นักเตะยอดแย่ประจำทัวร์นาเม้นต์ - เฟร็ด
จริงๆมีให้เลือกหลายช๊อยส์ แต่เฟร็ด ชัดเจนกว่าเพื่อน โทษฐานเป็นมือปืนของชาติเจ้าภาพ และเต็งหนึ่งที่ตะคว้าแชมป์ เป็นความหน้าอับอายของมวลชนชาวบราซิล กับดาวยิงหมายเลข 9 ที่ย่ำแย่ที่สุดในวงการฟุตบอลแดน "แซมบา" หากมองย้อนไปในอดีตซึ่งยอดทีมแห่งเมืองกาแฟ มีกองหน้าระดับเวลิด์ คลาส มาทุกยุคทุกสมัย ไล่ตั้งแต่ เปเล่, ซิโก้, แยร์ซินโญ่, ทอสเทา, เบเบโต้, โรมาริโอ และ โรนัลโด้ จึงไม่แปลกที่ "เซเลเซา" จะตกรอบรองชนะเลิศไปอย่างบอบช้ำ ซึ่งเฟร็ด จึงกลายเป็นแพะรับบาปไปอย่างช่วยไม่ได้
ทีมยอดแย่ประจำทัวร์นาเม้นต์ - ทีมชาติอังกฤษ
อิตาลี่ กับ ฮอนดูรัส ก็อยู่ในข่ายนี้ รวมถึงเจ้าภาพบราซิลด้วย แต่ทีมแรกเอาชนะอังกฤษได้ ส่วนทีมหลังก็ตามมาตรฐาน ซึ่งทำได้แค่นั้น ขณะที่ทีมสุดท้าย ก็ยังถือว่ามาไกลถึงรอบรอง หากจะยกรางวัลยอดแย่ให้กับทีมอันดับ 4 ในเวิลด์ คัพ หนนี้ ก็ดูจะใจร้ายเกินไป ทั้งนี้อังกฤษมักจะตั้งความหวังไว้สูงเกินความเป็นจริง อย่างครั้งล่าสุด "ทรีไลอ้อนส์" ก็มองไกลถึงรอบ 8 ทีม สุดท้ายก็ปิ๋วแค่รอบแบ่งกลุ่ม ในแบบที่ไม่มีอะไรให้จดจำแม้แต่น้อย เมื่อเก็บไปเพียงคะแนนเดียวในรอบ 3 นัด บางเวลายังลืมไปเลยว่า ทีมชาติอังกฤษ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาด้วยเหรอ?
ม้ามืดประจำทัวร์นาเม้นต์ - คอสตาริก้า
เข้าป้ายตำแหน่งดังกล่าว โดยทิ้งคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น อาจจะมีชิลี, เม็กซิโก รวมถึงโคลอมเบีย แทรกเข้ามาในความคิดบ้าง แต่ชื่อของคอสตาริก้า มันโดนใจจริงๆ เริ่มตั้งแต่เต็งบ๊วยในเวลิด์ คัพ 2014 ถูกจับติ้วมาอยู่กลุ่มแห่งความตาย อีกทั้งทะลุไปไกลถึงรอบ 8 ทีม แถมแพ้ฮอลแลนด์ ในการดวลจุดโทษอีกต่างหาก และที่สำคัญเสียประตูไปเพียงลูกเดียว ซึ่งมาจากลูกจุดโทษ เสียด้วย
นักเตะทรงคุณค่า - อาร์เยน ร็อบเบน
จริงๆเจ้าตัวต้องได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์นี้ด้วย หากมองจากกระแสแฟนบอลทั่วโลก ซึ่งเทใจให้ปีกบาเยิร์น มิวนิค กันทั้งนั้น จะมีแต่ทีมงานฟีฟ่า ซึ่งติดภาพเก่าๆของ ลีโอเนล เมสซี่ จึงมอบรางวัลดังกล่าวให้กับดาวยิง "ฟ้าขาว" แบบค้านสายตา เท่ากับว่ารางวัลโกลเด้น บอล เริ่มหมดความขลังเข้าไปทุกที เพราะหลายปีที่ผ่านมา รางวัลดังกล่าวไม่ได้มอบให้กับนักเตะที่มาจากทีมแชมป์โลก แต่จะว่าไปส่วนหนึ่งที่ ร็อบเบน วืดรางวัลส่วนตัว ก็คงจะมาจากภาพลักษณ์ซึ่งไม่ค่อยดีนัก
นักเตะที่น่าผิดหวังที่สุด - คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ถูกตั้งความหวังไว้สูงพอๆกับ เมสซี่ หรือมากกว่า เนื่องจากพกดีกรีนักเตะบัลลงดอร์ มาที่บราซิลด้วย ทว่าน่าเสียดายที่เจ้าตัวก็พกอาการบาดเจ็บมาเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ "เจ็ทโด้" ไม่อาจเค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา ไม่งั้นสีสันเวลิด์ คัพ 2014 น่าจะมีมากกว่านี้ ทั้งนี้ โปรตุเกส ยังถูกยกให้เป็นม้ามืดในฟุตบอลโลกหนนี้อีกด้วย แต่อย่างว่า ทีมไหนถูกยกให้เป็นม้ามืด มักจะจอดไม่ต้องแจวอยู่ทุกครั้ง
ยิงเร็วที่สุด - คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์
เกิดขึ้นตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม เป็นเกมระหว่างสหรัฐฯ กับ กานา ในกลุ่มจี โดยเกมดำเนินไปได้พียง 29 วินาที "พญาอินทรี" ก็เบิกสกอร์แรกได้แล้ว และก็คงเป็นประตูที่เร็วที่สุดในทัวร์นาเม้นต์นี้อย่างไม่ต้องสัย เพราะประตูอื่นๆ ต่างเกิดขึ้นหลังจากผ่านนาทีแรกไปแล้วทั้งสิ้น ทั้งนี้ประตูของเดมพซี่ย์ ยังกลายเป็นลูกที่ยิงเร็วที่สุดเป็นอันดับ 5 ตลอดกาลในศึกเวิลด์ คัพ อีกด้วย
น่าเบื่อที่สุด - อาร์เจนติน่า vs ฮอลแลนด์
มีอยู่หลายแมตช์ที่รูปเกมไม่ออกรสเท่าที่ควร แต่โทษฐานที่คู่นี้ถูกคาดหวังไว้สูง ว่าจะเป็นมันระดับ 80 ตีนถีบ แถมเป็นรอบรองต่อจากคู่ เยอรมัน - บราซิล ซึ่งยิงกันสลุต 8 ลูก ทำให้คู่ดัตช์แมน กับ ฟ้าขาว ต้องทำให้ได้ไม่แพ้เกมนั้น ทว่ารูปเกมออกมากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ขนาดว่านอนแต่หัววัน ตื่นมาดูยังหลับๆ ตื่นๆ เพราะต่างฝ่ายต่างระวังตัว กลัวจะเสียประตู จึงเป็นเหตุให้เกมออกมาน่าง่วงนอนสุดๆ โดยบางคนให้นิยามกับเกมนี้ว่า มาแข่งดวลจุดโทษทีเดียวเสียยังจะดีกว่า
เร้าใจที่สุด - เยอรมัน vs แอลจีเรีย
ก็มีอีกหลายเกมเหมือนกันทีดำเนินไปด้วยความเร้าใข แต่ที่เลือกนัดนี้ก็เพราะว่า เป็นเกมที่หลายๆคนคิดว่าเป็นงานง่ายของพลพรรค "อินทรีเหล็ก" แต่ไปๆมาๆ "จิ้งจอกทะเลทราย" กลับสร้างความปั่นป่วนให้ยอดทีมจากยุโรปได้ตลอด 120 นาที ในแบบที่เปิดหน้าแลกแบบใครดีใครอยู่อีกด้วย ถึงแม้บทสรุปจะเป็นเยอรมัน ที่เอาชนะไปได้ แต่คงไม่น่าเกลียดนัก หากจะพูดว่าแอลจีเรีย เป็นทีมที่สร้างความหนักใจให้ทีมจากเมืองเบียร์มากที่สุดในทัวร์นาเม้นต์นี้แล้ว
สะเทือนใจที่สุด - เยอรมัน -vs- บราซิล
คงไม่มีเกมไหนเกินหน้าเกมนี้อีกแล้ว อาจจะพอมีคู่ฮอลแลนด์ ถล่ม สเปน 5-1 ทว่าเกมดังกล่าวออกแนวพลิกล็อก มากกว่าสะเทือนอารมณ์ ซึ่งแมตช์ "อินทรีเหล็ก" ฆาตกรรมขุนพล "เซเลเซา" ไม่ต่างกับจับนักโทษมาซ้อมต่อหน้าครอบครัว แล้วอ้อนวอนให้หยุดได้แล้ว มันช่างเป็นอะไรที่ทำร้ายจิตใจกองเชียร์บราซิลที่สุดแล้ว ซึ่งตั้งแต่คลอดออกจากท้องพ่อท้องแม่ เชื่อว่า คนบราซิล ไม่เคยเห็นเหตุการณ์ไหน หดหู่เท่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 อีกต่อไปแล้ว
พลิกล็อกที่สุด - คอสตาริก้า -vs- อิตาลี
เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมอีกนัดสำหรับ คอสตาริก้า การเอาชนะ อิตาลี แชมป์โลก 4 สมัย เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ "กล้วยหอม" จะทำได้อีก ถึงแม้อิตาลี จะอยู่ในยุคตกต่ำ แต่ทีมระดับคอสตาริก้า ซึ่งชื่อชั้นเป็นรอง "อัซซูรี่" แบบสุดกู่ ก็คงไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะเช็กบิลทีมดังจากยุโรปทีมนี้ได้