Key battle : เวด๊าด อิบิเซวิช vs จูวอน โอชานิว่า
อิบิเซวิช เป็นแค่ตัวสำรองในเกมที่แล้ว เนื่องจาก บอสเนีย ต้องการเน้นเกมรัดกุม จึงส่งกองหน้าอาชีพลงไปล่าตาข่ายแค่รายเดียว แต่เชื่อว่าเกมนี้ ทีมจากยุโรปต้องเน้นเกมรุกเต็มตัว ทำให้ดาวยิง สตุ๊ตการ์ต น่าจะได้ออกสตาร์ล่าตาข่ายกับ เอดิน เชโก้ ดังนั้นจึงเป็นฝันร้ายของแนวรับไนจีเรีย ซึ่งต้องรวมพลังกันต้านทานกันสุดฤิทธิ์ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ภาระหนักจะตกมาอยู่กับ จูวอน โอชานิว่า ปราการหลังวัย 23 ซึ่งอาจจะโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมเสมออิหร่าน 0-0 ทว่าการขาดหายไปของคู่ขาอย่าง ก๊อดเฟรย์ โอบัวโบน่า ที่เจ็บ ก็คงน่าเป็นห่วงว่า กองหลังดาวรุ่งไม่น่าจะเอา อิบิเซวิช อยู่ อีกทั้งชั้นเชิง รวมถึงเหลี่ยมบอล กองหน้าจาก "ม้าขาว" ก็กินขาด กับการผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชนในเวทีบุนเดสลีก้า ผิดกับ โอชานิว่า ซึ่งเล่นอยู่ในลีกอิสราเอล แถมอายุน้อย กระดูกบอลยังอ่อนเกินไป
Key battle : ซเวซดาน มิซิโมวิช -vs- โอเกนยี่ อานาซี่
อีกจุดที่น่าสนใจของเกมคู่นี้ก็คือการชิงจังหวะตรงกลางสนาม ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของนัดนี้ เพราะฝ่ายใดคุมเกมแดนมิดฟิลด์ได้ดีกว่า โอกาสได้ประตูจะเปิดกว้างทีเดียว โดยเฉพาะฝั่งไนจีเรีย ที่ฝากความหวังไว้สูงมากกับผู้เล่นตรงแผงมิดฟิลด์ เนื่องจากตำแหน่งกองหน้า แทบหวังพึ่งไม่ได้ ซึ่งก็คงต้องฝากความหวังไว้กับ โอเกนยี่ อานาซี่ ห้องเครื่องจากลาซิโอ ซึ่งดูดีมีราศีที่สุดในทีมชุดนี้พอๆกับ จอห์น โอบิ มิเกล และด้วยวัยเพียง 21 ปี ซึ่งเต็มไปด้วยพละกำลัง ความเร็ว และความแข็งแกร่ง ก็น่าจะสร้างความปั่นป่วนให้กับแผงมิดฟิลด์ของ บอสเนีย ได้ไม่น้อย โดยเฉพาะบรรดาตัวสร้างสรรค์เกมอย่าง ซเวซดาน มิซิโมวิช หาก อานาซี่ เอาไม่อยู่ และปล่อยให้ มิซิโมวิช ได้มีอิสระในการเล่น เชื่อได้เลยว่า แผงรับ "อินทรีมรกต" จะงานเข้าทันที