Key Battle : เนย์มาร์ -vs- การี่ เมเดล
เจ้าของฉายา "หัวหอกเจ้าน้ำตา" ของทีมชาติ บราซิล คงเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เขา เนย์มาร์ จูเนียร์ นักเตะผู้ที่มีเลือดความรักชาติสูงมาก และยังเป็นความหวังสูงสุดของขุนพล "เซเลเซา" อีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของเขาก็คือการพาบอลไปกับตัวที่คล่องแคล่วประดุจดั่งอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย และการจบสกอร์ที่เฉียบคมทั้งซ้ายและขวา นอกจากนั้นเขายังมีสถิติการยิงเข้ากรอบถึง 90.9% จากสามเกมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันเขาทำไปแล้ว 4 ประตู นำเป็นดาวซัลโวร่วมกับ เมสซี่ และ มุลเลอร์
กลายเป็นงานหนักระดับ 5 ดาวสำหรับ การี่ เมเดล กองหลังจากสโมสร คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ เจ้าของฉายา "เอล พิตบูลล์" แม้ว่าเขาจะเป็นเซ็นเตอร์แบ็คที่มีส่วนสูงไม่มากแค่ 171 ซม.เท่านั้น แต่ทดแทนมาด้วยสไตล์การเล่นที่หนักหน่วง, เข้าสกัดอย่างเด็ดขาด และไล่ตามแบบกัดไม่ปล่อย ที่สำคัญเขายังมีสถิติการจ่ายบอลสุดแม่นยำ 92.3% จากสามเกมแรก แถมยังเป็นกองหลังไม่กี่รายในทัวร์นาเมนต์นี้ ที่ไม่ได้รับใบเหลืองแม้แต่ใบเดียวอีกด้วย คงต้องติดตามดูสิว่าเขาจะจัดการกับ เนย์มาร์ ได้หรือไม่
Key Battle : อาร์ตูโร่ วิดัล -vs- หลุยซ์ กุสตาโว่
อาร์ตูโร่ วิดัล มิดฟิลด์จอมทัพจากสโมสร ยูเวนตุส เปรียบเสมือนหัวใจในแดนกลางของทัพ ชิลี ชุดนี้ ซึ่งจุดแข็งของเขาก็คือพละกำลังที่มากมายหลายร้อยแรงม้าชนิดที่วิ่งไม่หยุด และถือว่าเป็นกองกลางที่จ่ายบอลไม่ค่อยพลาดถึง 79.8% จึงไม่แปลกใจเลยที่เขาได้เป็นผู้เล่นตัวหลักของทั้งสโมสรและทีมชาติ ซึ่งในเกมในที่สามเขาถูกดร๊อปเป็นตัวสำรองเพื่อรักษาความฟิต สำหรับลงมาวิ่งให้เต็มที่สำหรับเกมสำคัญที่ผู้ชนะเท่านั้นจะได้ไปต่อ
หน้าที่ในการหยุดเกมแดนกลางของ ชิลี คงต้องฝากไว้ที่ หลุยซ์ กุสตาโว่ กองกลางตัวรับจากสโมสร โวล์ฟสบวร์ก ผู้ที่มีประสบการณ์มากมายในเวที บุนเดสลีก้า กว่า 100 นัด ด้วยสไตล์การเล่นของเขาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง บวกกับความสามารถเฉพาะตัวตามแบบฉบับ "บราซิลเลี่ยน" จึงทำให้เขากลายเป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกมที่ทีมจะขาดไม่ได้ ซึ่งการเผชิญหน้ากับ วิดัล น่าจะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขามากที่สุดในเวลานี้