สรุปรางวัลนักเตะและทีมยอดเยี่ยมประจำศึกเวิลด์ คัพ 2014
สำหรับบทสรุปของศึกฟีฟ่าเวิลด์ คัพ 2014 ที่ประเทศบราซิลในครั้งนี้ เราก็คงได้ทราบกันไปแล้วว่าแชมป์คือทีมชาติเยอรมันที่สามารถเอาชนะทีมชาติอาร์เจนติน่าไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ มาริโอ เกิทเซ่ ในช่วงต่อเวลาพิเศษในนาทีที่ 113 สามารถคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ โดยเป็นชาติแรกจากทวีปยุโรปที่สามารถข้ามน้ำข้ามทะเลมาคว้าแชมป์ได้บนแผ่นดินของทวีปอเมริกาใต้ แต่ฟีฟ่าไม่ได้มีแค่รางวัลชนะเลิศอย่างเดียวยังคงมีรางวัลต่างๆที่มอบให้แก่นักเตะหรือทีมที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย มีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย
Adidas Golden Ball (นักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์) : ลิโอเนล เมสซี่ (ทีมชาติ อาร์เจนติน่า)
กัปตันผู้นี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือของจริง จะไม่พูดถึงเขาไม่ได้เลยสำหรับคนนี้ เขามีส่วนอย่างมากในการพาทีมชาติอาร์เจนติน่าผ่านเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศ เมสซี่ เองคาดหวังอย่างมากที่จะเดินตามรอยเท้าของตำนานนักเตะในบ้านเกิดของเขาเองอย่าง มาราโดน่า เขาพาทีมเอาชนะบอสเนียฯมาได้โดยยิงไป 1 ประตู ซัดประตูชัยในเกมที่พบกับทีมชาติอิหร่าน และมาบวกอีก 2 ลูกในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่พบกับไนจีเรีย เขาไม่ใช่แค่จะยิงได้อย่างเดียวในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเขาเป็นคนผ่านบอลให้ ดิ มาเรีย ยิงให้อาร์เจนฯเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์มาได้ ส่วนเกมกับเนเธอร์แลนด์เขาก็มีส่วนเป็นคนสังหารจุดโทษเข้าไปพาอาร์เจนติน่าเข้ามาสู่แมตช์สำคัญนี้ได้สำเร็จ เขาประสบความสำหรับมาหมดแล้วทั้งกับสโมสรและรางวัลในประเภทบุคคล แต่สิ่งเดียวที่เขาขาดก็คือถ้วยเวิลด์ คัพ นัดชิงเกมนี้เขาก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะสร้างสรรค์โอกาสแต่มันก็ไม่เพียงพอ เมสซี่ เหลือเพียงแค่รางวัลปลอบใจก็คือรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์มาเน้นท์ รางวัลนี้แค่นั้นเอง
Adidas Silver Ball (นักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 2) : โธมัส มุลเลอร์ (เยอรมัน)
Adidas Bronze Ball (นักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 3) : อาร์เยน ร็อบเบน (เนเธอร์แลนด์)
Adidas Golden Boot (ดาวซัลโว) : ฆาเมส โรดริเกวซ (โคลอมเบีย) 6 ประตู 2 แอสซิสต์
หมายเลข 10 แห่งโคลอมเบีย เขาแจ้งเกิดทันทีในศึกเวิลด์ คัพ 2014 ที่ประเทศบราซิล ในครั้งนี้ เขาเริ่มยิงลูกแรกในเกมที่ถล่มกรีซไป 3-0 โดยทำประตูได้ในนาทีสุดท้าย และก็เหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ชนะไอเวอรี่ โคสต์ ไป 2-1 และอีก 1 ประตูในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่พบกับทีมชาติญี่ปุ่น เขาสามารถพาโคลอมเบียสร้างประวัติศาสตร์ได้สำเร็จในศึกเวิลด์ คัพ ครั้งนี้โดยการยิง 2 ประตูให้ทัพ ''โคเคน'' เอาชนะอุรุกวัยไปได้ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก แต่สุดท้ายเขาก็ต้องเข้าไปพบกับเจ้าภาพบราซิลและพ่ายแพ้ออกมา แต่ ฆาเมส ยังได้รับการปรบมือให้จากฝูงชนชาวบราซิลเลี่ยนที่เข้ามาชมในเกมนั้นอย่างกึกก้องสนามด้วยฟอร์มที่เขาสามารถทำมาได้ดีตลอดทัวร์นาเม้นท์นี้
Adidas Silver Boot (รองดาวซัลโว) : โธมัส มุลเลอร์ (เยอรมัน) 5 ประตู 3 แอสซิสต์
Adidas Bronze Boot (ดาวซัลโวอันดับ 3) : เนย์มาร์ (บราซิล) 4 ประตู 1 แอสซิสต์
Adidas Golden Glove (ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม) : มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมัน)
หลังจากคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก และ แชมป์สโมสรโลกได้สำเร็จกับสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ผู้รักษาประตูวัย 28 ปีคนนี้ ก็คว้ารางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำศึกฟีฟ่าเวิลด์ คัพ 2014 ไปครองได้อย่างต่อเนื่อง เขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงเหลือเกิน การมาบราซิลครั้งนี้เขาเสียไปเพียง 4 ประตู จาก 7 เกมที่ลงเล่น ทำให้ทางฟีฟ่า ไม่สามารถมอบรางวัลนี้ให้ใครได้อีกแล้วนอกจากผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติเยอรมันคนนี้ ในทัวร์นาเม้นท์นี้ เขายังสามารถสร้างมิติใหม่ให้กับผู้รักษาประตูได้อีกด้วย กับการที่ออกมาตัดบอลนอกกรอบเขตโทษอยู่บ่อยครั้งเปรียบดั่งกองหลังตัวสุดท้ายประจำทีม รางวัลนี้การันตีความเป็นสุดยอดผู้รักษาประตูของโลกสำหรับเขาจริงๆ
Hyundai Young Player Award (ดาวรุ่งยอดเยี่ยม) : พอล ป็อกบา (ฝรั่งเศส)
กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสเป็นผู้ถูกเลือกจากผู้เล่นที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม 1993 ในศึกเวิลด์ คัพ 2014 ครั้งนี้ กองกลางทีม ''ตราไก่'' โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในทัวร์นาเม้นท์นี้ โดยเขาพาทีมชนะเกมที่ไล่อัดสวิตเซอร์แลนด์ไปได้ 5-2 ด้วยการแอสซิสต์ให้เบนเซม่าทำประตู และก็ยังแอสซิสต์อีกหนึ่งครั้งในเกมที่ชนะไนจีเรีย 2-0 ซึ่งเกมนี้เขาก็สามารถคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองได้สำเร็จ รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลต่อเนื่องของเขาเลยหลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์ศึกเวิลด์ คัพ รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี มาแล้ว
FIFA Fair Play Award (ทีมที่เล่นอย่างขาวสะอาด) : โคลอมเบีย
แชมป์กลุ่ม ซี ที่สามารถผ่านเข้าไปได้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย คว้ารางวัลนี้ไปครอง ด้วยการที่สะสมใบเหลืองไปทั้งหมดเพียง 5 ใบจากการลงเล่น 5 เกม ในศึกเวิลด์ คัพ 2014 ครั้งนี้ ฟีฟ่าไม่ได้คำนวณแค่การได้รับใบเหลืองเพียงอย่างเดียว ยังวิเคราะห์ถึงการเล่นอย่างขาวสะอาดต่อฝ่ายตรงข้ามรวมไปถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ภายในทีมและผู้สนับสนุนต่างๆอีกด้วย