ผลการพบกันของทั้งสองทีม

- เจอกันครั้งแรก
 
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
 
แอลจีเรีย

23/06/14 ชนะ เกาหลีใต้ 4-2 (กลาง) บอลโลก / รอง ปป ... บวก
17/06/14 แพ้ เบลเยียม 1-2 (กลาง) บอลโลก / รอง 1.5 ... บวก  
05/06/14 ชนะ โรมาเนีย 2-1 (กลาง) อุ่นเครื่อง / เสมอ ... บวก
31/05/14 ชนะ อาร์มีเนีย 3-1 (กลาง) อุ่นเครื่อง / ต่อ ปป ... บวก
06/03/14 ชนะ สโลวีเนีย 2-0 (เหย้า) อุ่นเครื่อง / เสมอ ... บวก

รัสเซีย

23/06/14 แพ้ เบลเยียม 0-1 (กลาง) บอลโลก / รอง 0.5 ...  เสีย
18/06/14 เสมอ เกาหลีใต้    1-1 (กลาง) เวิลด์ คัพ / ต่อ 0.5 ... เสีย
06/06/14 ชนะ โมร๊อกโก    2-0 (เหย้า) อุ่นเครื่อง / ต่อ 1 ... บวก
31/05/14 เสมอ นอร์เวย์    1-1 (เยือน) อุ่นเครื่อง / ต่อ ปป ... เสียครึ่ง
26/05/14 ชนะ สโลวาเกีย    1-0 (เหย้า) อุ่นเครื่อง / ต่อ 1 ... เจ๊า

ผลงานในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
 
แอลจีเรีย

23/06/14 ชนะ เกาหลีใต้ 4-2
17/06/14 แพ้ เบลเยียม 1-2
23/06/10 แพ้ สหรัฐฯ 0-1
19/06/10 เสมอ อังกฤษ 0-0
13/06/10 แพ้ สโลวีเนีย 0-1

รัสเซีย

23/06/14 แพ้ เบลเยียม 0-1
18/06/14 เสมอ เกาหลีใต้    1-1
14/06/02 แพ้ เบลเยียม    2-3
09/06/02 แพ้ ญี่ปุ่น    0-1
05/06/02 ชนะ ตูนิเซีย    2-0

ความพร้อมก่อนการแข่งขัน
 
     วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช เฮ้ดโค้ชทีมชาติแอลจีเรีย บอกชัดว่าเกมนี้เป็นนัดประวัติศาสตร์ของทีม แน่นอนเพราะ 32 ปีแล้วที่ "จิ้งจอกทะเลทราย" ไม่สามารถทะลุผ่านเข้าสู่รอบ 2 ฟุตบอลโลก การเจอรัสเซียเป็นเกมที่หนักมาก แต่เงื่อนไขในการเข้ารอบเรียกว่ายังค่อนข้างเปิดกว้าง เพราะขอแค่ทีมเก็บผลเสมอได้และลุ้นให้ เกาหลีใต้ ไม่ชนะ เบลเยี่ยม ทีมก็จะการันตีพื้นที่ในรอบ 16 ทีมทันที

     การจัดตัวผู้เล่นแอลจีเรียไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ระบบการเล่นจะเปลี่ยนเล็กน้อยจาก 5-4-1 เป็น 5-3-2 โดยเกมรับ ชาเมล เมสบาห์ แบ็กปาร์ม่าจะได้ลงเล่นทางกราบซ้ายแทน เฟาซี่ กูแลม อีกนัด ขณะที่แดนกลางจะดัน อับเดลมูเมน ฌาบู ขึ้นไปเล่นกองหน้าร่วมกับ อิสลาม สลิมานี แล้วขยับ โซเฟียเน เฟกูลี จากริมเส้นเข้ามาด้านในทำเกมร่วมกับ ยาซีน บราฮิมี และ นาบิล เบนทาเล็บ

     ทางด้าน รัสเซีย มีเพียงแต้มเดียวจากการลงสนาม 2 นัดที่ผ่านมาทำให้ชัยชนะในเกมนี้เป็นเพียงทางเลือกเดียวที่จะทำให้ทีมเข้ารอบ นอกจากนี้ทีมยังต้องลุ้นผลการแข่งขันอีกสนามด้วยเพราะหากเกาหลีชนะก็ต้องมาวัดกันที่ลูกได้เสีย ฉะนั้น 3 แต้มต้องบวกยิงเยอะเข้าไปด้วยถึงจะการันตีลูกทีม คาเปลโล่ ซิวอันดับสองของกลุ่มได้  

     สภาพทีมหมีขาวเกมนี้ก็ไม่มีปัญหารบกวนเช่นกันเพราะเพิ่งได้ อเล็กซานเดอร์ คอซลอฟ กองหลังที่เจ็บขาซ้ายในเกมกับ เบลเยี่ยม ผ่านความฟิตกลับมา แต่ระบบการเล่นโค้ชเลี่ยนเกมนี้ให้ทีมเดินหน้าบุกเต็มตัวเพราะเปลี่ยนจาก 5-3-1-1 เป็น 3-5-2 แต่ผู้เล่น 11 ตัวจริงไม่เปลี่ยนเลยแต่ขยับการยืนตำแหน่งเอาฟูลแบ็กเดิมขึ้นมายืนสูงแค่นั้น ส่วนเกมรุก แม็กซิม คานันนิคอฟ และ อเล็กซานเดอร์ โกโกริน ยังเป็นตัวเลือกลำดับแรกของ คาเปลโล่ เช่นเดิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
 
แอลจีเรีย (5-3-2) : ราอิส เอ็มโบลี - เอสซา ม็องดี, มัดยิด บูเกอร์รา, ราฟิค ฮัลลิเช, คาร์ล เมดยานี, ชาเมล เมสบาห์ - โซเฟียเน เฟกูลี, ยาซีน บราฮิมี, นาบิล เบนทาเล็บ - อับเดลมูเมน ฌาบู, อิสลาม สลิมานี

รัสเซีย (3-5-2) : อิกอร์ อาคินเฟเยฟ - วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, เดนิส กลูชาคอฟ - อเล็กซานเดอร์ คอซลอฟ, อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, วิคตอร์ ฟายซูลิน, โอเล็ก ชาตอฟ, ดมิทรี คอมบารอฟ - แม็กซิม คานันนิคอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโกริน

ทรรศนะ

     แอลจีเรีย เล่นดีมากใน 2 นัดที่ผ่านมา เพียงแต่โชคไม่ดีที่เกมแรกเจอทีเด็ดของ เฟลไลนี่ เข้าไปทำให้เกมแพ้ขาด อย่างไรก็ตามขวัญกำลังใจพร้อมกับ 3 แต้มที่ได้มาในเกมที่แล้วทำให้ แอลจีเรีย ยังเป็นทีมที่อันตราย ยิ่งมีลุ้นในการเข้ารอบอย่างนี้ด้วยน่าจะสร้างปัญหาให้ รัสเซีย ได้เยอะเลย
     
     อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าทีม "จิ้งจอกทะเลทราย" จะเล่นเกมนี้แบบเซฟๆเพราะจัดหลังมา 5 เล่นรับให้แน่นแล้วสวนเหมือนเดิม ซึ่งเกมรุก รัสเซีย ที่เห็นใน 2 เกมที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าค่อนข้างกาก สร้างจังหวะการเข้าทำแบบจังๆหาได้ยาก อีกทั้งการจบสกอร์ของกองหน้าก็ไม่ได้คมกริบ ยิ่งคู่แข่งกดดันด้วยกองหลังจำนวนมากโอกาสที่ทีมหมีขาวจะเจาะ แอลจีเรีย ได้เห็นทีจะยากอยู่ ชื่อชั้นโค้ชและทีมแน่นอนว่าเป็น รัสเซีย ที่ดีกว่าแต่เกมในสนามไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย และถ้าแนวรับลอยสูงก็มีสิทธิ์โดนสวนปิดเกมเหมือนกัน  
 
ผลบอลที่คาด : เสมอ 0-0 หรือ แอลจีเรีย ชนะ 1-0
 
ระดับความมั่นใจ : 8/10