วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : เลสเตอร์ ซิตี้ (20) -vs- ลิเวอร์พูล (11)
สนาม : คิง พาว์เวอร์ สเตเดี้ยม
เวลา : 02.45 น.
ราคา : ลิเวอร์พูล ต่อ ครึ่งลูกลบห้า
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
28/03/04 เลสเตอร์ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
20/09/03 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1
31/01/02 ลิเวอร์พูล ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เลสเตอร์ ซิตี้
29/11/14 แพ้ ควีนส์ ปาร์ค แรนเจอร์ส 2-3 (เยือน) รอง ปป ... เสีย
22/11/14 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... เสีย
08/11/14 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 0-2 (เยือน) รอง 1.25 ... เสีย
01/11/14 แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-1 (เหย้า) ต่อ ปป ... เสีย
26/10/14 แพ้ สวอนซี ซิตี้ 0-2 (เยือน) รอง 0.5 ... เสีย
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 6 ชนะ 1 เสมอ 4 แพ้ 1 ได้ 10 เสีย 9
ลิเวอร์พูล
29/11/14 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 (เหย้า) ต่อ 0.75 ... ได้ครึ่ง
27/11/14 เสมอ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกร๊าด 2-2 (เยือน-ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) ต่อ 0.5 ... เสีย
23/11/14 แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-3 (เยือน) ต่อ 0.5 ... เสีย
08/11/14 แพ้ เชลซี 1-2 (เหย้า) รอง ปป ... เสีย
05/11/14 แพ้ เรอัล มาดริด 0-1 (เยือน-ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) รอง 2.0 ... ได้
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 6 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 4 ได้ 9 เสีย 12
ฟอร์ม 6 นัดหลังสุดในลีก
เลสเตอร์ ซิตี้
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 2 เสีย 3
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 0 แพ้ 3 ได้ 2 เสีย 7
ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 2 เสีย 2
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 4 เสีย 6
สถิติที่น่าสนใจ
- เลสเตอร์ ซิตี้ สามารเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ถึง 5 ครั้งจากการพบกัน 13 ครั้งหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 4 แพ้ 4)
- "จิ้งจอกสยาม" คว้าชัยได้เพียงแค่ 2 ครั้งจาก 19 เกมเหย้าในศึกพรีเมียร์ลีก (ชนะ 2 เสมอ 12 แพ้ 5)
- หงส์แดง" เอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 ในเกมล่าสุด เป็นการยุติสถิติไม่ชนะใคร 5 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ
สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม
เจ้าถิ่น เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 20 ของเทรนเนอร์ ไนเจล เพียร์สัน ยังคงฟอร์มไม่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพ่าย 6 เกมจาก 8 นัดหลังสุด (เสมอ 2 ครั้ง) สำหรับความพร้อมล่าสุดของทีมได้รับข่าวดีเมื่อ เดวิด นูเจ้นท์ หายเจ็บกลับมาลงซ้อมได้แล้ว และน่าจะมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมนี้ ส่วนในรายของ ดีน ฮัมมอนด์ กับ แม็ทธิว อัพสัน แม้จะหายเจ็บกลับมา แต่ก็ยังไม่พร้อมลงสนาม คาดว่า เพียร์สัน น่าจะใช้แผน 4-4-2 เข้าสู่กับ ลิเวอร์พูล โดยให้ ลีโอนาโด้ อูญัว (13 นัด/5 ประตู) จับคู่กับ เจมี่ วาร์ดี้ (11 นัด/1 ประตู) เป็นคู่หน้า และวาง เอสเตบัน กัมบีอัสโซ่เรซ (9 นัด/2 ประตู) ประสานงานกับ แม็ทธิว เจมส์ (9 นัด) ในแดนกลาง
ตัวแบน : -
เช็คฟิต :
กองหน้า - เดวิด นูเจ้นท์ (12 นัด/1 ประตู)
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - แม็ทธิว อัพสัน (-)
กองกลาง - ดีน ฮัมมอนด์ (8 นัด)
ส่วนทางฝั่งของทีมเยือนอย่าง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 18 ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพิ่งจะพาทีมปลดล็อคเก็บชัยได้เป็นเกมแรกในรอบ 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ สำหรับความพร้อมล่าสุดของทีมจะยังไม่มีชื่อของ มาริโอ บาโลเตลลี่ กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่ยังเจ็บอยู่ ทำให้ ริคกี้ แลมเบิร์ต ยังคงได้รับโอกาสลงสนามต่อไป แต่ว่ามีข่าวดีเล็กน้อยเมื่อ มามาดู ซาโก้ กองหลัวผิวหมึกหายเดี้ยงกลับมาลงซ้อมได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ฟิตพอที่จะส่งชื่อลงสนามได้ คาดว่า ร็อดเจอร์ส น่าจะส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลังดร็อปเป็นสำรองสองเกมก่อนหน้านี้ และใช้ โจ อัลเลน (9 นัด) ประสานงานกับ ลูคัส เลว่า (4 นัด) ในตำแหน่งคู่กลาง
ตัวแบน : -
เช็คฟิต : -
ตัวเจ็บ/หมดสิทธิ์ :
กองหลัง - จอน เฟลนาแกน (-), มามาดู ซาโก้ (3 นัด)
กองกลาง - ซูโซ่ (-)
กองหน้า - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (3 นัด/1 ประตู), มาริโอ บาโลเตลลี่ (9 นัด)
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริตชี่ เดอ เลียต, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, เวส มอร์แกน, พอล คอนเชสกี้ - เอสเตบัน กัมบีอัสโซ่เรซ, ริย๊าด มาห์เรซ, แม็ทธิว เจมส์, เจฟฟรี่ย์ ชลุ๊ปป์ - เจมี่ วาร์ดี้, ลีโอนาโด้ อูญัว
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : ซิมง มิโญเล่ต์ - ฆาเบียร์ มานกีโญ่, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, เกล็น จอห์นสัน - ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิง - ริคกี้ แลมเบิร์ต
ทรรศนะ Deathphobia11
เจ้าบ้าน "จิ้งจอกสยาม" มีปัญหาในเรื่องเกมรับอย่างหนัก โดยเสียไป 13 ประตูใน 7 เกม (ไม่นับเสมอ 0-0) แถมฟอร์มการเล่นในบ้านฤดูกาลนี้ 6 ครั้ง สามารถเอาชนะได้เพียงแค่หนเดียวในเกมที่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-3 ซึ่งหลังจากนั้น 8 เกมต่อมา พวกเขาก็เหมือนต้องสาปให้ไร้ชัยยาวจนหล่นมาอยู่บ๊วย ส่วนทางฝั่ง "หงส์แดง" ที่กำลังคัมแบ็คกลับมาอีกครั้ง และเพิ่งจะเปิดบ้านเอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 1-0 ซึ่งฟอร์มโดยรวมในเกมนั้นยังถือว่าดี แต่ยังขาดจังหวะจบที่่ไม่แม่นเป้าเท่านั้นเอง และดูเหมือนว่าการให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กลับมาเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์จะทำให้ดีกรีความร้อนแรงของเกมรุก ลิเวอร์พูล ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เชื่อว่าพวกเขาจะเดินเกมบุกเข้าใส่เจ้าบ้านไม่ยั้งแน่นอน ฟันธง! "หงส์แดง" เรียกความมั่นใจใส่เต็มสูบ เฉือนเรทครึ่งเม็ดเสร็จโจร...!
ชี้ชัด : เชียร์ทีมต่อ
ฟันธง : "ลิเวอร์พูล บุกชนะ 1-0"
อัตราความมั่นใจ : 8/10