของเขายังคงน่ากลัวอยู่เสมอ บวกกับบทบาทใหม่ในเกมรุกที่ถูกจับมายืนเป็นหน้าต่ำคอยสนับสนุน ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ตามระบบ 4-2-3-1 ก็กลายเป็นตำแหน่งทำให้เขามีอิสระในการเล่นมากขึ้น ซึ่งเขามีจุดเด่นของหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นลูกขยันในการไล่บอล จังหวะยิงไกลสวย ๆ หรือแม้กระทั่งการกระชากลากเลื้อยเข้าไปหาโอกาสจบสกอร์ก็ทำได้ดี ถือว่าเป็นแข้งที่อันตรายที่สุดของทีมชาติอังกฤษชุดนี้เลยทีเดียว
งานช้างจึงตกเป็นของ วอลเตอร์ การ์กาโน่ กองกลางตัวรับวัย 29 ปี เจ้าของส่วนสูง 168 ซม. ผู้ที่แจ้งเกิดกับสโมสร นาโปลี ถึงแม้ว่าความสูงอาจจะน้อยไปสักนิด แต่ถ้าเทียบกับความสามารถในเชิงเกมรับต้องขอยกนิ้วให้ เพราะสไตล์การเล่นที่ถึงลูกถึงคน ดุดันตามแบบฉบับ "จอมโหด" จึงทำให้เขาติดทีมชาติ อุรุกวัย ยาวนานกว่า 8 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นความสูงจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา และน่าจะเป็นคู่ฟัดคู่เหวี่ยงกับ รูนี่ย์ ในแดนกลางที่สมน้ำสมเนื้อสุด ๆ