Key Battle : มาริโอ บาโลเตลลี่ -vs- ดิเอโก้ โกดิน
"เกรียนโอ้" มาริโอ บาโลเตลลี่ ฉายานี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ซึ่งหัวหอกจากสโมสร เอซี มิลาน เจ้าของส่วนสูง 189 ซม. ความหวังหนึ่งเดียวในแดนหน้าของทัพ "อัซซูร์รี" จากสไตล์การเล่นที่สุดแสบสัน นอกจากจะมีทักษะความสามารถเฉพาะตัวที่สูงแล้ว ก็ยังมีจังหวะเล่นลูกกลางอากาศที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย เห็นได้ชัดจากเกมที่โขกเอาชนะทีมชาติ อังกฤษ ในนัดแรก โดยเขาเป็นศูนย์หน้าที่จะปล่อยพื้นที่ให้เล่นไม่ได้เลยแม้แต่น้อยนิด มิฉะนั้นเจ้า "เกรียนโอ้" จะแผลงฤทธิ์ออกมาทันที
การจะหยุดความแสบของ บาโลเตลลี่ จำเป็นจะต้องใช้ความเก๋าของ ดิเอโก้ โกดิน ปราการหลังวัย 28 ปี จากสโมสร แอตเลติโก มาดริด ดีกรีแชมป์ ลาลีก้า สเปน ฤดูกาลล่าสุด แม้ว่าจุดเด่นของเขาจะไม่ใช่ความเร็วที่มากมายนัก แต่ถ้าวัดกันในเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกายรับรองว่าเขาไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน นอกจากนี้ สไตล์การเล่นที่หนักหน่วงและดุดันตามแบบฉบับ "จอมโหด" ทำให้ โกดิน เพิ่มความน่ากลัวมากขึ้นเป็นสองเท่าตามสโลแกนที่ว่า "เรื่องความเร็วอาจเป็นรอง แต่เรื่องทางบอลขอให้บอก"
Key Battle : หลุยส์ ซัวเรซ -vs- จอร์โจ้ คิเอลลินี่
จากผู้ร้ายกลายเป็นฮีโร่ สำหรับวีรกรรมสุดแสบ "แฮนด์อ๊อฟก็อด" ของ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงฟันล้ำหน้าจากสโมสร ลิเวอร์พูล ที่เกิดขึ้นเมื่อฟุตบอลโลกคราวก่อน ทำให้เขาถูกเป็นที่พูดถึงอย่างมากสำหรับกรณีนี้ แต่สำหรับการแข่งขันคราวนี้ ซัวเรซ ถูกตั้งความหวังไว้สูงเลยทีเดียว โดยเขาทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะทีมชาติ อังกฤษ ไปได้ ซึ่งจุดแข็งของเขาก็คือทักษะความสามารถเฉพาะตัว, การเคลื่อนที่ไปกับลูกบอล และการจบสกอร์ที่ทำได้อย่างเฉียบขาด จึงทำให้เขาขึ้นแท่นดาวยิงระดับโลกที่หลายสโมสรให้ความสนใจที่จะดึงตัวไปร่วมทีม
การเผชิญหน้าโดยตรงกับศูนย์หน้าระดับโลกที่มากความสามารถอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเป็น จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เซ็นเตอร์แบ็คจากสโมสร ยูเวนตุส แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาลล่าสุด ที่มาพร้อมกับเพื่อน ๆ อย่าง อันเดรีย บาร์ซาญี่ และ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ผนึกกำลังหยุด "หม่อมเหยิน" โดยเฉพาะ ซึ่งสไตล์การเล่นของ คิเอลลินี่ จะเน้นไปที่การคุมโซนและการอ่านทางบอลแล้วอาศัยจังหวะเข้าถึงก่อน ซึ่งกลายเป็นจุดขายที่เจ้าตัวทำได้ดีมาก และน่าจะสู้กันอย่างสนุกสูสีเลยทีเดียว